บิล กรอส เป็นนักธุรกิจชาวอเมริกันผู้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในด้านการลงทุนพันธบัตรและตราสารหนี้ เขาดูแลกองทุนมูลค่ารวมกว่าแปดแสนล้านเหรียญดอลลาร์ เป็นหนึ่งในผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ บิล กรอส เล่าว่าการประสบความสำเร็จของเขา ส่วนหนึ่งมาจากการรู้จักมองและวิเคราะห์อย่างถูกจุด ทั้งจากวิชาชีพและประสบการณ์ส่วนตัว
ครั้งหนึ่งสมัยยังหนุ่ม บิล กรอส เดินทางไปพักผ่อนที่นัสซอ บาฮามาส์ รีสอร์ทที่เขาไปพักผ่อนมีโต๊ะพนันด้วย บิลมีเงินติดกระเป๋า 50 เหรียญ เขาตัดสินใจทดลองดูฝีมือทางพนันของเขาที่โต๊ะแบล็คแจ็ค ภายในห้านาที เงิน 50 เหรียญของเขาก็หายวับไปกับตา เขาพบว่าการหาเงินโดยการเสี่ยงโชคแบบนี้ไม่มีทางทำให้เขารวยได้ เพราะเขาไม่รู้ถ่องแท้ในสิ่งที่เขาทำ
นี่เป็นบทเรียนที่หนึ่ง
ต่อมาเมื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนกะโหลกร้าว นอนรักษาตัวในโรงพยาบาลหลายเดือน ช่วงเวลานั้นบิลผ่านวันเวลาด้วยการอ่านหนังสือเกี่ยวกับการนับไพ่เพื่อเอาชนะเจ้ามือแบล็คแจ็คให้ได้
บิลใช้เวลาในโรงพยาบาลศึกษาเรื่องแบล็คแจ็คอย่างหมกมุ่น หลังจากเรียนจบในปี 1965 เขามุ่งหน้าสู่ ลาส เวกัส พร้อมเงินสองร้อยเหรียญในกระเป๋า คราวนี้ฝีมือของเขาดีขึ้นอย่างมาก บิล กรอส เล่นแบล็คแจ็คทุกวัน วันละ 16 ชั่วโมง ตั้งแต่เช้าจนค่ำ นานสี่เดือน เงิน 200 เหรียญทวีขึ้นเป็นหนึ่งหมื่นเหรียญ จัดว่าเป็นเงินก้อนไม่เล็กทีเดียวในทศวรรษ 1960 แต่เมื่อคำนวณออกมาแล้วก็พบว่า ในจำนวนชั่วโมงยาวนานขนาดนั้น การหาเงินได้หนึ่งหมื่นเหรียญไม่ใช่เรื่องน่าทึ่งแต่ประการใด เพราะเฉลี่ยเท่ากับว่าเขาหาเงินได้แค่ชั่วโมงละห้าเหรียญเท่านั้น น้อยกว่าคนใช้แรงงานเสียอีก!
สิ่งที่ดูเหมือนกำไรที่แท้คือการขาดทุน!
เขาเรียนรู้ว่า การมองธุรกิจในภาพรวมสำคัญกว่าการมองจุดเล็ก ๆ และชัยชนะในเกมหนึ่งไม่ได้หมายถึงชัยชนะในภาพรวม
นี่เป็นบทเรียนที่สอง
ทั้งสองบทเรียนทำให้เขาเข้าใจความสำคัญของการเรียนรู้จากทั้งความล้มเหลวและความสำเร็จ มันทำให้เราเห็นภาพเรื่องหนึ่ง ๆ ชัดเจนแบบแทงทะลุ เป็นหัวใจของความสำเร็จทุกชนิด
คนล้มเหลวจำนวนไม่น้อยเรียนรู้บทเรียนจากความล้มเหลว แล้วจึงจะประสบความสำเร็จ แต่คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มักไม่เรียนรู้บทเรียนจากชัยชนะ ต้องเรียนรู้อะไรอีกเล่า? พวกเขามักบอกว่า “ฉันมาถูกทางแล้ว” และเดินย่ำรอยเดิมไป กว่าจะรู้ตัว พวกเขาก็อาจล้มเหลวจากประสบการณ์ของชัยชนะอย่างไม่น่าเชื่อ!
