#ทหารอเมริกันที่โด่งดังที่สุดในสงครามโลกครั้งที่สอง
ชีวิตมักเล่นตลกกับคนที่มีฝันชัดเจน อ่านเรื่องราวต่อไปนี้แล้วคุณจะเข้าใจ
โลกแห่งความจริง
ก่อนที่ Louie Zamperini จะกลายเป็นทหารอเมริกันที่โด่งดังที่สุดในสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาคือนักวิ่งระยะไกลที่อายุน้อยที่สุดที่เคยลงแข่งในกีฬาสหรัฐฯ ทว่าด้วยประสบการณ์ที่ยังน้อยเกินไป Louie ในวัย 19 ที่จะท้าชิงเหรียญทอง ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเบอร์ลิน จึงได้เพียงรางวัลที่ 8 กลับมา ซึ่งในการแข่งขันครั้งนั้น
Louie ได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมจำนวนไม่น้อย รวมไปถึง อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ที่
เข้ามารับชมด้วย ทั้งยังกล่าวกับเขาว่า “คุณเป็นเด็กทีมีประสิทธิภาพมากจริง ๆ ”
Louie Zamperini in the 5,000 m race for the 1936 Berlin Olympics, finishing 8th while setting a new lap record in the process.
หลังจากกีฬาโอลิมปิกปี 1936 จบลง Louie ยังได้ทำลายสถิติของวิทยาลัย Southern California และกลายเป็นหนึ่งในนักกีฬา (นักศึกษา) ที่โด่งดังที่สุด ณ เวลานั้น แต่แล้ว กีฬาโอลิมปิกที่จะจัดขึ้นในปี 1940 ก็ถูกยกเลิกไป เนื่องจากประเทศของเขาเริ่มก้าวเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ความฝันในการชิงแชมป์ในกีฬาโอลิมปิกของเขาจึงพังลงชั่วคราว
ในปี 1941 Louie จึงตัดสินใจเข้าเกณฑ์ทหารในกองทัพอากาศสหรัฐฯ และนี้คือจุดเริ่มต้นที่เขาก้าวเข้าสู่สนามรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างเป็นทางการ ระหว่างการออกรบมาหลายครั้ง วันหนึ่งเครื่องบินของเขาก็ตกที่มหาสมุทรแปซิฟิก
ในเหตุการณ์นั้นมีเพียงเขาและลูกเรืออีกสองคนเท่านั้นที่รอดชีวิตมาได้ ทั้ง 3 ดำรงชีวิตหลังจากนั้นบนแพที่มีอาหารน้อยนิดและไม่มีน้ำจืดดื่ม พวกเขาอาศัยเพียงน้ำฝนที่เก็บรวบรวมมาได้ และปลาตัวเล็ก ๆ ที่ต้องกินดิบ ๆ หากวันใดที่สามารถจับนกอัลบาทรอสได้ พวกเขาก็จะนำเนื้อบางส่วนมาใช้สำหรับจับปลาตัวใหญ่ ๆ
Japanese-occupied Nauru Island under attack by Liberator bombers of the Seventh Air Corps, April 1943.
แต่แล้ววันที่ 33 ของการลอยแพ พวกเขาที่กำลังป้องกันแพจากการโจมตีของฝูงฉลามและพายุกระสุน จากเครื่องบินปืนกลของญี่ปุ่นที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดบนอากาศ ทว่าเครื่องบินนั้นกลับตกลงมา จนทำให้แพของพวกเขาพลิกคว่ำ ใกล้กับหมู่เกาะมาร์แชลล์
ลูกเรือคนหนึ่่งของเขาจึงเสียชีวิต Louie และชายอีกคนรอดชีวิตมาได้ แต่พวกเขาก็ยังต้องใช้ชีวิตบนแพอีก 15 วันด้วยอาหารและน้ำเพียงเล็กน้อย.
หลังจากนั้น Louie และเพื่อทหารคนดังกล่าว ก็ถูกทหารชาวญี่ปุ่นจับไปเป็นเชลยศึก ซึ่งเขาถูกทำร้าย ถูกทรมาน ขู่ฆ่า และสอบปากคำโดยผู้คุมที่มีนิสัยซาดิสต์เป็นเวลานานกว่า 2 ปี ทว่าหลังจากที่ทหารญี่ปุ่นคนหนึ่งทราบว่า Louie เป็นนักกีฬาโอลิมปิก ทหารญี่ปุ่นจึงใช้ชื่อเสียงของ Louie เป็นเครื่องมือในการลดขวัญกำลังใจของชาวอเมริกัน โดยบังคับให้ Louie อ่านข้อความที่กำหนดให้
จำยอม
แน่นอนว่าในช่วงแรก Louie ไม่ยินยอมที่จะทำ เขาจึงถูกผู้คุมบังคับให้วิ่งแข่ง และหากเขาวิ่งแพ้จะถูกทุบตีด้วยไม้เบสบอล
แต่หากเขากล้าที่จะวิ่งเพื่อชนะ Louie ก็จะถูกเฆี่ยนจนบาดเจ็บสาหัส การทรมานทางร่างนี้ทำให้ Louie ต้องยินยอมทำตาม เพื่อยืดเวลาในการรักษาบาดแผล และเพื่อส่งสารให้กับพ่อแม่ของเขาว่า “เขายังคงมีชีวิตอยู่”
หลังจากนั้นในปี 1945 ญีปุ่นก็ยอมแพ้สงคราม Louie จึงถูกปล่อยตัวกลับบ้าน แต่เพราะประสบการณ์ในช่วงสงคราม ที่ตามมาหลอกหลอนเขาอีกหลายปี Louie จึงไม่สามารถเริ่มต้นอาชีพนักวิ่งได้อีก
Louis Zamperini at announcement of 2015 Tournament of Roses Grand Marshal
นอกจากนี้ Louie ยังพึ่ง แอลกอฮอล์ เพื่อขจัดฝันร้าย เขาดื่มอย่างหนักจนกลายเป็นคนติดสุรา ซึ่ง Louie หันหลังให้กับแอลกอฮอล์ หลังจากแต่งงาน นิสัยของเขาเปลี่ยนไปกลายเป็ฯคนที่สงบมากขึ้น อีกทั้งเขายังเดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อให้อภัยผู้คุมที่ทรมานเขาเป็นการส่วนตัวด้วย
ชีวิต ของ Louie เป็นที่ชื่นชมอย่างมากสำหรับใครหลาย ๆ คน
ดังคำที่กล่าวไว้ว่า “จุดตกต่ำของชีวิตไม่ได้ยาวนานเสมอไป”
ติดตามเรื่องเล่าจากดาวนี้เพิ่มเติมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/fromthisstar
Blockdit : https://www.blockdit.com/fromthisstar
Instagram : https://www.instagram.com/fromthisstar/
TikTok: https://vt.tiktok.com/ZSJSpnyCT/
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดีๆได้ใน Comments นี้เลย
#เรื่องเล่าจากดาวนี้
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
