18 เม.ย. 2022 เวลา 11:00 • ความคิดเห็น
สุดปัง ! เมื่อแรปเปอร์สาวอย่าง #Milli โชว์การกิน #ข้าวเหนียวมะม่วง บนเวทีคอนเสิร์ต #Coachella 2022 เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย จนเป็นกลายเป็นประเด็นร้อนแรงโดยเฉพาะการแสดงออกบนเวทีที่สื่อให้เห็นถึง Soft Power ของประเทศไทย ที่จะช่วยผลักดันความเป็นไทยให้เข้าไปอยู่ในใจของคนทั่วโลก
Soft Power คืออะไร สำคัญด้วยหรอ
หากเข้าใจแบบง่าย Soft power ในบริบทนี้คือพลังของกลยุทธ์ในการเผยแพร่วัฒนธรรมและแนวคิดต่าง ๆ ให้เป็นที่ยอมรับหรือสร้างการเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง โดยไม่ใช่การบังคับ ยกตัวอย่างเช่น ประเทศเกาหลีที่ประสบความสำเร็จจากใช้ Soft Power ด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาล โดยการสอดแทรกวัฒนธรรม อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และการแต่งกาย ผ่านสื่อบันเทิงในช่องทางต่าง ๆ จนทำให้เกิดเป็นเทรนด์ “ตามรอย…” และปรากฏการณ์ของ Milli ที่ทำให้ยอดการค้นหาของ Keyword คำว่า “Mango Sticky Rice” หลังจบโชว์ที่ Coachella พุ่งขึ้นสูงมากบนแพลตฟอร์ม Google และ Hashtag #ข้าวเหนียวมะม่วง กลายเป็นที่กล่าวถึงใน Twitter รวมไปถึง Social media อื่น ๆ อีกมากมายจนทำให้ใครหลายคนสั่งมากินและถ่ายรูปโชว์กันเต็ม Timeline ไปแบบ อิ่ม ๆ จุก ๆ 🥭🥭🥭
มาเข้าเรื่อง ประเทศไทยยังมี Soft Power อะไรบ้างที่ชวนให้นึกถึง
จากข้อมูลของ อ.กวิน เจิดจรรยาพงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด, Chulalongkorn Business School ได้แบ่ง Soft Power ออกเป็น “5F” ตามนโยบายของรัฐฯ​ ประกอบด้วย Food, Film, Fashion, Fighting และ Festival ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
1. Food อาหารไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ทั้งจุดเด่นของรสชาติ สีสัน หน้าตา หากลองถามชาวต่างชาติว่านึกถึงประเทศไทยคิดถึงอะไร “ต้มยำกุ้ง” คงเป็นคำตอบแรก ๆ ที่ได้ยิน รวมไปถึงข้าวเหนียวมะม่วงที่กล่าวไว้ข้างต้น ดังนั้น อัตลักษณ์ความเป็นไทยอันดับต้น ๆ ที่ชาวต่างชาติรู้จักคงหนีไม่พ้นเรื่องอาหาร คงจะดีถ้าทำให้คนต่างชาติได้รู้จักอาหารไทยได้มากขึ้น ถึงความละเอียดและซับซ้อนในเครื่องแกงและวัฒนธรรม
2. Film เชื่อหรือไม่ “หนังผีไทย” มีชื่อเสียงโด่งดังที่ชาวต่างชาติยังต้องยอมรับว่าน่ากลัวมากอย่าง “ร่างทรง (Medium)” ที่ทำรายได้และสร้างกระแสฮือฮาอย่างมากที่ประเทศเกาหลี หรือภาพยนต์สยองขวัญระดับตำนานเรื่องดังอย่าง “ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ (Shutter)” ที่ต่างชาติถึงกับขอซื้อลิขสิทธิ์ไปเลยทีเดียว และยังมีอีกหลายเรื่องที่ฮิตติดกระแส อาทิ พี่มากพระโขนง ที่ทำรายได้ทั่วโลก กว่าพันล้านบาท ภาพยนต์ รวมถึง “ฉลาดเกมส์โกง” ที่เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างชื่อเสียงให้นักแสดงสาว “ออกแบบ ชุติมณฑน์” ได้มีโอกาสร่วมเดินบนพรมแดงในเทศกาลหนังเมืองคานส์ในปี 2018
นอกจากนี้ ตลาดของซีรี่ย์ไทยที่ร่วมผลิตกับ Netflix “แนนโน๊ะ” ที่เรียกกระแสจากต่างชาติได้เช่นกัน นอกจากนี้ตลาดซีรีส์วายของไทยก็กำลังสร้างปรากฎการณ์ไปทั่วโลกโดยปัจจุบันประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตคอนเทนต์ซีรีส์วายระดับโลก และเป็นอันดับ 1 ในเอเชีย และเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดัน GDP ของประเทศให้เติบโต
