13 เม.ย. 2022 เวลา 09:36 • ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ “พิษสุนัขบ้า”
มิตรภาพระหว่างคนกับสุนัขนั้นมีมาเป็นเวลานาน สามารถย้อนไปได้ตั้งแต่ 33,000-40,000 ปีก่อน
1
และก่อนที่จะมีการบันทึกประวัติศาสตร์ สุนัขก็ได้พบเจอกับไวรัสร้ายแรงที่ยังคงมีอยู่จนถึงทุกวันนี้
บันทึกที่เก่าแก่ที่สุดเกี่ยวกับพิษสุนัขบ้าที่มีการค้นพบ เป็นบันทึกในสมัยเมโสโปเตเมีย โดยมีบันทึกว่าผู้คนในสมัยโบราณ หวาดกลัวสุนัขที่มีอาการคลั่ง บ้า และมีการออกกฎหมายลงโทษเจ้าของสุนัขที่บ้า
พิษสุนัขบ้าเป็นโรคที่อันตรายถึงชีวิต และตั้งแต่โบราณ ก็มีทฤษฎีมากมายเพื่ออธิบายเกี่ยวกับโรคนี้
ลองมาดูกันครับ
บทความนี้จะไม่เจาะลึกถึงอาการหรือข้อมูลทางการแพทย์เกี่ยวกับโรคนี้ แต่จะมุ่งไปที่ประวัติของพิษสุนัขบ้าในอดีต
1
ที่ผ่านมาเป็นเวลานับพันปี มีความพยายามที่จะหาสาเหตุของโรคนี้ หากแต่ก็ไม่สามารถหาสาเหตุได้อย่างชัดเจน
เมื่อ 1,500 ปีก่อนคริสตกาล ชาวบาบิโลนเชื่อว่าเมื่อเกิดจันทรุปราคาในเดือน 12 ของปฏิทินบาบิโลน สุนัขจะติดพิษสุนัขบ้า
1
เมื่อ 300 ปีก่อนคริสตกาล “อริสโตเติล (Aristotle)” นักปรัชญาชาวกรีกโบราณ ก็ได้บันทึกว่าโรคนี้จะเกิดในสุนัข และถ่ายทอดสู่ผู้ที่ถูกสุนัขติดเชื้อกัด
ในสมัยศตวรรษที่ 1 “เซลซัส (Celsus)” นักปรัชญาชาวกรีกโบราณ ได้แสดงความเห็นว่าพิษสุนัขบ้า จะติดต่อผ่านน้ำลายของสัตว์ที่ติดเชื้อ
ค.ศ.1702 (พ.ศ.2245) “ริชาร์ด มีด (Richard Mead)” แพทย์ชาวอังกฤษ ได้แสดงความเห็นว่าการระบาดของพิษสุนัขบ้า ถูกควบคุมโดยดวงจันทร์
ค.ศ.1805 (พ.ศ.2348) “เบนจามิน รัช (Benjamin Rush)” แพทย์ชาวอเมริกัน ได้แสดงความเห็นว่าพิษสุนัขบ้า เกิดจากอากาศหนาวเย็นตอนกลางคืน รวมทั้งการรับประทานถั่วชนิดหนึ่ง
ค.ศ.1937 (พ.ศ.2480) ผู้คนเชื่อว่ามนุษย์ที่ติดเชื้อพิษสุนัขบ้า จะมีอาการคลั่งและไล่กัดผู้อื่น
หากดูจากประวัติศาสตร์การวิเคราะห์หาสาเหตุของพิษสุนัขบ้าที่ผ่านมา ดูเหมือนความเห็นของเซลซัสจะใกล้เคียงความจริงที่สุด
และถึงแม้ว่า 99% ของการติดเชื้อพิษสุนัขบ้าจากสัตว์สู่คนจะมาจากการถูกสุนัขกัด แต่บางครั้งก็เกิดจากสัตว์อื่นได้เช่นกัน โดยเฉพาะค้างคาว
และนอกจากการกัดแล้ว การติดผ่านรอยข่วนและน้ำลายก็มีความเป็นไปได้
การรักษาในสมัยโบราณนั้น ก็มีการพยายามสารพัดวิธี ซึ่งโดยมากก็จะเป็นเกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนา สิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้
จนกระทั่งเข้าสู่ศตวรรษที่ 19 ในยุค 1880 (พ.ศ.2423-2432) “หลุยส์ ปาสเตอร์ (Louis Pasteur)” นักเคมีชาวฝรั่งเศส ก็ได้ค้นคว้าและทดลอง จนเกิดเป็นวัคซีนที่ทำจากเนื้อเยื่อไขสันหลังของกระต่ายที่ติดเชื้อพิษสุนัขบ้า
หลุยส์ ปาสเตอร์ (Louis Pasteur)
แต่วัคซีนนี้ก็ยังไม่แน่ว่าจะใช้ได้ผลในมนุษย์ ดังนั้น ในปีค.ศ.1885 (พ.ศ2428) เมื่อเด็กชายชาวฝรั่งเศสที่ชื่อ “โจเซฟ เมสเตอร์ (Joseph Meister)” ถูกสุนัขที่ติดเชื้อพิษสุนัขบ้ากัด โอกาสในการทดลองจึงมาถึง
วันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ.1885 (พ.ศ.2428) ปาสเตอร์ได้ทำการฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าให้แก่เมสเตอร์ โดยที่ยังไม่แน่ใจว่าจะได้ผลหรือไม่
แต่ปรากฎว่าได้ผล เมสเตอร์ไม่ติดโรคพิษสุนัขบ้า และภายหลัง เมื่อโตขึ้น เมสเตอร์ก็ได้ทำงานในสถาบันของปาสเตอร์
โจเซฟ เมสเตอร์ (Joseph Meister)
เมื่อปาสเตอร์เสียชีวิตในปีค.ศ.1894 (พ.ศ.2437) ก็ได้มีการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันและรักษาผู้ที่ถูกสุนัขบ้ากัดไปแล้วถึง 20,000 คน
และปัจจุบัน โรคพิษสุนัขบ้าก็ยังเป็นโรคที่ร้ายแรง และสามารถคร่าชีวิตคนได้ อีกทั้งในแต่ละปี ก็มีผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าอยู่เรื่อยๆ
โฆษณา