13 เม.ย. 2022 เวลา 09:16 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
มองอีกมุมกับ อุตสาหกรรมสื่อไทย
ถ้าพูดถึงสื่อไทยแบบพื้นผิวแล้ว เชื่อว่าคงจะมีทั้งคนที่ชื่นชอบและคนที่ไม่ชื่นชอบ หลายๆคนก็ยังมองว่า สื่อไทยนั้นล้าหลัง ในทุกๆด้าน จนตามสื่อจากหลายๆ ประเทศไม่ว่าจะเป็นเกาหลี ญี่ปุ่น หรือฝั่งอเมริกาไม่ทันเสียแล้ว แล้วทำไมถึงเป็นอย่างนั้น วันนี้เราจะมาเล่าเรื่อง อุตสาหกรรมสื่อไทยกันครับ
ตามสถิติแล้ว รายได้อุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงในประเทศไทยโตขึ้นต่อเนื่องทุกๆ ปี โดยปีที่ผ่านมา (ปีพ.ศ. 2564) มีรายได้รวมของกลุ่มอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงของไทยปี 2564 จะอยู่ที่ 547,640 ล้านบาท หรือเติบโตราว 6.3% จากปี 2563 ซึ่งนับว่าปีที่ผ่านมานั้น กลุ่มอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงของไทยมีอัตราการเติบโตที่สูงสุดในรอบหลายปีเลย นั่นเป็นหลักฐานชี้ชัดว่าสื่อบันเทิงไทยนั้น ยังคงเติบโตอยู่ ถึงแม้ว่ากระแสในช่วงที่ผ่านมานี้จะดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่เหตุใดถึงเป็นแบบนั้น? เชื่อว่ามีอยู่หลายปัจจัยที่ทำให้สื่อบังเทิงไทยมีทั้งกระแสบวกและลบสลับกันไปมา
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมานั้นได้มีหนังและซีรี่ย์ไทยที่เป็นกระแสและโด่งดังขึ้นมาเป็นจำนวนมาก อย่างเช่น ซีรี่ย์วัยรุ่นเรื่อง ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น ที่เป็นที่พูดถึงอย่างมากทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ นับว่าเป็นซีรี่ย์ที่สะท้อนสังคมการเรียนของไทยได้จริงที่สุดและสื่อออกมาได้เป็นอย่างดี นอกจากเนื้อหาของเรื่องที่ทำออกมาได้ดีแล้ว คุณภาพของงานด้านโปรดักชันก็ถือว่าก้าวกระโดดจากซีรี่ย์หรือละครไทยเรื่องอื่นๆในยุคนั้นอย่างมาก ทั้งงานด้านภาพและงานเสียง ถือว่าเป็นซีรี่ย์ที่ยุคนั้นเราสามารถเอาไปเทียบระดับเอเชียได้เลย และในเรื่องของรายได้ ก็นับได้ว่าได้กำไรเป็นก่อเป็นกำ ทั้งการขายลิขสิทธิ์ไปยังประเทศต่างๆ อีกทั้งยังเป็นซีรี่ย์ที่แจ้งเกิดนักแสดงรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพอีกมากมาย
เรียกได้ว่าเป็นจุดสำคัญของวงการสื่อบันเทิงไทยเลยก็ว่าได้ หลังจากนั้นก็ได้มีหนังที่เป็นกระแสแบบนี้ออกมาอีกมากมาย ทั้งเรื่อง แฟนเดย์,ฉลาดเกมส์โกง,ฮาวทูทิ้ง หรือเรื่องล่าสุดในปีที่ผ่านมาก็คือ ร่างทรง ที่เป็นกระแสในระดับปรากฏการณ์เลยก็ว่าได้ ในเมื่อมีหนังที่สร้างแรงขับเคลื่อนได้ขนาดนี้ แต่ทำไมสื่อบันเทิงไทยกลับยังอยู่ในจุดเดิม ที่มีคนบอกตลอดว่าล้าหลัง ไม่ไปไหน สู้เขาไม่ได้ ซึ่งถ้าเราลองดูตัวอย่างหนังที่ประสบความสำเร็จจากที่อ่านมาเมื่อครู่นี้แล้ว ก็ต้องยอมรับว่าเราสามารถสู้ต่างประเทศได้ในระดับนึง หรือเรียกว่าถ้าทำจริงๆก็ทำได้ ไม่ว่าจะเป็นงานด้านโปรดักชัน หรือคุณภาพของนักแสดงเองก็ตาม เราสามารถสู้ได้และไปได้ถึงระดับเอเชียได้แน่นอน
แต่ก็ยังมีอีกหลายปัจจัยและหลายอย่างที่เรายังสู้หลายๆประเทศไม่ได้ โดยเฉพาะเม็ดเงินในการลงทุน ซึ่งการลุนทุนนั้นเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่จะทำให้งานดำเนินต่อไปได้ ถ้าเงินทุนไม่สูง งานด้านอื่นๆก็ไม่สามารถที่จะใช้ศักยภาพได้อย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ซีรี่ย์หรือละครไทยที่ผ่านมาจะไม่มีการลงทุนที่สูงเลย เพราะบ้านเราเองก็เคยลงทุนกับสื่อภาพยนต์แอนิเมชันไว้หลายเรื่อง และบางเรื่องก็ทุนสูงพอสมควร
ยกตัวอย่างก็คือ เรื่อง 9 ศาสตรา แอนิเมชันไทย ที่ใช้ทุนในการสร้างสูงถึง 230 ล้านบาท และใช้เวลาในการสร้างถึง 4ปีเต็ม อีกทั้งยังใช้ทีมงานคุณภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศ 9 ศาสตรา ได้ถูกนำไปฉายอยู่หลายประเทศ ทั้งในอาเซียน ประเทศจีน และอเมริกา นอกจากนี้ก็ยังได้รับคำชมมากมายและได้คะแนนจาก IMDB ไปถึง 7.5 คะแนน เต็ม 10 คะแนน เรียกได้ว่าเป็นภาพยนต์แอนิเมชันที่เป็นกระแสที่ดีและดูอนาคตจะสดใสเลย แต่กลับกลายเป็นว่าแอนิเมชันเรื่องนี้ทำรายได้ไปเพียง 113 ล้านบาทจากทั่วโลก ซึ่งทำรายได้เพียงแค่ครึ่งเดียวของทุนสร้างทั้งหมดเท่านั้น เรียกได้ว่าเจ๊งไม่เป็นท่า
สาเหตุเองก็มีอยู่หลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบทที่หลายคนยังมองว่าไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่และการยึดติดกับความเป็นไทยมากจนเกินไป แต่หากมองฝั่งผู้สร้าง ทีมผู้สร้างเองก็ตั้งใจใส่ความเป็นไทยและจีนเข้าไปเพื่อการตลาดของแอนิเมชันแต่กลับกลายเป็นว่ารายได้นั้นมันเป็นไม่ตามเป้าเสียเลย
และด้วยเหตุนี้ก็ทำให้เหล่าผู้ลงทุนไม่กล้าที่จะลงทุนหนักกับสื่อบันเทิงไทย เนื่องจากตามสถิติก็ถือว่าไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม ก็ยังเกิดสื่อบันเทิงไทยที่ดีออกมาอยู่เรื่อยๆ นั่นถือเป็นสิ่งที่ดี ที่แสดงให้เห็นว่าสื่อบันเทิงไทยนั้น เดินหน้าอยู่ตลอดเวลา
จากเนื้อหาเรื่อง 9 ศาสตรา เมื่อย่อหน้าที่ผ่านมานั้น ถ้าเราลองมองลึกลงไปว่าทำไมสื่อไทยถึงยังคงติดอยู่กับความเป็นไทย ความเป็นละครน้ำเน่า หรือพล็อตเรื่องแบบเดิมๆนั้น ผมขออนุญาตยกบทสัมภาษณ์ของคุณพชร์ อานนท์ ที่แกเคยให้สัมภาษณ์ว่าทำไมถึงทำหนังที่เป็นพล็อตแบบบ้านๆ แกเคยบอกไว้ว่า สาเหตุที่แกทำหนังหอแต๋วแตกออกมาต่อเนื่องหลายๆภาคนั้น มีอยู่แค่ปัจจัยเดียวก็คือ คนเขาดูกัน มันสร้างรายได้ได้ตลอด
แกกล่าวต่อว่า แกจะหยุดทำแนวนี้ไปเพื่ออะไร ในเมื่อหนังมันยังทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะออกมากี่ภาค หนังก็ยังทำกำไรได้เรื่อยๆ แกกล่าวต่อว่า จะให้ทำหนังล่ารางวัลหรือหนังพล็อตแบบแปลกใหม่ แกก็ทำได้ แต่ที่แกไม่ทำเพราะแกอยากทำหนังทำเงิน แกรับรู้มาโดยตลอดว่ามีคนไม่เข้าใจหนังที่แกทำ แต่ก็ยังมีกลุ่มคนที่ติดตามและดูผลงานแกอยู่ตลอดนั่นจึงเป็นเหตุผลที่แกยังทำหนังแนวนี้ต่อไป
ด้วยเหตุผลนี้ มันทำให้เราเห็นได้ชัดเลยว่า Maketing เป็นปัจจัยสำคัญ ที่มีผลต่อการทำสื่อและภาพยนต์ ต่อให้จะมีคนกลุ่มที่ไม่เข้าใจและไม่เห็นด้วยกับการทำหนังแนวนี้ แต่ในทางกลับกันเองก็ยังมีคนที่เห็นด้วยและสนับสนุนหนังแนวนี้อยู่ สิ่งเหล่านี้ก็คือกลุ่มตลาดของหนัง
จากกระแสบทสัมภาษณ์ของคุณ ต่อ ธนภพ ที่พูดถึงวงการสื่อบันเทิงไทยว่า คนทำเขาตั้งใจทำมากและทุกคนที่ทำต่างก็มีฝีมือที่เก่งมากๆ แต่คุณต่อเสียใจที่คนไทยเลือกที่จะพูดว่า “ไม่ดูหนังไทย” ถึงแม้ว่าหนังหรือสื่อทำออกมาดีแค่ไหน ก็จะมีกลุ่มคนดูที่โต้กลับว่า ในเมื่อเรามีสิทธิ์ที่จะเลือกได้ว่าจะดูอะไร ทำไมเราต้องไปดูหนังที่เราไม่อยากดู
จากข้อมูลทั้งสองฝั่งที่โต้แย้งกันเรื่องนี้เรียกได้ว่าไม่มีใครผิดเลย แต่ทั้งสองฝั่งล้วนพูดจากสิ่งที่ฝั่งตัวเองเป็น ฝั่งคนทำหนังนั้นตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองออกมาได้ดีที่สุด และส่วนฝั่งคนดูเองก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกได้ว่าจะดูสื่ออะไร นั่นเป็นสิ่งที่แทบจะไม่ได้ช่วยอะไรต่อวงการสื่อบันเทิงไทยเลย ที่ทั้งฝั่งผู้ทำและผู้ดูจะมาโต้แย้งกันในประเด็นนี้ แต่สิ่งที่ควรจะทั้งสองฝั่งจะมุ่งประเด็นไปก็คือ การสนับสนุนจากสมาคมและภาครัฐ ถ้ามีนโยบายหรืองบประมาณที่ช่วยสนับสนุนวงการสื่อบันเทิงไทย เชื่อว่าวงการสื่อบันเทิงไทยจะไปได้ไกลและเข้าสู่ตลาดโลกได้ง่ายกว่านี้
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนก็จะขอยกตัวอย่างประเทศเกาหลีและญี่ปุ่น ที่ทั้งสองประเทศนี้ได้ทำสำเร็จมาแล้ว รัฐบาลญี่ปุ่นนั้นสนับสนุนเกมและการ์ตูนของประเทศตัวเองอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นในทั้งกฏหมายต่างๆ ไปจนถึงภาษีและการส่งออกของสื่อ เรียกว่ารัฐบาลญี่ปุ่นเป็นปัจจัยสำคัญมากๆ ไม่แพ้กับผู้จัดทำหรือผู้เสพผลงาน โดยล่าสุดคณะกรรมการการจัดการแข่งขันโอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว ใช้เหล่าตัวการ์ตูนดังของญี่ปุ่นเป็นทูตพิเศษของโอลิมปิก 2020 จนเป็นที่สนใจของคนทั่วโลก ด้วยกรสนับสนุนของภาครัฐและเอกชน เมื่อทุกฝ่ายช่วยเหลือและสนับสนุนกันในแบบของตัวเองวงการสื่อบันเทิงของญี่ปุ่นจึงก้าวหน้าไปได้ไกลมากๆ จนการ์ตูน,เกมและของเล่นของญี่ปุ่นนั้นสามารถทำเงินเข้าประเทศได้มหาศาลเลยทีเดียว
