8 เม.ย. 2022 เวลา 02:50 • ธุรกิจ
รู้จัก Uralkali ผู้ผลิตโพแทชจากรัสเซีย ต้นตอปุ๋ยแพงอาหารแพง ในปีนี้
3
สงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย ไม่เพียงแต่ทำให้น้ำมันแพงขึ้นเท่านั้น
แต่สิ่งที่เรากินทุกวันอย่าง “อาหาร” ก็กำลังแพงขึ้นเช่นกัน
นอกจากยูเครนและรัสเซียจะเป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าเกษตรรายใหญ่แล้ว
ประเทศรัสเซียยังเป็นผู้ผลิตปุ๋ยเคมีและสารตั้งต้นรายใหญ่ของโลกด้วยเช่นกัน
เมื่อรัสเซียมีปัญหา ราคาปุ๋ยจึงแพงขึ้น
ในเวลาต่อมา ก็ได้ทำให้ต้นทุนของเกษตรกรทั่วโลกนั้นสูงขึ้นไปด้วย
1
วันนี้ เรามารู้จักผู้ผลิต “โพแทช” ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของปุ๋ยเคมีรายใหญ่
ชื่อว่า Uralkali บริษัทที่เริ่มจากการทำเหมืองแร่เล็ก ๆ ในสมัยของสหภาพโซเวียต
จนกลายมาเป็นผู้ผลิตโพแทช รายใหญ่ของโลก
1
เรื่องราวของบริษัทนี้ เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
อยากลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ไม่อยากลงทุนเอง?
Merkle Capital ผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลรายแรกของไทย ในเครือ Cryptomind Group จับมือ StockRadars เปิดโลกการลงทุน ลุ้นโอกาสใหม่ในโลกคริปโทเคอร์เรนซี่
เริ่มต้นลงทุนผ่าน StockRadars ขั้นต่ำ 100,000 บาท ได้ที่นี่ https://bit.ly/3DmIFJL
╚═══════════╝
1
ย้อนกลับไปในปี 1925 หลังจากที่สหภาพโซเวียตได้ถูกก่อตั้งขึ้นเพียง 3 ปี
กลุ่มนักสำรวจแร่ชาวโซเวียตได้ค้นพบแหล่งแร่โพแทชและเกลือหิน ที่มีปริมาณแร่สำรองเป็นอันดับสองของโลก บริเวณเทือกเขาอูราล ทางภาคตะวันตกของประเทศ
รัฐบาลของสหภาพโซเวียต จึงได้จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อทำการสร้างเหมืองและอุตสาหกรรมแร่โพแทชในบริเวณนั้นขึ้น
จนกระทั่งในปี 1934 Uralkali ก็ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อมาดูแลอุตสาหกรรมแร่โพแทชในบริเวณนั้น
2
รวมถึงได้มีการเริ่มสายการผลิตแร่คาร์นัลไลต์ ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการบิน ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากสหภาพโซเวียต ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในคู่ขัดแย้งของสงคราม
ภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้จบลง การก่อสร้างนิคมเหมืองแร่โพแทชแห่งที่สอง จึงได้เริ่มต้นขึ้น
การดำเนินงานของ Uralkali ภายใต้รัฐบาลของสหภาพโซเวียตนั้นก็ไม่ได้หวือหวาเท่าไรนัก
แต่ถึงอย่างนั้น ก่อนที่สหภาพโซเวียตจะล่มสลายในปี 1991 Uralkali ก็ได้ขยายนิคมเหมืองแร่โพแทชออกไปถึง 4 แห่ง จนกลายเป็นผู้ผลิตแร่โพแทชที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ เวลานั้น
2 ปีต่อมา รัฐบาลของนายบอริส เยลต์ซิน ประธานาธิบดีของประเทศรัสเซีย ซึ่งแตกออกมาจากสหภาพโซเวียต ต้องการที่จะปฏิรูปประเทศให้ทันสมัยทัดเทียมกับโลกตะวันตก
จึงได้เริ่มดำเนินการนำองค์กรของรัฐต่าง ๆ มาแปรรูปเป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งก็รวมถึง Uralkali และองค์กรของรัฐอีกหลายแห่ง ทำให้บริษัทได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่
ในปี 2001 บริษัทได้สร้างท่าเรือ “Baltic Bulk Terminal” ที่เมืองเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก เพื่อใช้ส่งออกสินแร่ต่าง ๆ ไปยังต่างประเทศโดยตรง ทำให้ผลประกอบการของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างมาก
6 ปีต่อมา Uralkali ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ซึ่งนักลงทุนทั่วโลกต่างก็ให้ความสนใจบริษัทแห่งนี้เป็นอย่างมาก สะท้อนให้เห็นจากปริมาณการจองหุ้น ที่สูงกว่าจำนวนที่เปิดขายถึง 23 เท่า
1
หลังจากนั้นบริษัทก็ได้ขยายกิจการไปอย่างรวดเร็ว ด้วยการเข้าซื้อผู้ผลิตโพแทชรายใหญ่ในรัสเซียอีกรายที่มีชื่อว่า “Silvinit” ทำให้กำลังการผลิตโพแทชของ Uralkali นั้น คิดเป็น 20% ของตลาดโลก
1
ทีนี้เรามาดูกันว่า “โพแทช” นั้นสำคัญอย่างไร ?
