14 เม.ย. 2022 เวลา 04:35 • สัตว์เลี้ยง
เมื่อโบ้ชอบกินอึ จะทำอย่างไรดีนะ
เมื่อโบ้ชอบกินอึ จะทำอย่างไรดีนะ?
ภาวะกินอึ ศัพทย์ทางการแพทย์ เรียกว่า Coprophagia เป็นภาวะที่ไม่ปกติในน้องหมา พบยากมากในแมว โดยที่หมาอาจจะกินอึของตัวเอง ของแมว ของหมาตัวอื่น หรือสัตว์อื่นใดก็ได้ บางครั้งเราจะเห็นแม่หมากินอึลูกตัวเอง ซึ่งเป็นภาวะปกติที่เจอได้ แต่สัตว์ทุกตัวที่กินอึ ต้องได้รับการวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริงเสมอ
ทั่วไปเราจะพบว่า ลูกหมากินอึอยู่บ่อย ๆ จัดเป็นพฤติกรรมการเล่น เรียนรู้และสำรวจสิ่งรอบตัวในช่วงวัยนั้น ๆ เป็นปกติ ไม่เป็นอันตรายใด ๆ เจ้าของเพียงแต่เฝ้าระวัง ไม่ส่งเสริม (ให้รางวัล หรือกล่าวชม) หรือบังคับลงโทษจนเกินไป พฤติกรรมนี้จะหายไปเองเมื่อน้องโตขึ้น
ส่วนในสัตว์ที่โตแล้วแต่ยังชอบกินอึอยู่ เจ้าของอาจต้องสังเกตพฤติกรรมให้หมอครับ เช่น น้องที่ได้อาหารน้อยไป หรือจำกัดการเข้าถึงอาหารน้อยจนเกินไป (พบมากในฟาร์ม หรือบ้านที่เลี้ยงหลายตัว) จะทำให้น้องเกิดนิสัยตะกละเวลากินอาหาร เหนี่ยวนำให้ชอบกินอึได้
หากอาหารไม่ได้เข้าถึงยากขนาดนั้น แต่น้องยังกินอึ ไม่แน่ว่าเค้าอาจมีปัญหาตรงลำไส้ เรื่องการดูดซึมสารอาหารไม่ดี ก็เหนี่ยวนำพฤติกรรมชอบอึ เพื่อกินสารอาหารที่ไม่ย่อย หรือยังไม่ดูดซึมจากอึกลับเข้าไปใหม่ (ในกระต่าย ด้วยเหตุผลที่มาที่ไปข้างต้นถือเป็นภาวะปกติมากครับ ไม่ถือเป็นปัญหาลำไส้แต่อย่างใด)
งานศึกษาหนึ่งพบว่าหมาที่เลี้ยงในฟาร์ม 10% มีพฤติกรรมกินอึหลังออกจากฟาร์มไปแล้ว 4 สัปดาห์ จากการสำรวจทางอินเทอร์เน็ต พบว่ามีหมาถึง 16% ชอบกินอึบ่อย ๆ เมื่อจำแนกย่อยออกไป พบว่า หมาตัวผู้ไม่ทำหมัน กินอึบ่อยกว่าหมาตัวผู้ที่ทำหมันแล้ว และบ่อยกว่าหมาตัวเมีย โดย 2/3 ของหมาเหล่านี้ชอบกินอึหมาตัวอื่นมากกว่าของตัวเอง
พฤติกรรมตะกละ เป็นปัจจัยเสี่ยงที่พัฒนาให้เด็ก ๆ ชอบกินอึ โดยหมาส่วนใหญ่ท่ีกินอึ มักเคยอยู่สถานที่ที่มีหมาหลายตัวและมีอึสดให้กิน มีทฤษฎีหนึ่งอธิบายปรากฏการณ์นี้ว่า ปัญหาชอบกินอึ อาจมาจากจิตใต้สำนึกในการทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมในคอกและควบคุมพยาธิในประชากรของเค้าเอง (ว้าวววว)
เมื่อน้องหมากินอึ สิ่งแรกที่หมอทำคือ ตรวจเลือด ปัสสาวะ เอนไซม์ ฮอร์โมน ส่องอึ ดูพยาธิ ดูเยื่อโปรตีน เรียกได้ว่าละเอียดสุดๆ ครับ หากมีภาวะตับอ่อนทำงานผิดปกติ ลำไส้อักเสบ ทำให้การดูดซึมสารอาหารหรือการย่อยอาหารบางอย่างผิดไป เกิดพฤติกรรมกินอึเพื่อเอาสารอาหารกลับเข้าไปใหม่ได้ หรือภาวะฮอร์โมนบกพร่องบางอย่าง เช่น Cushing's syndrome ทำให้เกิดพฤติกรรมตะกละขึ้น เหนี่ยวนำการกินอึได้
ถ้าไม่สามารถประเมินสาเหตุแท้จริงได้ หรือหาแล้วไม่พบความผิดปกติ การจัดการคือปรับที่สิ่งแวดล้อมครับ เช่น หากน้องหมาชอบกินอึตัวอื่น เปลี่ยนเป็นปล่อยเค้าไปอึเป็นตัวสุดท้าย หลังเก็บกวาดอึของตัวอื่น ๆ เสร็จ หากน้องกินอึตัวเอง ให้เฝ้าระวังขณะเค้าออกไปอึ หลังอึเสร็จใหม่ ๆ พาเค้าออกห่างจากบริเวณนั้น จนกว่าจะเก็บอึเสร็จจึงปล่อยเล่นได้ หากทำไม่ได้จริง ๆ ใช้ตะกร้อครอบปากไว้ขณะปล่อยไปอึ
ด้านอาหาร ให้เปลี่ยนเป็นอาหารที่ย่อยง่ายขึ้น เพิ่มกากใย เสริมอาหารที่มีเอนไซม์ย่อยโปรตีน ช่วยเพิ่มการดูดซึมโปรตีน ลดความน่ากินของอึลง(สัตว์ชอบกินแหล่งโปรตีน ซึ่งอึปกติจะไม่พบโปรตีนหลงเหลือออกมา) เสริมผงชูรส โยเกิร์ต สับปะรด เพิ่มการย่อย
หากน้องชอบกินอึที่เป็นก้อนแข็งหน่อย ให้เพิ่มน้ำมันพืชหรือกากใยลงในอาหาร เพิ่มระยะเวลาการกินอาหาร กำจัดความตะกละลง โดยใส่อาหารในของเล่น หรือซ่อนอาหารไว้ก็อาจช่วยได้ เสริมผงชูรส โยเกิร์ต หรือสับปะรด ช่วยเพิ่มการย่อย ลดความน่ากินของอึได้ อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาถึงการปรับอาหารเพื่อรักษาภาวะชอบกินอึ พบอัตราความสำเร็จที่ต่ำเพียง 1-2% เท่านั้น
ขณะที่วิธีรักษาด้วยการลงโทษ ไม่ว่าจะเป็นการดุ กักขัง ใช้อุปกรณ์ลงโทษ ยังไม่พบงานศึกษาไหนว่าได้ผลในทางปฏิบัติจริง
โดยสรุป ภาวะกินอึเป็นภาวะที่ไม่ปกติ จำต้องตรวจหาสาเหตุหนึ่งใดที่โน้มนำให้เกิดความชอบอึเสียก่อน หากไม่มีความผิดปกติ จึงจะใช้วิธีการปรับอาหารและพฤติกรรมตามการแนะนำของสัตวแพทย์ประจำของคุณ
โฆษณา