28 เม.ย. 2022 เวลา 05:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
หนึ่งสิ่งที่เราต้องทำในทุก ๆ ปี ก็คือการวางแผนลดหย่อนภาษี
แต่หลายคนอาจจะคุ้นชินกับการวางแผนลดหย่อนภาษีในช่วงปลายปี ซึ่งอาจจะทำให้เราเสียผลประโยชน์บางอย่างที่เราควรจะได้รับไป
วันนี้เราเลยจะพาไปดูกันว่าทำไมเราถึงควรเริ่มต้นวางแผนลดหย่อนภาษีกันตั้งแต่ช่วงต้นปี
เหตุผล 3 ข้อ ทำไมต้องวางแผนลดหย่อนภาษีตั้งแต่ต้นปี
เหตุผลข้อแรก
คือ เราจะมีเวลาตรวจสอบสิทธิประโยชน์ได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน เพราะการที่เราวางแผนลดหย่อนภาษีตั้งแต่ต้นปี จะทำให้เรารู้ว่าเรามีสิทธิ์อะไรบ้าง และสามารถใช้สิทธิ์ได้อย่างครบถ้วน เช่น
  • ใช้สิทธิ์ลดหย่อนสำหรับคนที่มีบุตร
  • ลดหย่อนกรณีที่เลี้ยงดูบุพการี
  • ลดหย่อนจากเบี้ยประกันชีวิต
โดยถ้าเราเป็นมนุษย์เงินเดือนก็สามารถสอบถามทางบริษัทว่าสามารถทำเรื่องบันทึกค่าลดหย่อนตั้งแต่ต้นปีได้หรือไม่ (ล.ย.01) เพื่อช่วยลดภาษีที่ถูกหักล่วงหน้าในเงินเดือนแต่ละเดือนของเราได้
เหตุผลข้อที่สอง
เพื่อเตรียมศึกษาและวางแผนลงทุนลดหย่อนภาษีให้ตรงกับความต้องการของเรา และลงทุนได้ถูกต้องตามเงื่อนไข ป้องกันการถูกปรับ เนื่องจากทำผิดเงื่อนไขการลดหย่อนภาษี
เพราะการลดหย่อนภาษีแต่ละรายการจะมีเงื่อนไขของตัวเอง ตัวอย่างเช่น
  • เรามีการลงทุนในกองทุน SSF/RMF เราก็จะต้องถือครองให้ครบตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้ได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี
  • โดย SSF จะต้องถือครองไม่น้อยกว่า 10 ปีนับจากวันที่ซื้อ
  • ส่วน RMF จะต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี (เว้นได้ไม่เกิน 1 ปี ติดต่อกัน) และลงทุนต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปีเต็ม และจะขายคืนได้เมื่อมีอายุครบ 55 ปี
ดังนั้น หากเรามีการวางแผนลดหย่อนภาษีไปพร้อมกับการศึกษาเงื่อนไขการลดหย่อนภาษีรายการต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นปี ก็จะช่วยป้องกันการถูกปรับจากการทำผิดเงื่อนไขได้
เหตุผลข้อที่สาม
คือ เพื่อให้เราได้รับประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีจากการลงทุนในกองทุนได้อย่างสูงสุด
  • อย่างกองทุน SSF จะลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ หรือไม่เกิน 200,000 บาท
  • กองทุน RMF จะลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ หรือไม่เกิน 500,000 บาท
  • กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกองทุนเพื่อการเกษียณอื่นๆ ไม่เกิน 15% ของรายได้
  • ประกันบำนาญไม่เกิน 15% ของรายได้ หรือไม่เกิน 200,000 บาท
ซึ่งเมื่อรวมกันทั้งหมดแล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
ซึ่งเมื่อเรารู้ข้อมูลการลดหย่อนภาษีของแต่ละกองทุนแล้ว เราก็จะรู้ว่าควรลงทุนในกองทุนประเภทไหน มากน้อยแค่ไหน
โดยแนะนำให้ลงทุนแบบ DCA ซึ่งเป็นวิธีลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ที่จะทยอยลงทุนอย่างต่อเนื่องด้วยต้นทุนเท่า ๆ กันทุกเดือน วิธีนี้จะช่วยให้เรามีสภาพคล่องมากขึ้น เพราะถ้าไปลงทุนแต่ช่วงปลายปีเราอาจจะเผลอใช้ไปกับอย่างอื่นหมดแล้วก็ได้
และเมื่อนำมาคำนวณดี ๆ แล้ว ยังช่วยเฉลี่ยต้นทุนให้ถูกกว่าการทุ่มเงินก้อนลงทุนในช่วงปลายปี ทำให้มีโอกาสรับผลตอบแทนมากขึ้นไปอีกด้วย
ทีนี้ทุกคนคงเข้าใจกันแล้วว่าทำไมเราถึงควรเริ่มต้นวางแผนลดหย่อนภาษีกันตั้งแต่ต้นปี
สำหรับใครที่กำลังคิดจะวางแผนการลงทุนเพื่อรับผลประโยชน์ในเรื่องของการลดหย่อนภาษี ก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลของแต่ละกองทุนให้ละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน และวางแผนเป้าหมายการเงินเอาไว้ให้ดี เพื่อให้การลงทุนของเราเกิดประโยชน์ทั้งในด้านการลงทุน และผลประโยชน์ด้านภาษี
ดูรายละเอียดเกี่ยวกับกองทุนลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3JOhKZT
#KAsset #KBankLive
โฆษณา