1
โพแทช คือคำรวม ๆ ที่ใช้เรียกแร่ธาตุที่มีส่วนประกอบของโพแทสเซียม
ซึ่งมนุษย์รู้จักการใช้งานมาตั้งแต่สมัยยุคสัมฤทธิ์
ไม่ว่าจะเป็นการฟอกสีผ้า ผลิตสบู่ ทำเซรามิก หรือการทำกระจก
สำหรับปัจจุบันนั้น โพแทชมีความสำคัญอย่างมากสำหรับอุตสาหกรรมเคมี
แต่ว่าที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์มากที่สุด ก็คือ “การผลิตปุ๋ยเคมี” ในรูปของโพแทสเซียมคลอไรด์
2
ซึ่งสินค้าหลักของบริษัท Uralkali ก็คือ โพแทสเซียมคลอไรด์ ที่ได้มาจากเหมืองแร่โพแทช
มีกำลังการผลิตอยู่ที่ราว 11 ถึง 12 ล้านตันต่อปี แบ่งออกได้เป็น 4 ชนิด
- Standard ใช้ผสมในดินโดยตรง หรือนำไปทำปุ๋ย NPK
- Granular ใช้ผสมในดินผ่านเครื่องจักร หรือผสมรวมกับปุ๋ยแร่ธาตุอื่น ๆ
- Standard +60% โพแทสเซียมออกไซด์ ใช้ทำแม่ปุ๋ย หรือเป็นสารตั้งต้นในการผลิตสารเคมีต่าง ๆ ที่ใช้ในอุตสาหกรรม อย่างเช่น โพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ โพแทสเซียมซัลเฟต
- Pelletized ใช้เป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการผลิตโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ เหมาะสำหรับการขนส่งระยะไกล
2
และหากลองแบ่งยอดขายตามภูมิศาสตร์ เราจะพบว่า
- การส่งออกไปยังต่างประเทศ 83%
- ขายภายในประเทศ 17%
1
แล้วผลประกอบการของ Uralkali เป็นอย่างไรบ้างในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ?
1
ปี 2562 รายได้ 93,000 ล้านบาท กำไร 40,600 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 90,000 ล้านบาท ขาดทุน 1,400 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 140,000 ล้านบาท กำไร 60,000 ล้านบาท
1
จากผลประกอบการจะเห็นได้ว่ารายได้ของบริษัทนั้นเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด
เนื่องจากราคาของโพแทชที่พุ่งสูงขึ้นมากในช่วงปีที่ผ่านมา
1
หากเรามาดูกันที่ในตลาดโลก แม้ว่าแคนาดาจะเป็นผู้ส่งออกโพแทสเซียมคลอไรด์เป็นอันดับหนึ่งของโลก คิดเป็นประมาณ 40% ของทั้งตลาด
แต่ว่า Uralkali ซึ่งเป็นบริษัทผู้ส่งออกหลักของประเทศรัสเซียนั้น
ส่งออกแร่โพแทสเซียมคลอไรด์ คิดเป็นเกือบ 20% ของทั้งโลกเลยทีเดียว
1
ถึงตรงนี้เราคงพอเข้าใจได้ว่า ทำไมเมื่อเกิดสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย และมีการคว่ำบาตรสินค้าจากรัสเซียนั้น จึงทำให้ปริมาณโพแทสเซียมคลอไรด์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของปุ๋ยเคมีหายไปจากตลาดโลก
1
และก็ยังไม่รวมถึงส่วนประกอบอื่น ๆ อย่าง ไนโตรเจน ที่ได้มาจากแก๊สธรรมชาติ ซึ่งรัสเซียเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลกเช่นเดียวกัน
1
ทั้งหมดที่กล่าวมา จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมราคาของปุ๋ยในตลาดโลกจึงแพงขึ้นอย่างมากในช่วงนี้
1
เรื่องนี้จะส่งผลให้ต้นทุนของเกษตรกรทั่วโลกนั้นสูงขึ้น และผลผลิตจากภาคการเกษตรลดลง
และท้ายที่สุด ก็จะสะท้อนไปสู่ราคาอาหารที่แพงขึ้น ซึ่งเราจะได้พบเจอในอีกไม่นานนี้..
╔═══════════╗
อยากลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ไม่อยากลงทุนเอง?
Merkle Capital ผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลรายแรกของไทย ในเครือ Cryptomind Group จับมือ StockRadars เปิดโลกการลงทุน ลุ้นโอกาสใหม่ในโลกคริปโทเคอร์เรนซี่
ลงทุนครั้งแรก 🏅
❤️ ลงทุนครบ 200,000 บาท
รับฟรี เสื้อยืด Cryptomind และ ตุ๊กตา Radars Man จาก StockRadars
❤️ ลงทุนครบ 500,000 บาท
รับฟรี Cryptomind Research Investment Outlook Printed Edition, เสื้อยืด Cryptomind, และ ตุ๊กตา Radars Man
พิเศษ! รับสิทธิ์ร่วม Merkle x StockRadars Exclusive Online Workshop (จำนวนจำกัด)
แคมเปญหมดเขต 12 เม.ย. นี้เท่านั้น!
เริ่มต้นลงทุนผ่าน StockRadars ขั้นต่ำ 100,000 บาท ได้ที่นี่ https://bit.ly/3DmIFJL
╚═══════════╝
โฆษณา