มีภาพก้าวร้าวบ้าง ก็ดี...
กำลังเป็นประเด็นร้อน กรณีนักร้องสาวที่ไปออกงานดนตรีระดับโลก
ผมขอวิจารณ์หน่อยแล้วกัน เพราะดูหลายคนไม่ปลื้มนัก กับสิ่งที่เธอทำ แล้วก็มีวาระทางการเมืองแทรกมาพอสมควร เลยมีมุมมองต่างๆที่ค่อนข้างรุนแรง
...หลายคนก็วิจารณ์ว่าเธอดูก้าวร้าว อันนี้แหละที่ผมค่อนข้างติดใจ และคิดไม่เหมือนคนอื่น...
ผมเห็นว่าภาพลักษณ์คนไทยที่ก้าวร้าวนั้น ควรจะมีออกกสู่บ้างครับ
จากประสบการณ์ ในการทำงานกับต่างชาติ และไปอยู่มาบ้าง ผมพูดตรงๆ ว่าเราจำเป็นต้องเสนอภาพแบบนี้ของคนไทยต่อโลกบ้าง
ปกตินั้นคนไทย มีภาพนิ่มไปหมด คนทุกวงการของไทย เวลาไปไหนต้องนิ่มหมด
...ขนาดนักการฑูต เป็นตัวแทนของประเทศ ไปที่ไหนก็ตัวลีบ มือกุมไข่ เหมือนประเทศนี้อะไรก็ได้...
...นักกีฬาจะลงแข่ง ใครบอกมั่นใจ จะถูกหาว่าโม้ อันนี้ผมว่าไม่เข้าท่า มันต้องมั่นใจสิ ไม่ใช่เผื่อไว้แก้ตัวถ้าแพ้...
ด้วยภาพที่มันออกไป มันเป็นแบบนั้นมานาน ต่างชาตินั้นเลยมองว่าคนไทยเป็นพวก ง่ายๆ อะไรก็ได้มาตลอด
บางคนมองด้วยซ้ำว่าคนไทยเป็นประเภทขาดความมั่นใจ
...แล้วพอทำงานกับพวกเขา คนไทยก็เลยถูกวางไว้ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าความสามารถเสียทุกที
...เด็กไปเรียนก็โดนเขาข่ม เพราะคนอื่นเข้าใจว่าคนไทยอะไรก็ได้นี่แหละ...
...มันจึงควรมีมุมที่ก้าวร้าวให้โลกเห็นบ้าง....
ผมเคยทำงานกับคนญี่ปุ่น เยอรมันและนอร์เวย์ ส่วนอิตาลีนี่เพราะสมัยก่อนแม่ขายหินอ่อน ตัวผมเองก็สั่งเฟอร์นิเจอร์บ่อยมาก เลยคุ้นเคยเป็นพิเศษ และเคยไปอยู่มาระยะหนึ่ง
ผมพบว่า สิ่งที่ชาวต่างชาติมองเราเหมือนกันหมดและไม่ดีเลย คือ พวกเขามองว่าคนไทยส่วนมากนั้นใจดี สั่งง่าย แต่ไม่มีประโยชน์ใช้งาน โดยเฉพาะงานระดับสูงที่ต้องตัดสินใจ !!!
นี่คือความจริง
ทั้งหลายทั้งปวงที่เป็นงี้ ก็เพราะภาพที่เราสื่อออกไป ที่มันมาจากค่านิยมเราเองนั่นแหละ
ในความน่ารักของคนไทยนั้น ลึกๆแล้ว ไม่มีอะไรมากกว่า การเผื่อทางถอยให้ตัวเอง เพื่อเอาตัวรอด มันไม่ใช่ความน่ารักที่แท้จริง
...หรือใครจะเถียง ยอมรับมาดีๆดีกว่า...
สิ่งเหล่านี้ ชาวต่างชาติเขามองว่า ในเมื่อคุณยังไม่มั่นใจในตัวเองเลย แล้วเขาจะมั่นใจคุณได้อย่างไร
คนไทยส่วนมาก มักจะบ่นเจ้านายต่างชาติ แต่ในมุมกลับ เขาก็เบื่อพวกคุณพอกันนั่นแหละ...
หลายปีก่อน ในงานอาคารสูงแห่งหนึ่ง ตอนนั้นผมยังไม่ได้เปิดบริษัทเอง บริษัทต้นสังกัดผมตอนนั้นจ้างวิศวกรนอร์เวย์มาดูแลโครงการ
ตอนแรก เขาไม่เอาทีมมาเลยนะ ด้วยเชื่อว่าคนไทยเก่ง
...แต่สุดท้ายทีมคนไทยไม่รอด ก็เพราะไอ้นิสัยแบบนี้แหละ ไม่ใช่ความสามารถไม่พอ...
