8 เม.ย. 2022 เวลา 08:43 • ท่องเที่ยว
วันที่สองของการท่องเที่ยว เราเริ่มด้วยการทานอาหารเช้าที่โรงแรม The 28th Hotel อาหารอร่อยและหลากหลาย จะอาหารไทย จะเบรคฟาสต์ จะฟาดเบาๆ แบบซีเรียล มีให้ครบ ที่ประทับใจคือมีเบคอนด้วย 😍🤩 คุณแม่หักคะแนนกาแฟว่าไม่เข้มข้น แต่โดยรวมด้วยราคาห้อง คุณภาพห้องและคุณภาพอาหารถือว่าดีมากทีเดียว
เป้าหมายแรกของเราในวันนี้คือสนองความชอบตนเองด้วยการไปเที่ยวสวนสัตว์
จุดหมายแรกคือสวนสัตว์ค่ายสุรสีห์ เป็นอีกครั้งที่พี่กูเกิลแมพพาเราพุ่งทะลุค่ายทหารไปโผล่ถนนอีกด้าน สวนสัตว์ดูไม่ใหญ่โต มีพลทหารหน้าตาดีนั่งอยู่หลังโต๊ะใหญ่ๆ ที่มีตะกร้าแตงกวาขนาดเล็กๆ วางเรียงราย ได้ความว่าให้หย่อนเงินสนับสนุนเท่าไรก็ได้ แล้วก็หยิบตะกร้าไปได้ เราก็หยอดไปยี่สิบแล้วหยิบมาหนึ่งใบ น้องทหารใจดีบอกว่า "หยิบไปเยอะๆ ก็ได้ครับ" เราเลยหยิบเพิ่มมาอีกสองใบ ที่นี่มีสัตว์หลากหลายมากกว่าที่คาดคิดไว้ตามภาพ
ที่น่าเหลือเชื่อคือสัตว์ทุกตัว 'กระสัน' จะกินแตงกวาแบบขั้นสุด นอกจากน้อง ณเดช ทุกตัวเห็นถือแท่งเขียวๆ ไม่ได้ เดินตาม บางตัวมีร้องเรียกด้วย
แต่บางตัวก็แอบใจสั่นเวลาส่งแตงกวา
น้องชะนี....ทำไมไม่อยู่ในกรงคะ 😂 แอบกลัว...มีการห้อยตัวมาแบมือขอด้วย ส่วนน้องนกกระจอกเทศมีการจกแตงกวาที่ค่อนข้างรุนแรง ใจไม่ถึง กรุณาใช้ไม้นะคะ ตอนแรกจะใจถึง แต่รูกรงน้องทำให้ใจไม่ดี หัวยืดออกมาได้ไม่สิ้นสุด เลยยอมใช้ไม้
เราเดินออกจากที่นี่ด้วยใจฟูระดับหนึ่ง และพร้อมจะใจฟูไปอีกระดับกับจุดหมายถัดไป นั่นคือซาฟารีเวิลด์เสียค่าเข้าคนละสองร้อย อาหารสัตว์ตะกร้าละร้อย หมดไปแปดร้อยกับความสนุก 30 นาทีเต็ม บนรถมีครอบครัวเราสามคนกับคู่รักอีกหนึ่งคู่ เป็นเพื่อนร่วมรถที่ถ้อยทีถ้อยอาศัย สัตว์ที่เราได้ผ่านพบเจอมีประมาณนี้
ให้อารมณ์แบบสัตว์มาดูเรา มากกว่าเรามาดูสัตว์ มีประตูกั้นโซนสัตว์เป็นส่วนๆ เหมือนที่เห็นในหนังจูราสิค พี่คนขับรถอารมณ์ดีและกล้าหาญ เพราะสามารถเปิดประตูรถในโซนที่ไม่น่าเปิดได้
ในบรรดาสัตว์นานา มียีราฟที่ออกจะสนุกกว่าตัวอื่นเวลาให้อาหาร ลิ้นยาวๆ ล้วงเอาแครอทจากตะกร้าโดยง่าย ในการให้อาหารยีราฟครั้งนี้เหมือนย้อนวัยคุณแม่กลับไปเป็นเด็กสาววัย 14 ที่วี๊ดว๊ายได้น่ารักเหมือนสาวรุ่นๆ ส่วนคุณพ่อดูจะไม่อิน เห็นท่านคอยนั่งหลบหัวยีราฟที่พุ่งผ่านกระจกทุกบานที่เปิดอย่างสงบ พวกเราแม่ลูกถนอมแครอทบางส่วนเผื่อม้าลายในโซนสุดท้าย แต่น่าเสียดาย เพราะม้าลายชอบหญ้าที่พื้นมากกว่าแครอท
จริงๆ แล้วนอกจากการชมสัตว์บนรถ ค่าเข้ายังรวมถึงส่วนการแสดงสัตว์อีกหนึ่งแห่ง แต่เนื่องจากคุณพ่อหิว เราเลยออกจากที่นั่นก่อนจะได้ชมส่วนที่เหลือที่น่าจะตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กัน (พ่อไม่ทราบว่ามีการเสียค่าเข้าคนละสองร้อย😢😢😢)
เราวิ่งตรงเข้ามายังอ.บ่อพลอยตามลายแทงของคนขับ มาตามหาร้านอาหารนิล เป็นร้านไม่ใหญ่โต อาหารเสิร์ฟรวดเร็วถูกใจคุณพ่อ ส่วนความอร่อยก็...
...ดังภาพ 🤤🤤
เมื่อออกจากร้านอาหาร เราก็ตรงดิ่งไปที่ปราสาทเมืองสิงห์ ที่นี่เว้นค่าเข้าสำหรับผู้มีอายุเกิน 60 ปี จึงเสียค่าเข้า 20 บาทถ้วน
เป็นที่ที่คุณพ่อดูมีความสุขกับการเดินถ่ายรูป อ่านประวัติของสถาปัตยกรรมด้วยสีหน้าของเด็กหนุ่มในสวนสนุก
เราปิดท้ายค่ำคืนที่สองและการเดินทางของเราด้วยการไปทานอาหารที่ร้านคีรีธารา เป็นร้านที่มีราคาอาหารสูงกว่าทุกที่ที่ไปมา มีการจัดจานที่น่าสนใจ รสชาติเหมาะกับการพาเพื่อนต่างชาติไปชิมอาหารไทยเป็นอย่างยิ่ง ที่ร้านมีที่นั่งหลายระดับ แบบที่ชิดแม่น้ำเลยก็มี แบบที่ติดเวทีร้องสดก็คุ้ม อนิจจาไปถึงร้านช้าไปหน่อย เลยได้โต๊ะที่อยู่ห่างน้ำออกมาหน่อย แต่วิวกลางคืนน่าประทับใจ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ เป็นการจบซีรี่ย์กาญจนบุรีลงไปแล้ว เป็สซีรี่ส์แรกประเดิมเพจนี้ และเป็นการลองเขียนเล่าประสบการณ์ทุ่องเที่ยวครั้งแรกหลังจากหยุดการเขียนมาหลายปี ขอบคุณทุกกำลังใจและการกดติดตามค่ะ 😁
โฆษณา