Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กฎหมายรอบตัวเรา
•
ติดตาม
30 เม.ย. 2022 เวลา 12:30 • การศึกษา
Creative Commons ดูอย่างไร ?
picture from https://unsplash.com/photos/fIq0tET6llw
ก่อนที่จะรู้ว่า Creative commons (CC) คืออะไร ต้องรู้เกี่ยวกับกฎหมายลิขสิทธิ์สักเล็กน้อย
ปัจจุบันเราเข้าถึงสื่อ online ต่างๆได้อย่างง่ายดาย ซึ่งบางครั้งเราเห็นว่าสื่อนั้นดี น่าแชร์ต่อ หรือเอามาดัดแปลงแล้วเพิ่มเติมของเราเข้าไปนิดหน่อยก็แชร์ต่อเป็นของเราแบบนี้ ...มันอาจจะเสี่ยงละเมิดลิขสิทธิ์ได้นะครับ
ของที่เราเอาของคนอื่นมาใช้ต้องพิจารณาก่อนว่ามีลิขสิทธิ์ไหม ไม่ว่าจะเป็น บทความ ภาพ วีดีโอ สื่อต่างๆ เป็นต้น เพราะหากละเมิดลิขสิทธิ์แล้ว เสี่ยงทั้งคุกและต้องชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งด้วย
หลักการพิจารณาเรื่องลิขสิทธิ์ พิจารณาแบบง่ายๆก็ประมาณนี้
1. เป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ไหม (บางอย่างไม่มีลิขสิทธิ์)
2. หากมีลิขสิทธิ์ มีกฎหมายยกเว้นหรือไม่
3. หากมีลิขสิทธิ์ ไม่มีกฎหมายยกเว้น แล้วเจ้าของอนุญาตให้ใช้ไหม
สุดท้ายหากไม่มีข้อยกเว้นอะไรเลย อย่างนี้ต้องของอนุญาตเจ้าของตรงๆก่อนนำไปใช้นะครับ ลองดูแผนภาพข้างล่าง (คราวหน้าค่อยลงรายละเอียดเรื่อง ลิขสิทธิ์)
อ้างอิง พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537-2565
ทีนี้ก็เข้าเรื่องของบทความวันนี้ ซะที
การที่เจ้าของต้องการเผยแพร่ผลงาน ก็อาจจะแสดงเป็นสัญลักษณ์ของระบบ Creative commons ได้ ซึ่งปัจจุบัน ใช้เวอร์ชั่น 4 แล้ว : Attribution 4.0 International (CC BY 4.0)
Creative Commons เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร (nonprofit organization) ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นตัวกลางในการแสดงสัญลักษณ์ต่างๆเกี่ยวสับสิทธิ์ในการเผยแพร่ผลงาน (copy right) ให้กับงานที่บุคคล องค์กร หรือหน่วยงานสร้างขึ้นมาแล้วนำไปเผยแพร่
คือ พูดง่ายๆว่า ใครอยากเผยแพร่งานตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ infographic หรืองานอื่นๆ แล้วให้คนอื่นนำไปใช้ได้ตามสิทธิ์ที่เราอยากจะให้ใช้ เราก็ใช้สัญลักษณ์สากลนี้ติดที่งานนั้นไปด้วย เพราะหากเราไม่ติด ใครจะไปรู้ว่า เราอนุญาตเผยแพร่งานเราได้แค่ไหน จริงม๊ะ
ประโยชน์ของ CC
1.
เป็นการสร้างองค์ความรู้ให้เกิดขึ้นทั่วโลก คือ เมื่อมีการแชร์ต่อได้เรื่อยๆ ก็จะมีคนนำความรู้ไปใช้เป็นทวีคูณ
2.
มีการแชร์การแสดงออกซึ่งวัฒนธรรม (culture) ไปทั่วโลก เนื่องจากความรู้หรือสื่อที่แสดงออกไป สามารถบ่งบอกวัฒนธรรมของสังคมต่างๆได้
3.
การมี CC ก็เหมือนนำของที่ใช้แล้วมา Reuse ด้วย ลดการใช้ทรัพยากร (อย่างน้อยก็ลดภาะของที่เก็บของ server แหละน่า)
ประโยชน์อีกอย่าง สำหรับคนที่อยากเผยแพร่งานตัวเองแล้วให้คนอื่นนำไปใช้มากๆ มีบริการ cc search (
https://wordpress.org/openverse/?referrer=creativecommons.org
) ซึ่งใช้หาผลงานที่แผยแพร่ได้ สามารถกรองการค้นหาได้ตามแบบสิทธิ์ที่ต้องการ (ปัจจุบันมีงานที่เป็นแบบ audio ซึ่งอยู่ในขั้นทดลองใช้ด้วย)
แล้วจะอ่านสัญลักษณ์อย่างไร
หลักการคือ (ดูภาพประกอบ)
1. สัญลักษณ์ขั้นต่ำ คือ เครื่องหมาย CC และรูปคน คือ แชร์ได้และต้องอ้างอิงแหล่งที่มา (การมีสัญลักษณ์เพิ่มจากนี้แสดงว่ามีข้อจำกัดมากขึ้น คล้ายกฎหมายอาญา คือ ไม่มีข้อห้ามก็ทำได้ ห้ามทำเมื่อมีข้อห้าม ซึ่งใช้หลักไม่มีกฎหมายไม่มีความผิดและไม่มีโทษ)
2. ต้องพิจารณา 3 เรื่องหลักๆด้วยกัน คือ แชร์แบบเจ้าของแชร์มาหรือไม่ ดัดแปลงก่อนแชร์ต่อได้หรือไม่ และเอาไปทำมาค้าขายได้หรือไม่ ซึ่งสัญลักษณ์จะมีทั้งหมด 6 แบบ
สัญลักษณ์ CC ทั้งหมด 6 แบบ
หากดูเป็น matrix ก็ประมาณภาพข้างล่าง (ละเว้น CC ไว้ในฐานที่เข้าใจ)
https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Creative_Commons_Licenses.png
แต่ถ้าหากอยากเผยแพร่ผลงานแล้วไม่รู้จะใส่สัญลักษณ์อะไรบ้าง เค้าก็มีแบบสอบถามให้เราตอบไม่กี่คำถาม แล้วเราก็ได้สัญลักษณ์ออกมาเลย ดังภาพ
โดยท่านสามารถเข้าไปทำได้ที่ https://creativecommons.org/choose/
สุดท้าย จริงๆ ยังมีสัญลักษณ์อีกอย่างที่ผู้สร้างสรรค์ผลงานอนุญาตได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งไม่ต้องอ้างอิงแหล่งที่มาเลยก็ได้ เรียกว่า public domain (สัญลักษณ์ C ขีดฆ่าแนวเฉียง)
#CCTurns20
#BetterSharing
tagging @creativecommons
อ้างอิง
-พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
-About The Licenses (
https://creativecommons.org/licenses/
)
-Creative Commons Licenses (
https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Creative_Commons_Licenses.png
)
ลิขสิทธิ์
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย