5 บทเรียนชีวิตในวัยที่ใกล้หมดแรงล่าฝัน จากหนัง Fast & Feel Love
[ เนื้อหาต่อไปนี้มีการเปิดเผยข้อมูลของเรื่องบางส่วน ]
“ตอนเป็นเด็ก เจ็บสุดก็แค่หกล้ม” ประโยคนี้อาจเป็นความในใจของใครหลายๆ คน ที่กำลังอยู่ในช่วงวัยของการเติบโต เพราะยิ่งอายุมากขึ้น ปัญหาต่างๆ ก็เพิ่มขึ้นตามมาด้วยอย่างเลี่ยงไม่พ้น
อยู่ดีๆ ดราม่าก็เข้ามาท้าทายชีวิตแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ไม่ว่าจะการเงิน การงาน หรือแม้กระทั่งความรัก ความสัมพันธ์ และสุขภาพร่างกาย ทำให้บางครั้งเราก็รู้สึกว่า “ยิ่งโต ยิ่งเหนื่อย” และดูเหมือนจะไม่มีทางจบสิ้นกันไปง่ายๆ
ชีวิตของคนเราบางทีก็เหมือนกับเรื่องราวของ ‘เกา’ ตัวละครจากภาพยนตร์ Fast & Feel Love นักกีฬา Sport Stacking เจ้าของสถิติเร็วที่สุดในโลก แต่ทำอะไรไม่เป็นเลยสักอย่าง โชคดีที่เขานั้นยังมี ‘เจ’ หญิงสาวที่คอยช่วยเหลือทุกอย่าง จนสามารถประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจ และเมื่อศัตรูหน้าใหม่ (ในวัยประถม) ปรากฏตัวออกมา ทำให้ ‘เกา’ ต้องกลับเข้าสู่การแข่งขันอีกครั้งในวัยเลข 3 แต่ครั้งนี้ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่เคย
แล้วเขาจะทำอย่างไรเมื่อ “ความแก่” รวมถึงความสัมพันธ์และปัญหาดราม่าต่างๆ เป็นอุปสรรคในการไล่ล่าความฝัน?
นอกจากความบันเทิงที่หนังได้มอบให้ เรายังได้ “ทบทวนชีวิต” ผ่านการสนทนาและเรื่องราวของตัวละคร ซึ่งมอบข้อคิดมากมายให้เรา และไม่ว่าใคร วัยไหน ก็สามารถเรียนรู้ไปด้วยกันได้ วันนี้เราอยากชวนทุกคน มาถอด 5 บทเรียนจาก Fast & Feel Love ว่าเราสามารถเรียนรู้อะไรจากเรื่องราวชีวิตของเขากันได้บ้าง
1) คนทั้งโลกอาจไม่สำคัญเท่า “คนที่เห็นคุณค่าในตัวเรา”
“เร็วขนาดนี้ ทำไมไม่ลงแข่งไปเลยล่ะ?” คำถามหลังจากที่ ‘เกา’ ได้เห็นความเร็วระดับเทพจาก ‘ไผ่หลิว’ ลูกศิษย์ของเขาเอง ซึ่งมันเป็นความเร็วระดับที่หากเธอลงแข่ง ก็คงคว้าแชมป์โลกมาแบบง่ายๆ เลย
“ก็ไม่ได้อยากชนะ แค่อยากเล่นสนุกๆ ให้เพื่อนดู”
คำตอบของไผ่หลิว อาจจะดูเรียบง่ายแต่เป็นข้อคิดที่หนักแน่น ชวนให้ทั้งตัวของ ‘เกา’ และ ‘เรา’ ได้ฉุกคิดว่าบางทีเราก็ไม่จำเป็นต้องให้โลกรู้ทุกอย่าง และเราอาจให้ความสำคัญกับคนอื่นมากเกินไป บางทีคนทั้งโลกก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับ ‘คนที่รู้คุณค่าในตัวเรา’
