12 เม.ย. 2022 เวลา 02:47 • ความคิดเห็น
รกแมวความเชื่อหรือปาฏิหาริย์
พี่ไทยกับการบูชาอะไรที่เหนือธรรมชาติต้องยกให้เขาเป็นที่ 1 วันนี้ผมเลยจะมาพูดถึง อีก 1 ความเชื่อของคนไทยกับเรื่องของขังที่หลายคนเชื่อว่าดี และได้จากแมว ไม่ใช่ตีนแมวแน่นอนเพราะตีนสัตว์จะเป็นความเชื่อฝั่งเมกา ที่เอาตีนกระต่ายติดบ้าน ติดตัว
รกแมว เรื่องราวที่โยงเมตตามหานิยม เท่าที่ทราบเห็นบอกว่าช่วยการค้าขาย เมตตามหานิยม ตำนานบอกว่าเป็นขลังตามธรรมชาติ จัดเป็นของที่หาได้ยาก โดยปกติธรรมชาติของแม่แมวจะหลบไปคลอดลูกในที่ลับตา และแม่แมวก็จะกินรกของตัวเอง ก็นะเป็นการตัดสายสะดือตามธรรมชาติ ตามสัญชาติญาณของสัตว์ แต่หากแมวตัวไหนให้โชคแก่เจ้าของเขาว่ามันจะไม่กินรก จริงๆ ก็กินแต่ยังเหลือบางส่วน เจ้าของแมวก็ถือว่ามีโชคลาภ สามารถเก็บรกแมวมาไว้ติดตัวเพื่อเรียกทรัพย์ เรียกโชคลาภต่อไป
ส่วนที่บอกว่ามีรกแมวไว้บูชานั้นจะช่วยเรียกโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทอง ทำให้หากินคล่อง อันนี้ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ หากเก็บไว้ในกระเป๋าตังค์หรือที่เก็บเงินเก็บทอง เมื่อใช้หมดแล้วรกแมวก็จะช่วยเรียกทรัพย์กลับมาใหม่ อืมอันนี้ดีถ้าจริงนะ เหมาะสำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพทุกอาชีพ อีกทั้งยังเหมาะแก่ผู้ที่ชอบเสี่ยงโชคอย่างเช่นการซื้อหวย ซื้อล็อตเตอรี่ และมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้งที่ผู้ที่มีรกแมวบูชาอยู่ออกมาเล่าประสบการณ์ความโชคดีจากการถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลหลังจากนำรกแมวมาบูชาที่บ้าน หรือว่าเพราะเขาซื้อเป็นปกติเขาก็เลยโชคดีถูกแค่นั้นอันนี้ก็แล้วแต่จะเชื่อนะครับ
แน่นอนว่าการเก็บรักษารกแมวหาใช่การแช่ตู้เย็นไม่ โดยกรรมวิธีมีมากมายเริ่มจากนำรกแมวไปคลุกกับผงขมิ้น หรือผงแป้ง หลังจากนั้นนำไปตากให้แห้งไม่รู้นะครับว่ากี่แดดเอาเป็นว่าไล่ความชื้นออกให้หมด แล้วจึงเอามาเลี่ยมใส่กรอบไว้บูชา เขาบอกว่าห้ามตัดแบ่งรกแมวเด็ดขาด สามารถพกไว้ติดตัวหรือเก็บไว้ในที่เก็บเงินเก็บทอง ที่บ้านหรือร้านค้าสำหรับผู้ทำประกอบกิจการค้าขายก็ได้ว้าว อีกทั้งยังมีคาถาสวดบูชารกแมวด้วยแต่ผมไม่รู้นะครับหลังไมค์มาก็ไม่น่าเกิดประโชยน์ นอกจากนั้นตามความเชื่อของผู้คนบางกลุ่มก็มีการปิดแผ่นทองคำเปลวและให้ เกจิ อาจารย์ปลุกเสกอีกด้วย
เรื่องเล่ายังมีอีกสาระพัด อย่างต้องบอกเจ้าที่ก่อนนำรกแมวเข้าบ้าน แล้วถ้าแมวคลอดในบ้านละ ต้องทำไง และบางท่านยังเชื่อว่าต้องตั้งชื่อให้หา น้ำ นม ขนม สำหรับเลี้ยงรกแมวประหนึ่งว่านั่นคือแมว 1 ตัว ที่ต้องเลี้ยง แล้วคุณละคิดว่าอย่างไร
บทความต้นฉบับจาก www.catconferences.com
โฆษณา