16 เม.ย. 2022 เวลา 15:39 • ประวัติศาสตร์
ดวงชะตาประเทศไทย และเส้นหนี้สิน ตามโหรฌานศิลป์
ดวงที่ 19 บัญญัติไว้ว่าประเทศไทยจะหาเงินไม่พอใช้ตลอดกาล
1. เส้นกากบาทหนี้สิน ครั้งแรกที่โหรฌานศิลป์เห็นเส้น กากบาทแนบเส้นชีวิต (รูป 1) ท่านยังมองไม่ออกว่าเป็นเหตุการณ์ใดเกิดกับเจ้าชะตา เนื่องจากการมีเส้นแยกออกจากเส้นชีวิต แบบลู่ลง (โคนเกิดบนเส้นชีวิต ปลายต่ำลง) หมายถึงเจ้าชะตาต้องมีการเดินทาง หากลู่ไปภายในเส้นชีวิตบริเวณอุ้งมือ (เนินศุกร์) ได้บัญญัติไว้ว่าเป็น ”เส้นจาก” หมายถึงต้องมีออกจากครอบครัว ทำเลที่อยู่แต่เดิมตามอายุที่กำหนดโดยเส้นชีวิต หากลู่ออกนอกเส้นชีวิต ก็ต้องมีการออกถึงขั้นมีการเดินทางไกลหรืออาจไม่ได้กลับมาเจอกันอีก (ท่านจึงเรียกว่าเส้นเดินทางไกลมากกว่าเส้นจาก)
2. แต่ปรากฏเจ้าชะตาบอกว่ามิได้เดินทางไปไหน แต่ได้บอกว่าในช่วงเวลาดังกล่าวได้มีการยืมเงินคนอื่นมา ท่านโหรฌานศิลป์จึงได้พยากรณ์ออกไปว่าจะมีการนำเงินไปคืนภายในระยะเวลาที่ระบุโดยเส้นกากบาทที่ลู่ขึ้น (โคนเกิดบนเส้นชีวิต ปลายลู่ชี้ขึ้นไปยังโคนนิ้วนางหรือนิ้วก้อย (แต่หากชี้ไปยังโคนนิ้วกลางจะกลับกลายเป็นเส้นวาสนาลำบาก เพราะไปสิ้นสุดในที่ราบลำบาก หมายถึงต้องเหน็ดเหนื่อยทำงานด้วยตนเองแบบไม่มีใครช่วยเหลือ) ผลก็เป็นตามคำพยากรณ์ ท่านจึงได้บัญญัติเส้นหนี้สิน เป็นรูปกากบาทขึ้น ปัจจุบันหมอดูบางท่านเรียกเส้นลู่ลงว่าเส้นกู้หนี้ และเรียกเส้นลู่ขึ้นว่าเส้นคืนหนี้
3. ปีพ.ศ.2508 หรือ 5 ปีหลังตีพิมพ์ตำราโค๊ตวิทยุแห่งจักรวาล เล่ม 1 (ประถม ก.) หรือ 2 ปีก่อนการตีพิมพ์ตำราโค๊ตวิทยุแห่งจักรวาล เล่ม 4 (ประถม ง.) มีผู้ใช้นามปากกาว่า “หายโศรก” ได้จัดพิมพ์หนังสือ “ดวงชะตาประเทศไทย” ขึ้นโดยได้คัดลอกมาจากผลงานการค้นคว้าของโหรฌานศิลป์ เนื้อหาด้านในเกี่ยวกับรูปดวงชะตาประเทศไทย 30 ดวง มีภาพลายมือประกอบ โดยมีเฉพาะคำอธิบายเชิงประวัติศาสต์และเหตุการณ์ร่วมสมัยที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย ประเทศเพื่อบ้านและโลก โดยมิได้มีคำอธิบายด้านวิชาการทางลายมือแต่อย่างใด
4. ดังตัวอย่างที่ยกมาอยู่ในรูปดวงที่ 19 ได้บัญญัติไว้ว่าประเทศไทยจะหาเงินไม่พอใช้ตลอดกาล (รูป 2) หากพิจารณาลายมือดวงชะตาบุคคลพบว่าลายมือบุคคลนี้ มีเส้นโรคประสาทสมอง (เส้นนอนที่ตัดเส้นชีวิตและเส้นสมอง) ตั้งฉากเส้นคืนหนี้ (โคนออกจากเส้นชีวิต ปลายลู่ขึ้นไปสุดที่เส้นโรคประสาทสมอง) ต่อกันเป็นรูปตัวที (T) บ่งบอกว่าเจ้าชะตาจะมีการใช้แทนหนี้แทนบุคคลอื่น ซึ่งตัวเองไม่ได้ก่อ อันเนื่องมาจากเป็นโรคเส้นประสาทสมอง (ความบกพร่องในการวิเคราะห์และใช้เหตุผล สมัยนี้คือการมโนหรือฟุ้งสร้าน) ซึ่งอาจเกิดจากความหน้าใหญ่ใจโตมองโลกแง่ดีเกินไป หรือขี้เกรงใจ โดยไม่คำนึกถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งหากเส้นลายมือแบบนี้เกิดขึ้นกับบุคคลใด ก็เป็นไปได้ที่จะหาเงินไม่พอใช้นั่นเอง เนื่องจากเเป็นการหาเงินให้ผู้อื่นใช้โดยที่ตนเองไม่ได้ใช้
