"ผ่อนลม"เทคนิคการเงิน ที่จะช่วยให้คุณควบคุมทิศทางการเงินของตัวเองได้ดีมากขึ้น
ผู้คนส่วนใหญ่มีหนี้จากบัตรเครดิตมากกว่า 46%
ในปัจจุบัน มีสิ่งของมากมายเกิดขึ้น เพื่อตอบสนองการใช้งาน สร้างความสะดวกสบาย
แต่สิ่งของเหล่านี้ก็มาพร้อมกับราคาที่แพง แลกกับความทันสมัย ติดแบรนด์ เมื่อสินค้ามีราคาที่สูงจนไม่สามารถซื้อได้ด้วยการจ่ายเงินเพียงครั้งเดียว จึงเกิดสิ่งที่คนทั่วไปเรียกว่า"การผ่อนจ่าย"เกิดขึ้น
การผ่อนจ่าย คืออะไร?
การผ่อนจ่าย คือ การทำสัญญาจะจ่ายค่าสินค้าหรือบริการเป็นงวดๆ โดยมักจะมีการคิดดอกเบี้ยตามมา สินค้าที่มีราคาสูงมากเช่น บ้าน รถยนต์ เป็นต้น ก็จะใช้การผ่อนจ่ายเป็นหลัก
ข้อดี ของการผ่อนจ่ายคือ ไม่จำเป็นต้องมีเงินครบตามจำนวนราคาสินค้าเราก็มีสิทธิ์ซื้อสินค้าได้ ซึ่งส่วนใหญ่การผ่อนจ่ายนี้มักจะมาควบคู่กับบัตรเครดิตทำให้ความเสี่ยงของการเป็นหนี้ค่อนข้างสูงหากเราใช้อย่างไม่ระวัง
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมต้นฉบับได้ที่ : TerraBKK.com - https://www.terrabkk.com/articles/191532
แต่จากคำข้างต้นหลายๆคนมักจะใช้การผ่อน เป็นตัวเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายโดยที่บางครั้ง ไม่มีความจำเป็นและไม่มีแบบแผน นั้นทำให้บางครั้งเกิดสภาวะค่าใช้จ่ายรัดตัว จนต้องลดค่าใช้จ่าย"ที่จำเป็น"ลง เพื่อนำเงินจากส่วนนี้ ไปอยู่กับค่าใช้จ่ายที่"ไม่จำเป็น"มากขึ้น เช่น การลดค่าอาหาร การลดเงินออม การลดค่าสิ่งของที่จำเป็น(ปัจจัย4) ซึ่งจริงๆแล้วมันคือ วิธีสร้างนิสัยหรือวินัยแย่ๆให้กับตัวเอง โดยการกดไลฟ์สไตล์ตัวเองให้ถูกลง นั้นทำให้ชีวิตในวัยการทำงานมีความเครียดและมีความกดดันมากขึ้น เนื่องจากต้องหาเงินมาจ่ายค่าผ่อนรายเดือนต่างๆที่เกินตัว จนไม่มีเงินเหลือใช้ เหลือเก็บสำรองในกรณีฉุกเฉิน
วิธีพิสูจน์ว่าตัวเองนั้นผ่อนไหวไหม?
ในกรณีที่ต้องผ่อนสินค้าชิ้นที่ไม่ใหญ่มากเช่น มือถือ นาฬิกา คอมพิวเตอร์ แก็ดเจ็ตต่างๆ จะให้ดูจากราคาจริง เพื่อคำนวนกับเงินที่ได้รายเดือน
ยกตัวอย่าง มือถือราคา 30,000 ผ่อน10เดือน จะอยู่ที่ 3,000 บาทต่อเดือน เมื่อเทียบกับรายได้ที่น้อยนิดของตัวเองแล้ว แน่นอนว่าอาจจะไหวหรือปริ่มๆกับรายได้ โดยให้ทดลอง
"ผ่อนลม" โดยการโอนเงินเข้าบัญชีที่ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวหรือบัญชีสำรอง ไว้ทุกๆเดือนเหมือนได้ผ่อนซื้อของชิ้นนั้นจริงๆ แล้วดูว่าในแต่ละเดือนมีความลำบากหรือผลกระทบ อะไรใดๆกับชีวิตหรือไม่
ถ้าไม่และผ่อนจนครบ10เดือน แน่นอนสิ่งที่ได้ในตอนนั้นคือ เงินก้อน ที่สามารถนำไปใช้ซื้อมือถือหรือสิ่งของที่ต้องการได้ทันที ในตอนนั้นอาจจะพิจารณาถึงความสำคัญของมือถือว่ายังจำเป็นอยู่ไหม สามารถขยับรุ่นมือถือลงมาให้สอดคล้องกับการใช้งานได้หรือเปล่า (อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆมักจะมีรุ่นที่ใหม่กว่า ทันสมัยกว่า และราคาที่เปลี่ยนแปลงมาใหม่อยู่เสมอๆ)
แต่ถ้า"ผ่อนลม" ได้ไม่ครบ หรือมีความลำบากในการใช้ชีวิตมากขึ้น นั้นคือเครื่องพิสูจน์ว่าคุณนั้น "ผ่อนไม่ไหว" นั้นเอง หลายคนมักจะคิดว่าตัวเองนั้น ผ่อนไหว โดยการเอารายได้เป็นที่ตั้ง โดยไม่คำนวณถึงค่าใช้จ่ายที่จำเป็นหรือค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเป็นประจำรวมเข้าไปด้วย นั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็น"หนี้"เนื่องจากมีรายจ่ายรวมต่อเดือนมากกว่ารายได้นั้นเอง
จะเกิดอะไรขึ้นถ้า "ผ่อนลม" จนเป็นนิสัย
แน่นอนสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ชีวิตและทิศทางการเงินจะดูดี มีแบบแผนมากขึ้น ชีวิตจะมั่นคงเนื่องจากมีรายจ่ายที่คงที่เเละมีเงินเหลือมากขึ้น ชีวิตจะมีความสุขและมีโอกาสในการเป็นหนี้น้อยลง มีเงินเก็บ ที่มาจากการผ่อนลมเนื่องจากเมื่อไหร่ที่ต้องการซื้อของสินค้าต่างๆ จะถูกพิสูจน์และเก็บออม ผ่านการผ่อนลมนั้นเอง และแน่นอนว่าบางครั้งเมื่อคุณผ่อนลมจนครบกำหนดคุณอาจจะเปลี่ยนใจ และไม่ซื้อสินค้าตัวนั้นๆอีก นั้นทำให้เงินในส่วนนี้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในส่วนอื่นๆได้อย่างอิสระ
ขอขอบคุณรูปภาพจาก
บทความนี้จัดทำโดย ศิวกร ประกอบสุข 63020010
- 16
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