เชื่อว่าทุกวันนี้ ยังมีคนอีกมากที่อยาก ‘พิสูจน์ตัวเอง’ เพื่อให้ใครๆ ยอมรับ ทั้งที่ความจริงเราอาจได้รับการยอมรับจากคนรอบข้างที่ให้ความสำคัญ
เพราะสุดท้ายแล้วเรานี่แหละ ที่รู้ตัวเองดีที่สุดว่าเรา ‘มีดี’ อะไร อย่าใจร้ายกับตัวเองจนเกินไป เพียงเพื่ออยากให้ ‘ทุกคน’ ยอมรับในตัวเรา แต่เราควรหัดที่จะยอมรับและเข้าใจในตัวเอง และให้คุณค่าของคนที่เห็นความสามารถในตัวเรามากขึ้นด้วย
2) มูลค่าที่ต้องเดิมพัน ระหว่างการไล่ตามฝัน
“การจะเดินไปข้างหน้า ต้องทิ้งบางสิ่งไว้ข้างหลัง” - Joseph Cooper
บทพูดจากภาพยนตร์ Interstella ในขณะที่ตัวเอกยอมสละตัวเอง เพื่อให้ภารกิจสำเร็จลุล่วง กลายเป็นฉากกินใจของผู้ชมหลายๆ คน ซึ่งชี้ให้เห็นว่ากว่าจะไปถึงแต่ละเป้าหมายอาจมีบางสิ่งที่ต้องยอมสูญเสียไป
ใน Fast & Feel Love เองก็พูดถึงประเด็นนี้เช่นกัน การที่ ‘เกา’ สามารถประสบความสำเร็จในอาชีพนักกีฬา Stack ขึ้นมาได้ ต้องอาศัยองค์ประกอบมากมาย ทั้งสภาพแวดล้อม อาหารการกิน ความเครียด เพื่อใช้สมาธิฝึกซ้อม
และทั้งหมดที่กล่าวมา มีเพียง ‘เจ’ แฟนสาวคอยจัดแจงทุกอย่างให้เขาตามต้องการ แต่ต้องแลกกับการที่เธอละเลยความต้องการของตัวเองมากเกินไป เพื่อสนับสนุนความฝันของ ‘เกา’ จนกระทั่งถึงจุดที่เธอไม่สามารถอยู่ตรงนั้นได้อีกแล้ว
เมื่อรู้ตัวอีกที โลกของ ‘เกา’ ก็พังทลายไปแล้ว อาหารที่เคยกิน ดินที่เคยเดิน ก็ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว พร้อมกับการจากไปของแฟนสาวที่ไม่มีวันหวนกลับมา
การมุ่งมั่นตั้งใจไปให้ถึงเป้าหมาย เป็นเรื่องที่ดี แต่อีกมุมหนึ่งเราก็ควรลองชะลอความเร็ว ย้อนกลับมาตั้งคำถามว่า หากการไล่ตามฝันครั้งนี้ จะต้องสูญเสียสิ่งสำคัญไป เราจะยอมเดิมพันไหม แล้วที่ปลายทางสุดท้ายคุ้มหรือเปล่า? เพราะบางครั้งบางสิ่งเมื่อเราสูญเสียไปแล้ว มันไม่มีทางย้อนกลับมาอีก
3) เราสามารถเรียนรู้ที่จะเติบโตขึ้นได้ในทุกช่วงวัย
อะไรคือสัญญาณหรือเครื่องหมายยืนยันว่าเราโตแล้ว? เรียนจบมหาวิทยาลัย มีงานทำ สำเร็จเป้าหมายในชีวิต หรือการมีครอบครัว?