การเรียนรู้ความผิดพลาดของชัยชนะอาจยากกว่าการเรียนรู้ความผิดพลาดของความล้มเหลวเสียอีก!
เด็กหนุ่มสาวมากมายเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ไม่ใช่ความพ่ายแพ้ เพราะเกมนี้ยังอีกยาวไกล ไม่ได้วัดกันที่วันสอบติดคณะใดคณะหนึ่ง ไม่ได้วัดกันที่วันรับปริญญา
การสูญเสียธุรกิจให้คู่แข่งก็ไม่ได้หมายความว่าจะแพ้ทั้งกระดาน ยังมีหนทางอื่น ๆ ที่ชนะเกมรวมได้
นักกีฬาที่แพ้ 5-6 เกมรวด ก็ไม่ได้ลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ในเกมรวมเสมอไป
ท้ายที่สุดแล้วเราวัดกันที่ภาพรวม - the big picture
the big picture หมายถึงมุมมองรวมต่อสถานการณ์หรือเรื่องเรื่องหนึ่ง
บางครั้งรายละเอียดย่อยในบางจุดอาจติดลบ ขาดทุน หรือเป็นภาพลบ แต่หากวัดโดยรวมแล้วเป็นบวก หรือกำไร หรือเป็นภาพที่ดีอยู่ ก็ถือว่าภาพรวมของเรื่องนั้นหรือสถานการณ์นั้นใช้ได้
การมองกว้าง-ไกลจึงเป็นสิ่งจำเป็น
ชัยชนะหนึ่งไม่อาจใช้เป็นสูตรสำเร็จของชัยชนะทั้งหมด เห็นชัดอย่างยิ่งในโลกธุรกิจ ไม่เช่นนั้นป่านนี้โลกเราคงมีแต่คนรวยซึ่งสามารถรวยง่ายดายจากตำรา ‘สอนให้รวย’ ทั้งหลาย
ชีวิตคือการด้นอย่างหนึ่ง ไม่มีสูตรตายตัว ไม่มีการแพ้อย่างราบคาบหรือชนะอย่างเด็ดขาด เพราะสถานการณ์เปลี่ยนไปตลอดเวลา เกมเปลี่ยนไป ประกอบด้วยตัวแปรใหม่ ๆ คนเล่นเกมคนใหม่ ๆ
แน่ละ รสชาติของชัยชนะย่อมดีกว่าความพ่ายแพ้ แต่การเล่นตามความเคยชินอาจพาเกมรวมล่มลงได้ คนฉลาดจึงต้องรู้จักวิเคราะห์แม้แต่ชัยชนะ มองรอบด้าน มองในจุดที่ไม่น่าจะมอง ในมุมที่ไม่มีใครมอง
อย่างที่ปรมาจารย์ ซุนหวู่ เขียนไว้ใน ตำราพิชัยสงครามของซุนหวู่ เมื่อสองพันกว่าปีมาแล้ว “รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง”
แต่สิ่งสำคัญกว่าชัยชนะก็คือความไม่ประมาท ความไม่ยินดียินร้ายเกินเหตุ โดยเฉพาะกับคนที่ชนะบ่อย ๆ และอัตตาสูงกว่าตึกสองร้อยชั้น
ความไม่ประมาททำให้มองรอบด้านขึ้น เรียนรู้ศาสตร์ต่าง ๆ มากขึ้น ไม่พอใจกับความสำเร็จที่จำเจ กล้าท้าทายตัวเองในเรื่องใหม่ ๆ ทางใหม่ ๆ คนเหล่านี้รู้จักไต่ทางสายใหม่สู่ยอดเขาลูกใหม่ ๆ
และรู้จักเดินลงอย่างสง่างามก่อนที่จะถูกถีบตกลงมาจากที่สูง
จากหนังสือ #คำที่แปลว่ารัก ซื้อตรงจากนักเขียนได้ที่ http://www.winbookclub.com/shopping.php (หมวดแนวกำลังใจ)
- 29
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