เช่นเดียวกับประเทศเกาหลี หลังจากวิกฤติต้มยำกุ้ง รัฐบาลเกาหลีได้หันมาสนับสนุนวงการบันเทิงของเกาหลี โดยเริ่มด้วยการยกเลิกกฏหมายเซ็นเซอร์ที่ปล่อยให้ผู้สร้างสื่อบันเทิง สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างอิสระ นั่นจึงทำให้สื่อบันเทิงเกาหลีใต้นั้นค่อนข้างหลากหลายและเป็นที่นิยม บวกกับที่ภาครัฐเองก็สนับสนุนให้หนังและซีรี่ย์เกาหลีถ่ายทำให้เห็นถึงบรรยากาศความสวยงามของเมืองในเกาหลี สิ่งเหล่านี้จึงดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศตัวเองได้มากขึ้น นอกจากนี้รัฐบาลเกาหลียังให้เงินสนับสนุนแก่ค่ายเพลงในเกาหลี กว่าปีละ 1 หมื่นล้านบาทเพื่อผลิตผลงานเพลงเกาหลี จนใช้เวลาไม่นานนัก
k-pop ก็เป็นที่นิยมไปทั่วโลกจนสร้างเงินให้กับประเทศได้อย่างมหาศาลจนถึงทุกวันนี้
จากที่กล่าวมาข้างต้น เรียกได้ว่า รัฐบาลเป็นปัจจัยที่สำคัญมากที่จะช่วยขับเคลื่อนสื่อบันเทิงให้ไปได้ไกลยิ่งขึ้น ถ้าสื่อบันเทิงในประเทศไทย ได้รับการสนับสนุนที่ดีและถูกต้องจากภาครัฐ มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่สื่อไทยจะเข้าใกล้ระดับเอเชียหรือระดับโลก เพราะศักยภาพของฝีมือคนไทยนั้นเรียกได้ว่าระดับโลกอยู่แล้ว ขาดแค่การสนับสนุนเท่านั้นเอง
ลิซ่า นิชคุณ หรือแม้แต่แบมแบม ก็เป็นคนไทยที่ฝีมือดีที่อยู่ในระดับท็อปของ k-pop แต่กลับต้องไปแจ้งเกิดและทำผลงานที่ประเทศเกาหลี หรือแม้แต่คนทำหนังและคนเบื้องหลังต่างๆที่เรามักจะเห็นพวกเขาอยู่ในท้ายเครดิตของหนัง Hollywood มากมายนั้น ก็ล้วนแต่เป็นคนไทยที่มีฝีมือในระดับโลก
แต่ก็ต้องไปเติบโตและสร้างผลงานที่ต่างประเทศ เหตุผลหนึ่งก็เพราะ เขาต้องไปอยู่ในที่ที่สนับสนุนในการทำผลงานของเขา เขาถึงจะไปได้ไกล ที่กล่าวมานั้นก็สามารถสรุปได้ว่า ถ้าเกิดเราได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ เหมือนๆกับที่ประเทศอื่นได้รับ เราคงจะได้เห็น t-pop ที่สร้างกระแสได้เหมือนดั่ง k-pop เราคงจะเห็นหนังไทยที่สามารถเข้าชิงรางวัลออสการ์ได้เหมือน parasite เราคงจะเห็นศิลปินไทยที่แจ้งเกิดในระดับโลกมากมาย เราคงเห็นสื่อบันเทิงไทยที่ต่างชาติต่างก็ให้ความสนใจ เราคงจะเห็นวงการบันเทิงไทยที่เข้าใกลระดับโลกมากกว่านี้ ทั้งนี้ทั้งนั้น จากที่กล่าวมาทั้งหมด วงการสื่อบันเทิงของไทยจะไประดับโลกไม่ได้เลย ถ้าทุกฝ่ายไม่ช่วยเหลือกัน ทั้งฝั่งเอกชน ภาครัฐ และกลุ่มคนดูเองก็ตาม ถ้าทุกฝ่ายมุ่งเป้าไปในทิศทางเดียวกันได้ เชื่อว่าสักวันนึง วงการบันเทิงไทยและสื่อไทยจะเป็นสื่อระดับโลกได้แน่นอน
Chxmp : เขียน
ป่าน : งานศิลป์
โฆษณา