16 เม.ย. 2022 เวลา 03:30 • ธุรกิจ
Juliette ธุรกิจดิลิเวอรีซักรีดเสื้อผ้า ที่แทบจะเริ่มจากเงิน 0 บาท
ถ้าฝันอยากสร้างสตาร์ตอัป แต่ไม่มีเงินทุนจะทำอย่างไร ?
วันนี้ลงทุนเกิร์ลขอหยิบเอาเรื่องของ Juliette ธุรกิจดิลิเวอรีซักรีดเสื้อผ้า ที่แทบไม่ได้ใช้เงินทุนตอนเริ่มต้นเลย
ซึ่งจริง ๆ แล้ว โมเดลธุรกิจของ Juliette ก็ไม่ได้ซับซ้อน
เพียงเกิดจากปัญหาในชีวิตประจำวัน ที่ผู้ก่อตั้งพบเจอ
หรือก็คือ การนำเสื้อผ้าไปส่งร้านซักรีด แล้วไม่มีบริการดิลิเวอรี ทำให้ลูกค้าต้องไปรับส่งสินค้าเอง
1
นั่นเองจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ Juliette บริการดิลิเวอรีซักรีดเสื้อผ้า
แต่ประเด็นสำคัญคือ แล้ว Juliette กลายมาเป็นสตาร์ตอัปที่เป็นรูปเป็นร่างได้อย่างไร โดยปราศจากเงินทุนเริ่มต้น ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ย้อนกลับไปในปี 2013 คุณ Rechelle Balanzat รู้สึกว่าการสั่งอาหารมาทานที่บ้านเป็นเรื่องที่ง่ายมาก
แต่การจะให้ร้านซักรีดช่วยรับส่งเสื้อผ้า กลับเป็นเรื่องที่บางครั้งร้านก็ยอม แต่บางครั้งก็ไม่
พอเรื่องเป็นแบบนี้ เธอก็เกิดไอเดียที่จะสร้างแอปพลิเคชันขึ้นมา สำหรับรับส่งเสื้อผ้าซักรีดใน 24 ชั่วโมง โดยที่ไม่มีวันหยุด
1
แต่ปัญหาก็คือ ขณะนั้นเธอเป็นเพียงพนักงานประจำ และไม่ได้มีเงินทุนมากนัก
ซึ่งสิ่งที่คุณ Rechelle Balanzat ทำในตอนนั้น จึงเป็นการใช้ “ความสัมพันธ์ (Relationship)” และ “ความยืนหยัดที่จะทำในสิ่งที่เชื่อ (Resilience)”
เริ่มจากตัวแอปพลิเคชัน ที่แม้ว่าเธอจะไม่มีองค์ความรู้ในด้านการเขียนโปรแกรมเลย
แต่ด้วยความที่เธอทำงานอยู่ในสตาร์ตอัปแห่งหนึ่ง คุณ Rechelle Balanzat จึงอาศัยคอนเน็กชันกับวิศวกรซอฟต์แวร์ และนำเสนอไอเดียธุรกิจกับเขา
โดยเสนอว่าให้เขาช่วยพัฒนาแอปพลิเคชันของเธอในเวลาว่าง
และเธอจะจ่ายเงินให้กับเขาหลังจากนั้น 1 ปี
โชคดีที่วิศวกรซอฟต์แวร์คนนั้นยอมตกลง
และราว ๆ ปี 2014 แอปพลิเคชัน Juliette ก็ถือกำเนิดขึ้น
1
อย่างไรก็ตาม แค่มีแอปพลิเคชันยังไม่ได้หมายความว่า งานของคุณ Rechelle Balanzat จะจบแค่นี้
เพราะจริง ๆ แล้ว บริการหลักของ Juliette คือ การซักรีดเสื้อผ้า
1
ซึ่งการตามหาร้านซักรีดที่ได้มาตรฐาน ก็ถือเป็นอีกหนึ่งงานยาก เนื่องจากเสื้อผ้าแต่ละตัว
ต้องการการดูแลที่แตกต่างกันออกไป และลูกค้าหลายคนก็ต้องการร้านที่ไว้ใจได้
ดังนั้น คุณ Rechelle Balanzat จึงไม่ต้องการที่จะใช้หน่วยงานภายนอก และเลือกดูแลบริการในส่วนนี้เอง
แต่ปัญหาคือ สำหรับเรื่องนี้ เธอไม่ได้มีคนรู้จักเป็นร้านซักรีด เหมือนอย่างครั้งก่อน
คราวนี้คุณ Rechelle Balanzat เลยใช้วิธีโทรศัพท์ไปตามร้านซักรีด และหาว่าร้านไหนที่จะสนใจมาเป็นพาร์ตเนอร์ของเธอ
หลังจากนั้น เธอจึงเริ่มเข้าไปทำงานในร้านซักรีด เพื่อเรียนรู้งานทั้งหมด
ตั้งแต่การรับออร์เดอร์ การซักรีด การอบแห้ง ไปจนถึงการทำความสะอาดร้าน
1
