20 ส.ค. 2022 เวลา 08:03 • บันเทิง
คือไฟฝันของมวลชน : ดอนกิโฆเต้
cr. wikipedia ปกพิมพ์ครั้งแรก
นิยายเรื่องดอนกิโฆเต้นี้เป็นนิยายเรื่องยาวที่เคยผ่านตามานานแล้ว แปลจากเรื่อง El ingenioso hildalgo don Quijote de la Mancha หรือในชื่ออังกฤษว่า The Ingenious Gentleman Don Quixote de la Mancha
หรือในชื่อไทยว่า ดอน กิโฆเต้ ขุนนางต่ำศักดิ์นักฝัน แปลโดย สว่างวัน ไตรเจริญวิวัฒน์ จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ผีเสื้อครับ
cr. pantip.com ส่วนภาพที่3เป็นหนังสือของผมเอง
สนุก มีอารมณ์ขันสูง ประชดประชัน กัดจิก
Absurdสุดๆ
ผู้ประพันธ์คือ Miguel de Cervantes ชาวสเปน ภาคแรกตีพิมพ์เมื่อปีคศ.1605 แต่ภาคที่2ตีพิมพ์เมื่อปีคศ.1615
cr. wikipedia ผู้ประพันธ์ครับ
ถามว่าดังมากไหมในสมัยนั้น
ก็ตอบว่าดังพอตัวแต่คงไม่ได้ทำให้ผู้ประพันธ์มีเงินเต็มมือ แถมท้ายที่สุดกระทั่งหลุมฝังศพกว่าจะพิสูจน์ทราบได้ว่าใช่เจ้าตัวก็กินเวลาอักโขทั้งยังไม่อาจบอกได้ชัดเจนว่าเป็นศพไหน
ฟังดูคุ้นๆนะครับ
นักประพันธ์ไส้แห้ง...
นิยายเรื่องนี้แบ่งออกเป็น2ภาค เป็นเนื้อหาที่ต่อกัน ตัวละครหลักคืออาล็องโซ กิฆาโน่หรือที่รู้จักกันในนาม ดอนกิโฆเต้และซานโช่ ปันช่า มีตัวละครอื่นๆแทรกไว้เรื่อยๆเพื่อการดำเนินเรื่อง
ตัวนิยายในภาคที่1 เนื้อหาจะออกไปในทางตลกขบขัน อ่านได้สนุก ถึงเนื้อหาจะยาวแต่ไม่น่าเบื่อ มีแทรกบทรำพึงของผู้เขียนเป็นระยะ แถมยังมีลักษณะของนิทานซ้อนนิทานคล้ายกับนิทาน12เหลี่ยม อิหร่านราชธรรมหรืออาหรับราตรีไว้ด้วย
ตัวนิยายในภาคที่2 ลักษณะจะคล้ายกับภาคแรกคือเป็นการผจญภัยของ2ตัวละครหลักเช่นเดิม แต่คราวนี้ไม่ขำสักเท่าไหร่ เนื้อหาดูจะเนือยๆ ยืดยาดชวนง่วงนอน แต่พออ่านจบกลับรู้สึกว่าภาคนี้เต็มไปด้วยความเย้ยหยันเสียดสีความเป็นมนุษย์อย่างรุนแรงและเนียนๆในคราบของนิยายชวนหัว
เรียกว่าอ่านจบแล้วหายง่วงชวนอึ้งไปเหมือนกัน
การผจญภัยของท่านดอนกับซานโช่เริ่มขึ้นเมื่ออาล็องโซ กิฆาโน่ได้คิดใคร่ครวญแล้วว่าต้องการออกเดินทางไปเพื่อผดุงความเป็นธรรม กำหราบคนพาล อภิบาลคนดีตามแบบฉบับของอัศวินในนิยายที่เคยอ่านไว้เป็นก่ายเป็นกองจนจำได้ขึ้นใจ
ตั้งตัวเองเป็นดอนกิโฆเต้และให้ซานโช่ติดตามไปเป็นอัศวินสำรองพร้อมสัญญาว่าจะให้ดินแดนไว้ปกครองด้วยหลังการผจญภัยจบลง ซานโช่จึงตอบตกลงร่วมเดินทางไปด้วย
