20 เม.ย. 2022 เวลา 12:16
6 ข้อควรรู้เกี่ยวกับทอง
ทองแท้มีกี่เปอร์เซ็น
คุณเคยคุ้นหูกับศัพท์เกี่ยวกับทองคำเหล่านี้มั้ยครับ “ทองร้อย” “ทองสวิส” “ทองเค” “ทองร้อยเปอร์เซ็นต์ไทย” “ทองโฟร์เก้า” เชื่อว่าทุกท่านน่าจะเคยได้ยิน่ผ่านหูมาบ้างไม่มากก็น้อย ในวันนี้เราจะมาอธิบายให้ฟัง เกี่ยวกับความหมาย ของศัพท์ต่างๆเหล่านี้ครับ เพื่อให้ท่านเข้าใจ ไม่โดนหลอกหลวง และได้สินค้าในราคาที่เป็นธรรมครับ
จะซื้อทองสักเส้นควรเริ่มจากอะไร
ทองเป็นแร่มีค่า ที่มีราคากลางตายตัว ราคาทองขึ้นลงทุกวันตามสภาวะทางเศษฐกิจ สิ่งแรกที่เราควรรู้คือราคาทองในวันนั้นๆ ราคาทองต่อวันจะมีสองราคาคือ
1
ราคาทองแท่ง อันนี้ตามชื่อที่เรียกเลยครับ ก็คือราคาของทองแท่ง อันนี้เป็นราคาหากเราต้องกาซื้อทองแท่งเท่านั้นครับ
ราคาทองรูปประพรรณ อันนี้คือราคาทองที่เราควรรู้ครับ ทองรูปประพรรณ หมายถึง ทองคำที่ทำออกมา เป็นเครื่องประดับต่างๆแล้ว เช่นสร้อยคอ กำไล แหวน ต่างหู อันนี้เป็นราคาที่เราควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อทองในวันนั้นๆครับ ราคานี้สามารถเช็คได้ทั่วไป แต่จะไม่ใช่ราคาขาย ที่คนขายจะใช้ขายเรา เพราะทองทุกเส้นจะมีราคาค่าแรง (ค่าทำ) ของแต่ละร้านแตกต่างกันไป แต่อย่างน้อยเราก็จะพอรู้ราคาขั้นต่ำที่เราต้องจ่ายครับ
1
ราคาค่าแรง ของทองแต่ละแบบจะไม่เท่ากันครับ และค่าแรงของแต่ละร้านก็ไม่เท่ากัน มากน้อยแล้วแต่ความปราณีต และความยากง่ายของลวดลาย ค่าแรงส่วนมากทางร้านจะคิดต่อน้ำหนักทอง1บาท เช่นสร้อยคอลายพิกุลค่าแรงบาทละ 5,000บาท สร้อยมีน้ำหนักทอง 3บาท ค่าแรงของสร้อยเส้นนี้จะอยู่ที่ 15,000บาท เมื่อบวกกับราคาทอง ณ วันนั้น นั้นก็คือราคาขายครับ ซึ่งราคาค่าแรกสามารถต่อรองกับทางร้านได้น่ะครับ
น้ำหนักทอง 1บาท จะเท่ากับ 15.2g เดียวนี้หลายร้านเริ่มขาย โดยคิดราคาเป็นกรัมเลย ซึ่งสะดวกกว่า หากเราต้องการจะรู็ราคาเป็นบาท ก็เอาราคาต่อกรัม X 15.2 = ราคาต่อน้ำหนักทอง 1บาทครับ
หาซื้ออยากร้านที่ไว้ใจได้ ถึงแม้ปัจจุบันการโกงเปอร์เซ็น และน้ำหนักทอง จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นน้อยมาก แต่ซื้ออยากร้านที่ไว้ใจได้ย่อมสบายใจกว่า รวมถึงหากต่อไปเรามีความจำเป็นต้องขาย ก็จะได้ราคาดีกว่า เพราะว่า ทองซื้อร้านไหน ควรขายคืนร้านนั้นครับ
1
คราวนี้เรามาดูกันครับว่าทองที่ขายอยู่ในท้องตลาดทั่วไป มีเปอร์เซ็นต์อะไรบ้าง และแต่ละอย่างแตกต่างกันอย่างไร เราขอเริ่มจาก เปอร์เซ็นต์ทองสูงสุด ไปต่ำสุดน่ะครับ
ทอง 24k (99.99%) อันนี้คือทองที่บริสุทธ์ ที่สามารถหาซื้อได้ในท้องตลาดครับ ราคาก็จะสูงที่สุดด้วย สีของทอง 24k เมื่อมาทำเป็นเครื่องประดับ จะออกสีเหลืองด้านๆ ดูแล้วร่วมสมัย เนื้อทองจะมีความนิ่ม แต่เหนียว ยิ่งถ้าทำเป็นลายแบบไทยๆยิ่งสวยงามมากครับ