5. ทัศนะของข้าพเจ้า ต่อความเกี่ยวข้องกับดวงชะตาประเทศไทย เมื่อพิจารณาจากประวัติของโหรฌานศิลป์ที่ปรากฎเรื่องราวในตำราโค๊ตวิทยุฯ ดวงชะตาประเทศไทย และคำพยากรณ์สงครามโลกครั้งที่ 3 (ตีพิมพ์พ.ศ.2508) ท่านมีชะตาชีวิตที่ผาดโผนมาก ปีพ.ศ.2498 ได้สมัครเป็นสมาชิกสมาคมโหรแห่งประเทศไทย ได้บรรยายต่อหน้าผู้ฟังว่าวิชาลายมือของตนสามารถ พยากรณ์ได้แม้แต่เหตุการณ์บ้านเมือง หรือเรื่องของโลก รวมถึงได้ออกคำพยากรณ์เหตุการณ์บ้านเมืองถึง 5 ฉบับแจกจ่ายไปยังประชาชนและหนังสือพิมพ์
ท่านได้พยากรณ์ว่าจอมพลป.จะถูกปฎิวัติในปีพ.ศ.2500 และจะต้องไปเสียชีวิตในต่างประเทศ จนถูกตำรวจเชิญตัวไปสอบสวน และถูกกล่าวหาว่าเป็นบ้า ต่อมาในรัฐบาลจอมพลถนอม ก็ออกคำพยากรณ์ว่ารัฐบาลจะถูกปฎิวัติอีก โดยจอมพลสฤษดิ์ หลังจากนั้นถ้าไม่เสียชีวิตก็จะเดินทางไปต่างประเทศ ส่งผลให้สมาคมโหรลงข้อความประนามในหนังสือพยากรณ์สารของสมาคม ว่าโหรฌานศิลป์ไม่ได้มีความรู้เรื่องวิชาเผด็จรามเหียรหรือมันเด็ล ทั้งที่คำพยากรณ์ทั้งสองครั้ง มีผลเป็นไปตามคำพยากรณ์ สมัยรัฐบาลสฤษดิ์จึงถูกตำรวจสันติบาลนำไปสอบสวน จึงได้มีโอกาสดูลายมือตำรวจให้เกือบทั้งโรงพัก ถูกกล่าวหาว่าบ้า ต้องถูกกักตัวที่โรงพยาบาลศรีธัญญา ก็มีโอกาสได้ดูลายมือให้หมอหลายท่านในโรงพยาบาล
6. จากการพิเคราะห์เนื้อหาข้อมูลในหนังสือที่ยกมา พยากรณ์ในปี 2501 ซึ่งไทยยังไม่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐในเวลานั้น คำพยากรณ์ด้านสงครามไม่ถูกต้อง ที่ว่าไทยจะทำสงครามโลกกับอเมริกาและถูกระเบิดปรมณูในปีพ.ศ.2540 หลังจากนั้นประเทศไทยจะกลายเป็นประชาธิปไตยตามแบบอเมริกาหรืออังกฤษ (แต่กลับกลายเป็นวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งแทน)
สรุปว่าโหรฌานศิลป์สนใจการเมือง และติดตามเหตุการณ์ข่าวสารบ้านเมือง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ การวิเคราะห์สถานการณ์เป็นไปตามบริบทในเวลานั้น จึงมีความโน้มเอียงที่จะใช้ข้อมูลข่าวสารบ้านเมืองในเวลานั้นมาประกอบ ประกอบกับมีชื่อเสียงความแม่นยำในเรื่องที่คนสนใจกันในเวลานั้น จึงมีโอกาสได้ดูลายมือผู้มีอำนาจในสังคมเวลานั้นเป็นจำนวนมาก ทั้งตำรวจ ทหารและนักการเมือง ผู้นำ และชนชั้นสูงจึงได้เห็นความคล้ายคลึงของลายมือที่ปรากฎบรรดาชนชั้นที่มีอำนาจกำหนดชะตาชีวิตของประเทศและสังคมไทย หากดูตามบริบท โหรฌานศิลป์น่าจะเชื่อว่าไทยมีการปกครองระบอบเผด็จการอยู่ในเวลานั้น การกำหนดทิศทางและแนวทางการพัฒนาประเทศโดยชนชั้นนำไม่กี่คน จึงมีความเป็นไปได้ ถ้ามาสมัยปัจจุบันหนังสือดังกล่าว ควรใช้ชื่อว่าดวงชะตาชนชั้นนำไทยและผลกระทบต่อประเทศ น่าจะถูกต้องตรงตามเนื้อหามากกว่า
7. ส่วนการดูลายมือบุคคลชั้นนำเพื่อมากำหนดทิศทางของประเทศ ในยุคปัจจุบัน ข้าพเจ้ามองว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายและยากกว่าแต่ก่อนเนื่องจากทั่วโลก ไม่เฉพาะประเทศไทย อยู่ระหว่างต่อสู้กันระหว่างชุดความคิดเก่าและความคิดใหม่ และคงต้องใช้เวลาอีกหลายปีในการนำไปสู่บทสรุป
โหรทาส 16 เมษายน 2565
รูปที่ 1
รูปที่ 2
โฆษณา