การเดินทางออกจะทุลักทุเลด้วยท่านดอนอุปโลกน์ก็อายุมากโข อาวุธหรือม้าที่ท่านดอน(เรียกสั้นๆครับ)ใช้งานก็อายุไม่น้อย เก่าคร่ำคร่าปุโรทั่งจนเป็นที่ขบขันของผู้คนที่ได้พบเห็น
การเดินทางครั้งแรก เดินทางไปได้ไม่ไกล ท่านดอนก็สะบักสะบอมกลับมาพักที่บ้าน
แต่ท่านดอนไม่สน
เริ่มเดินทางต่อไปอีกครั้งก็ทุลักทุเลไม่ได้น่าดูชมเอาเสียเลย
แต่ท่านดอนก็หาใส่ใจไม่ ถูลู่ถูกังเดินทางออกผจญภัยไปเรื่อย
ต่อสู้กับความเพ้อฝันของตัวเอง เห็นอะไรต่อมิอะไรเป็นสัตว์ประหลาด เป็นของที่เกิดจากเวทย์มนต์พ่อมดแม่มด กระทั่งกังหันลมเก่าๆก็ไม่เว้น เข้าโรมรันพันตูจนสิ้นสติสมประดีไป
cr. wikipedia, google ภาพประกอบ
แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ประทับใจในท่านดอน ด้วยว่าท่านดอนในยามมีสติครบถ้วนนั้นก็รับฟังและช่วยเหลือทุกคนแถมยังให้คำแนะนำที่ดีและลุ่มลึกกลับไปเช่นกัน
ในการผจญภัยช่วงที่2นั้น ท่านดอนและซานโช่ก็ยังคงเดินทางต่อ แต่คราวนี้ทั้งคู่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนมากหน้า มีการเชื้อเชิญไปเป็นแขกตามสถานที่ต่างๆที่ได้ไปเยือนอย่างสมเกียรติและถากถางเย้ยหยันหมิ่นแคลนไปในตัว
เหตุผล - พวกเขาเห็นท่านดอนกับซานโช่เป็นตัวตลกตามข้อมูลที่พวกเขาได้มา
สุดท้าย การผจญภัยก็สิ้นสุดลง ท่านดอนเดินทางกลับบ้านและคืนสติรู้ว่าแท้จริงแล้วตนเองคือใคร ชื่ออะไร
แล้วในวันต่อมา อาล็องโซ กิฆาโน่ก็จากโลกนี้ไป
เป็นอันจบความทั้ง2ภาคครับ
สรุปว่าความมุ่งมั่นในการผจญภัยของท่านดอนกับซานโช่คืออะไรกันแน่
เป็นแค่เรื่องชวนหัวหรือเรื่องจริงจังแบบสุดๆ?
ผมขอสรุปว่ามันคือเรื่องจริงจังแบบสุดๆ มีความมุ่งมั่นที่จะทำความดีของมนุษย์ ความฝันใฝ่อันสูงส่งที่คอยจะพยุงคุณธรรมให้กับหมู่คนทั้งมวลโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง
ใครก็ได้
ท่านดอนกิโฆเต้มิได้เกี่ยงงอนใดๆ
แม้ในช่วงแรกๆของการเดินทาง ท่านดอนก็ทำผิดพลาดอยู่หลายครั้งและหลายเรื่อง ดังนั้นจึงมีแต่คนที่คอยจ้องจับตาดูความผิดพลาดมากกว่าที่จะดูเจตนาของท่านดอน จ้องจะเอาเปรียบ เสียดสีเยาะหยันรวมถึงใช้ความฝันที่จะผดุงคุณธรรมความดีงามมาล้อเล่นจนเป็นที่น่าขบขันต่อคนทั้งปวง
ท่านดอนจึงจมลงไปกับปลักโคลนแห่งความเยาะหยัน
รวมถึงซานโช่ ปันช่าอันเป็นสติและความจริงประจำตัวของท่านดอนกิโฆเต้ก็ไม่เว้นที่ต้องจมตามท่านดอนไปด้วยเช่นกัน
แม้ว่าในบางครั้งผู้คนก็อดนึกชื่นชมสติปัญญาของท่านดอนและซานโช่อยู่ไม่น้อยในยามที่สติดูเป็นปกติ