ทอง 22k (96.5%) อันนี้เป็นทองที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย บางครั้งเรีกกันติดปากว่า “ทองร้อยเปอร์เซ็นต์ไทย” ทอง 22k คือจะมีทองคำ ผสมอยู่ 91 - 96.5% ที่เหลืออาจเป็นแร่อื่นๆ เพื่อให้เนื้อทองมีความแข็งกว่าทอง 24k เพื่อให้สามารถทำลวดลาย ได้ระเอียดมากขึ้น สีของทองจะออกเหลืองสว่างๆ ใส่แล้วสะดุดตา
3
ทอง 20k (90%) หรือที่เราคุ้นหูส่า “ทองเก้าสิบ” จะมีส่วนผสมของทองคำอยู่ 90% ทองลักษณะนี้มักจะ ถูกใช้ทำเครื่องประดับจิวเวอรี่ มากกว่าขายเป็นทองทั้งเส้นแบบทอง 24k และ 22k ด้วยความที่มีเนื้อทองแข็งขึ้นตามเปอร์เซ็นต์ทองที่น้อยลง จึงนิยมใช้ทำเป็นตัวเรือนที่มีพลอย หรือ เพชรฝังอยู่ด้วย อาธิเช่น แหวนเพชรซีก หรือ แหวนนพเก้า
4
ทอง 18k (75%) จะมีส่วนผสมของทองคำอยู่ 75% หรือบางครั้งก็ถูกเรียกว่า “ทองอิตาลี่” จุดเด่นของทอง 18k คือการนำไปผสมกับแร่มีค่าอื่นๆให้เกิดสีสันขึ้นใหม่ เช่น ทองขาว และ ทองชมพู แค่ด้วยความที่มีแร่ทองคำอยู่ถึง 75% เมื่อใช้ไปนานๆ (หลายปี) สีจะค่อยๆจางลงเป็นสีทอง งานทอง 18k ส่วนมากจะไม่ได้ขายตามน้ำหนักทองต่อบาท เพราะมีส่วนผสมของแร่มีค่าอื่นๆ (แล้วแต่สูตรของแต่ละที่) ราคาจึงคิดเป็นเหมือนงานจิวเวอรี่ คือคิดต่อชิ้นแล้วแต่ดีไซน์
วิธีดูเปอร์เซ็นต์ทองเบื้องต้นด้วยตัวเอง
การไปซื้อทองในบัจจุบัน ไม่ใช่เรื่องหน้ากลัวอีกต่อไป ทุกร้านที่ขายมีความซื้อตรงต่อลูกค้า รวมถึงมีสมาคมผู้ค้าทองคอยดูแล ผู้ปริโภคจึงปลอดภัยและสบายใจได้ครับ แต่รู้ไว้ก็ไม่เสียหาย วิธีการดูเปอเซ็นต์ทองเบื้อต้นคือ การดูตัวเลข ที่สแตมไว้ตรงตะขอของสร้อยทองเส้นนั้นๆ หากเป็นทอง 24k ก็จะมีเลข 9999 แสตมไว้ตัวเล็กๆที่ตะขอ หากเป็นทอง 22k ก็จะเป็นตัวเลข 965 และถ้าเป็นทอง 18k ก็จะมีตัวเลข 750 แสตมไว้ครับ ตัวเลขที่แสตมไว้ก็คือค่าของเปอร์เซ็นทองนั้นเองครับผม
2
ทำไมขายทองจึงควรขายกับร้านที่ซื้อมา
อันนี้เราบอกเลยว่าเป็นเรื่องของการบริการหลังการขายครับ การที่เรานำทองจากร้านนั้นๆกลับมาขายที่ร้าน ข้อดีอย่างแรกคือ ไม่เสียเวลาต้องมานั่งดูว่าเป็นทองจริงหรือปลอม และก็ไม่ใช่ร้านทองทุกร้านที่ยินดีรับซื้อ สร้อยทองจากลูกค้า การนำกลับไปขาย ที่ร้านที่ซื้อมา อย่างน้อยๆก็ประหยัดเวลาของคุณ ไม่ให้คุณต้องไปเก้อ แล้วเจอร้านที่ไม่รับซื้อครับ
อีกข้อคือ สร้อยทองหากใช้มาสักระยะ จะมีคราบเหงื่อไครหรือพวกครีมบำรุงผิว ฝังตัวอยู่ตามลายของเนื้อทอง หากคุณนำเส้นทองไปขายยังร้านที่ไม่รู้จัก เค้าจะต้องเอาเส้นทองของคุณนั้นไปต้มน้ำสารส้มเพื่อล้างสิ่งสกปรกออก หรือบางร้านอาจจะขอเอาตะไบ ฝนสร้อยทองของคุณดูเลย ว่าเนื้อในนั้นเป็นทองจริงหรือไม่ ขั้นตอนทั้งหมดนอกจากเสียเวลาแล้ว ยังอาจทำให้เกิดความหงุดหงิดได้ แต่การกลับไปขายที่ร้านที่ซื้อมา ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นครับ
5
คนแห่ขายทองหลังราคาทองพุ่งขึ้นสูง
โฆษณา