จนในที่สุดเจ้าของร้านแห่งนั้น ก็ไว้ใจคุณ Rechelle Balanzat และตัดสินใจให้เธอเช่าพื้นที่บางส่วนของร้าน เพื่อรับออร์เดอร์จาก Juliette
ต่อมาก็เป็นเรื่องของการตลาด
โดยเธออาศัยคอนเน็กชันอีกครั้ง เดินเข้าไปหาเหล่าผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่เธอเคยทำงานด้วย และขอนำใบปลิวไปวาง ติดประกาศในล็อบบี้ รวมถึงฝากข่าวประชาสัมพันธ์ไปกับอีเมลที่ส่งให้ผู้พักอาศัย
ซึ่งนี่เอง ที่ทำให้คุณ Rechelle Balanzat ได้ลูกค้ากลุ่มแรก
และหลังจากนั้น ก็อาศัยคุณภาพของการบริการ ที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า ทำให้ธุรกิจเติบโต
แม้ว่า Juliette จะไม่ได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด
แต่ก็สามารถขยายไปได้เรื่อย ๆ
จนในปี 2019 คุณ Rechelle Balanzat ก็เปิดหน้าร้านซักรีดของ Juliette ขึ้นทั้งหมด 2 แห่ง
โดยระหว่างนั้นได้มีคนรอบตัวที่สนใจ และเข้ามาร่วมลงทุนกับคุณ Rechelle Balanzat อยู่บ้าง
อย่างไรก็ตาม พอเรื่องดำเนินมาถึงปี 2020 ธุรกิจกลับต้องสะดุด จากสถานการณ์โรคระบาด ที่ส่งผลให้รายได้จากส่วนบริการซักแห้งเสื้อผ้าประเภทชุดสูท, ชุดราตรี หรือเสื้อโคต ซึ่งถือเป็นรายได้หลัก และมีอัตรากำไรสูงกว่าบริการซักผ้าทั่วไป หายไปเกือบทั้งหมด
ส่งผลให้รายได้ของ Juliette ลดลงไปกว่า 90%
และคุณ Rechelle Balanzat จำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงานถึง 70%
แต่นี่กลับไม่ใช่จุดจบของเรื่องนี้
แล้วคุณ Rechelle Balanzat แก้ไขสถานการณ์ของ Juliette อย่างไร ?
อีกครั้งที่เธอแก้ปัญหาโดยอาศัยคอนเน็กชันที่มี ซึ่งจริง ๆ แล้วก็มาจากความขวนขวายของเธอ ที่อาศัยเครือข่ายผู้ประกอบการที่แข็งแกร่ง จากการเข้าร่วมโครงการ 10,000 Women Initiative ของ Goldman Sachs ที่ให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการผู้หญิง รวมถึงคนจากมูลนิธิของ Tory Burch ที่คอยช่วยเหลือผู้ประกอบการผู้หญิงเช่นกัน
ทั้งหมดนี้ ทำให้สถานการณ์ของ Juliette ค่อย ๆ ฟื้นตัวอีกครั้ง
โดยคุณ Rechelle Balanzat วางแผนที่จะเปิดหน้าร้านเพิ่มอีก 3 แห่งในปี 2022 โดยบริษัทมีแผนเพื่อครอบคลุมพื้นที่การให้บริการที่มากขึ้น
รวมถึงใช้บทเรียนที่ประสบมา ปรับสัดส่วนรายได้ จากเดิมที่พึ่งพิงบริการซักแห้ง ก็หันมาบาลานซ์ระหว่างบริการซักแห้ง และซักผ้าทั่วไปให้เท่า ๆ กัน เพื่อกระจายความเสี่ยง
ที่สำคัญก็คือ เน้นบริการที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดู “พรีเมียม”
และกลายเป็นจุดแข็ง ที่สามารถต่อสู้กับคู่แข่งได้ แม้ว่าจะเป็นธุรกิจที่ใครก็สามารถทำได้
เรียกได้ว่า Juliette ก็เป็นอีกกรณีศึกษา ที่น่าสนใจเลยทีเดียว
โดยเฉพาะสำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่รู้สึกว่าไม่มีต้นทุนทางการเงิน
ก็สามารถเลียนแบบคุณ Rechelle Balanzat ได้
ซึ่งก็คือการใช้ประโยชน์จาก “Relationship” และ “Resilience”
หรือความสัมพันธ์กับคนรอบตัว
และความยืนหยัดที่จะทำในสิ่งที่เชื่อ นั่นเอง..
โฆษณา