หากความปกติในสติของทั้งคู่นั้นวัดจากมาตรฐานของมนุษย์ทั่วไปนั้นก็พอจะกล่าวได้ว่าท่านดอนและซานโช่ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใครและออกจะลุ่มลึกอยู่มากโข
แต่ในยามที่ความเพ้อฝันเข้าครอบคลุมจิตใจของทั้งสอง ระดับความปกติของสตินั้นก็มักจะผิดเพี้ยนไปจากมาตรฐานของมนุษย์เช่นกัน มิไยว่าซานโช่ดูจะมีสติมากกว่าหากวัดตามมาตรฐานของเราๆก็ตามที
ดังนั้น ผมขอสรุปว่า ท่านดอนคือคุณธรรมตามอุดมคติอันดีงามของมนุษย์ โดยมีซานโช่เป็นสติเหนี่ยวรั้งมิให้คุณธรรมนั้นเตลิดไป
และมีคนอย่างเราๆสติดีๆที่กล่าวหาว่าทั้งคู่น่ะฟั่นเฟือนนี่ล่ะหนาที่กลับกระทำตัวไร้คุณธรรมตามครรลองและไร้สติตามที่ควรจะเป็น
เสียดสี เยาะเย้ย ล้อเล่นจนเกือบจะเกินเลย
เช่นนี้แล้วใครหนอที่ดูจะมีสติมากกว่ากัน?
เขียนแล้วก็ให้นึกถึงเพลงนี้ Santa Fe โดย Bon Jovi ที่เรียบเรียงจากเรื่อง Young Gunsภาค2 ท่อนที่ว่า
And I blame this world for making
A good man evil
It's this world that can drive a
Good man mad
And it's this world that turns a killer
Into a hero
Well I blame this world for making
A good man bad
ช่างตรงอะไรกันปานฉะนี้นะ
เอาเข้าจริงท่านดอนที่เราอ่านก็ไม่ใช่ดอนกิโฆเต้ตัวจริง ดอนกิโฆเต้เป็นแต่แค่บทบาทสมมุติเพราะท่านดอนกิโฆเต้ในหนังสือนั้นเป็นตัวละครที่แต่งขึ้นจากหนังสือที่ท่านดอนของเราอ่านจนเก็บเอาไปเพ้อฝัน
ท่านดอนตัวจริงของเราเป็นเพียงขุนนางต่ำศักดิ์ที่ชราภาพแล้วผู้หนึ่งที่อ่านหนังสือเกี่ยวกับอัศวินที่มากไปด้วยคุณธรรมจนคิดเพ้อฝันว่าตนเองนั้นคือดอนกิโฆเต้ อัศวินผู้ผดุงคุณธรรม
ออกผจญภัยไปตามความฝันแม้มันจะอัปลักษณ์สิ้นดีในความเห็นของคนทั่วไป
แต่ท่านดอนคนนี้ก็ยังผจญภัยต่อไป
cr. google ละครเพลงสู่ฝันอันยิ่งใหญ่ คณะละคร28
ถึงในท้ายที่สุด สติสัมปชัญญะอันเป็นปกติในความเห็นของคนทั่วไปจะกลับคืนมาแต่นั่นไม่ใช่ประเด็น
ท่านดอนและซานโช่ยังคงโลดแล่นผจญภัยต่อไปในความคิดของผู้ที่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้
มันผ่านมานานแล้วครับ นานขนาดนับหลายร้อยปี
แต่นิยายเรื่องนี้ก็ยังคงแจ่มจรัสอยู่เสมอ
แม้ไม่ใช่ดั่งดวงตะวัน
แต่ก็ไม่ได้น้อยแสงไปกว่าแสงจากหิ่งห้อยที่วับแวมในยามราตรีอันมืดมิด
มันคือคบเพลิงอันเจิดจ้าของผองมนุษย์
คือไฟฝันของมวลชน
โฆษณา