มีอยู่ครั้งหนึ่ง แกรำคาญหรืออย่างไรไม่ทราบ เลยแกล้งพูดผิดๆในการประชุม...
...พอพูดจบ แกถามว่า ใครมีอะไรสงสัยไหม...
...สิ่งที่เกิดขึ้น คือ คนไทยเงียบหมด แม้แต่วิศวกรอาวุโสก็เงียบฉี่ ประมาณว่าทุกอย่างโอเคแล้ว (แต่คิดในใจว่า ตามสบายครับท่าน เดี๋ยวพวกกูตามแก้หน้างานเองก็ได้วะ)
...แต่ก็มีไอ้เด็กบ้าคนหนึ่ง ลุกขึ้นใส่แกเป็นชุด ไอ้บ้าคนนั้นก็คือผมเอง ตอนนั้นเพิ่ง 26 ไฟแรงแดงเดือดเลยห้าว
แกฟังจบ แกก็บอกผมว่า ใช่!คุณพูดถูก เพราะผมจงใจพูดให้ผิด เพื่อดูว่าพวกคุณจะทำอย่างไร !!!
...แล้วก็มองกราดไปทั่วห้องประชุม ซึ่งทุกคนก็เหวอรับประทานกันหมด. แล้วหันมาถามผมว่า "คุณมั่นใจไหมว่าจะดูแลสิ่งที่ผมสั่งได้"
..." ผมมั่นใจ " ผมตอบแบบนั้น ...
แกหัวเราะ แล้วบอกว่า นึกว่าจะตอบว่าจะพยายามทำให้ดี...
...หลังจากนั้นสองวัน ทีมงานในห้องทั้งหมดยกเว้นผม ก็ถูกเตะพ้นโปรเจกต์ แล้วแทนที่ด้วยทีมฝรั่งเกือบทั้งทีม คนไทยนี่แทบจะเหลือแต่ล่าม ฝ่ายเทคนิคกระเด็นหมด
แกให้เหตุผลในภายหลังว่า มันไม่มีประโยชน์ ที่จะมีทีมที่ไม่เสนอความเห็น คิดแต่จะเอาตัวรอด ก็คือไม่รับผิดชอบ แล้วจะเสียเงินจ้างทำไม...
...นี่แหละ ผลจากนิสัยของคนไทยเอง ....
...และสิ่งที่เขาพูดในวันนั้น ก็คือสิ่งที่สอนตัวผมเองอยู่เสมอมาจนวันนี้ ...
คนไทยนั้น ชอบความนอบน้อม
มันก็ดีแหละ แต่บางครั้งมันก็มากเกินไป
นอบน้อม แบ่งรับแบ่งสู้ บางมุมมันก็คือไม่มีความมั่นใจ ไร้ความรับผิดชอบ ในมุมชาวต่างชาติ เขาไม่ชอบคนลักษณะนี้เอามากๆ ถ้าต้องทำงานด้วยกัน
ผมชอบนะกับการทำงานกับเด็กรุ่นใหม่ อีโก้เยอะไปหน่อย แต่มันก็กล้าพูดดี ไม่ใช่ให้เราคิดคนเดียว ต่างกับยุคผมมาก ที่เน้นมือกุมไข่
...ผมถึงบอกว่า ภาพที่เราสื่อกับชาวโลก ความก้าวร้าว มันก็ต้องมีบ้าง ...
...ให้ชาวโลกเขารู้ ว่าคนไทยก็กล้าพูด กล้าทำ และกล้ารับผิดชอบเหมือนกัน กับสิ่งที่พูดและทำลงไป
...ใช่ ! มันอาจดูแรง แต่มันก็ดีกว่าให้คนอื่นเขามองเราเป็นหมูในอวย ลูกหมา ลูกแมวนั่นแหละ....
...ภาพ มาจากนิสัยดั้งเดิมของเรา ทำให้เราสื่อออกไป และมุมมองต่อภาพที่คนอื่นมีต่อเรา มันก็แบบนี้เช่นกัน
...หมดยุคแล้วครับ ประเภทมือกุมไข่ ได้ครับนาย อะไรแบบนั้น
...เจ้านายนิยมสอพลอแบบไทยๆ อาจชอบ แต่ถ้าคุณจะอยู่กับชาวโลกเขามันก็อีกแบบ
...แล้วทุกวันนี้เราตัดขาดโลกได้งั้นเหรอ?...
...เราชอบเหรอ ที่จะอยู่นิ่มๆ เป็นหมูสยาม...
...แม้แต่คนจีน ยังเรียกแบบหยามๆเราว่า "เซียมล้อตือ"...
...ชอบเหรอครับแบบนั้น...
...มีภาพโหดๆออกไปบ้าง มันก็ดีแหละน่า....
เครดิตในภ
- 13
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