3. Fashion อีกกระแสที่ไม่พูดไม่ได้ เมื่อตอนที่นักร้องสาว LISA เปิดตัวเพลง LALISA พร้อมกับสวมชุดไทยและชฎาที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อดัง “คุณหมู ASAVA” ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาจากทั้งในประเทศและนอกประเทศไทย จนชุดไทยและชฎากลายเป็นของหายากไปเลยช่วงหนึ่ง หรือแม้กระทั่งบนเวทีประกวดอย่าง Miss Universe ที่ทำให้ชุด “Tuk Tuk” ได้รับรางวัลชนะเลิศชุดประจำชาติในปี 2015 นี่ยังไม่รวมถึงชุดราตรีอีกมากมายที่ชวนตะลึงเกือบทุกปี ซึ่งถ้าพูดถึงความสร้างสรรค์ ความละเอียด ความสวยงามของการออกแบบ กล่าวได้ว่าดีไซเนอร์ไทยหลายคนมีศักยภาพในการรังสรรค์ชุดต่าง ๆ ออกมาได้อย่างวิจิตรสวยงามและเป็นที่ตื่นตาของคนทั่วโลก
4. Fighting “มวยไทย” เป็นศิลปะการต่อสู้เลื่องชื่อของประเทศไทย ที่กลายเป็นอีกหนึ่งจุดขายให้กับการท่องเที่ยวไทยในการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาศึกษาศิลปะมวยไทย โดยนักท่องเที่ยวอันดับหนึ่งที่ชื่นชอบมวยไทยคือ ชาวอังกฤษ ออสเตรเลีย และฝรั่งเศส ตามลำดับ (อ้างอิง จากข้อมูลบนเว็บไซต์ The Nation Thailand ในปี 2016) ยังไม่รวมถึงภาพยนต์ดัง “องค์บาก” ที่ทำให้ จาพนม หรือ Tony Jaa เป็นที่รู้จักในวงการหนัง Hollywood ด้วยฝีมือแม่ไม้มวยไทย
5. Festival “สงกรานต์” เทศกาลที่โด่งดังทั้งในและต่างประเทศ หากย้อนไปก่อนการระบาดของโรคโควิด-19 นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อร่วมสนุกกับเทศกาลสงกรานต์ของไทยเรา แม้จะอยู่ท่ามกลางการระบาดของโรคโควิดในปีนี้ รายได้จากการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่เพิ่งผ่านมา เฉพาะภูเก็ตจังหวัดเดียวก็สูงถึง 3 พันล้านบาทแล้ว ดังนั้นเชื่อได้เลยว่าหากสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติเทศกาลงานฮิตของไทยต้องเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศอย่างแน่นอน
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ความจริงไทยเราอาจมี Soft Power ที่น่าสนใจได้อีกมากมาย เช่น “Fortune” เพราะถ้าพูดถึง “สายมู” ชาติไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นการสักยันต์ การลง​ ณ​ หน้าทองที่ดึงดูดทั้งคนไทยและต่างชาติ แม้แต่ดารา Hollywood หลายคนเองก็บินมาเพื่อประกอบพิธีกรรมเหล่านี้โดยเฉพาะ
สำหรับประเทศไทยที่อุดมไปด้วยความหลากหลายเชิงวัฒนธรรม ซึ่งล้วนแต่มีมูลค่าต่อทั้งเศรษฐกิจและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถนำไปใช้เพื่อพัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว นี่อาจเป็นอีกจุดสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้ประเทศไทยเริ่มศึกษาแนวทางการใช้ Soft Power ให้เป็นประโยชน์ในการโปรโมตประเทศเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจไทยอีกทางหนึ่ง
#Bluebik #BluebikGroup #BBIK
🌟อย่าลืมกด Favourite จะได้ไม่พลาดข่าวสารจาก Bluebik
🔹ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Bluebik ได้ที่
โฆษณา