เชื่อว่าคำตอบในใจของแต่ละคนคงจะแตกต่างกันออกไป หรืออาจไม่อยู่ในตัวอย่างที่ยกมาด้วยซ้ำ เพราะ “การเติบโต” สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงวัยของชีวิต
หลังจากที่ ‘เจ’ เลือกที่จะจากไป เป็นปมสำคัญที่ทำให้ ‘เกา’ ต้องเรียนรู้ที่จะเติบโตขึ้น จากเด็กที่ไม่เคยทำอะไรเอง ถึงเวลาที่เขาต้องหัดเป็นผู้ใหญ่สักที ไม่ว่าจะงานบ้าน ธุรการเงิน พร้อมสารพัดวิชาเอาตัวรอด เพื่อหัดทำอะไรเองให้ได้ เมื่อไม่มีคนมาคอยดูแล
และนอกเหนือจากกิจกรรม งานบ้าน และการทำงาน ยังมีอีกสิ่งที่เป็นสัญญาณของ “การเติบโต” ซึ่งก็คือการปล่อยวางทิฐิ ยอมรับข้อเสีย เผชิญหน้ากับปัญหาและพร้อมที่จะเรียนรู้เพื่อเป็นคนที่ดีขึ้น
เมื่อ ‘เกา’ เริ่มเรียนรู้ที่จะทำอะไรเองได้ เขาก็ได้พบกับความจริงว่าปัญหาสามารถเกิดขึ้นได้ตลอด เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต ไม่มีอะไรได้ดั่งใจไปทุกครั้ง และทุกอย่างมีทางออก โดยทุกครั้งที่เราเผชิญหน้ากับปัญหา เราจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากการเรียนรู้ที่จะแก้ไข เช่นเดียวกับเมล็ดพันธุ์ที่ต้องเจอแดด เจอฝน ก่อนจะเติบโตมาเป็นต้นไม้ที่เจริญงอกงาม
4) เคารพความรู้สึกและการตัดสินใจของตัวเอง
การที่ ‘เจ’ เลือกจากไปทำตามความฝัน และต้องทิ้ง ‘เกา’ ไว้ในอีกเส้นทางอาจดูใจร้ายต่ออีกฝ่าย แต่การยอมสละความสุข ความต้องการของตัวเองเพื่อรักษาความสัมพันธ์ ก็เป็นเรื่องโหดร้ายต่อตัวเองเช่นกัน
ถ้า ‘เจ’ เลือกอยู่ต่อ ก็ไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการสักที เธอจึงต้องจากไปเพื่อความสุขอย่างที่ฝันไว้
ในบางความสัมพันธ์ บางคนอาจอยู่เพราะสงสาร บางคนยอมเพราะจำใจ กลัวและไม่กล้าตัดสินใจ แล้วก็ปล่อยให้ความรู้สึกนี้ค้างคา ไปไหนไม่ได้สักที ซึ่งเมื่อไรก็ตามที่รู้สึกไม่มีความสุข อาจถึงเวลาต้องทบทวนกับตัวเองว่า “เราจะอยู่ไปทำไม” ไม่ว่าจะเรื่องความสัมพันธ์ การงาน และอื่นๆ
“อยู่กับเขาทำให้เราอึดอัดหรือเปล่า?” “บริษัทนี้ทำให้เราเป็นทุกข์หรือไม่?” หากเราตอบว่า ‘ใช่’ คำถามที่ตามมาก็คือ แล้วจะทนอยู่ทำไม? เลิกกังวลถึงสิ่งอื่นและคิดถึงแต่ตัวเองบ้าง การทำตามความต้องการเพื่อความสุขในชีวิตไม่ใช่เรื่องที่ผิด เราไม่ได้มีหน้าที่ทำให้คนอื่นพึงพอใจตลอดไป เมื่อเราไม่มีความสุข คนที่ควรจะถูกปลอบประโลมมากที่สุดก็คือ ‘ตัวเราเอง’
5) “พบเจอ เรียนรู้ เติบโตและจากลา” เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต
ในชีวิตเราทำใครหล่นหายไปกี่คนนะ?
เชื่อว่าไม่มีใครนับเป็นจำนวนได้ ไม่ว่าจะบรรดาเพื่อนวัยเรียน ญาติพี่น้องที่เคยสนิทกันสมัยเด็ก แฟนเก่าที่เคยผ่านมา หลายคนอาจเคยสัญญากับเพื่อนว่า “เราจะไม่มีวันลืมกัน” หรือบอกว่าจะอยู่กับแฟนตลอดไป บ้างทำได้ บ้างก็ทำไม่ได้ บ้างลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเคยพูดแบบนี้ไว้
เอาเข้าจริงเราแทบไม่เคยสังเกตเลยด้วยซ้ำว่าความสัมพันธ์ในชีวิตเราที่ผ่านมา ไม่เคยมีอะไรแน่นอน เรามักทำใครหล่นหายไปในทุกการเปลี่ยนแปลงของชีวิต ไม่ว่าจะการย้ายโรงเรียน เปลี่ยนที่อยู่ หรืออาจไม่มีเหตุผลเลย แค่จู่ๆ ก็หายไป
ซึ่งหลายคนอาจจมอยู่กับความเสียใจที่ต้องจากลา แต่สุดท้ายชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป เพราะไม่มีอะไรอยู่กับเราไปตลอด เคารพการตัดสินใจ ก้าวผ่านความรู้สึกเหล่านี้ เก็บความทรงจำดีๆ ไว้ในใจ อย่างที่สุดท้าย ‘เกา’ ก็เข้าใจการตัดสินใจของ ‘เจ’ และเดินต่อไปในเส้นทางของตัวเอง
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#inspiration
- 34
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
