20 เม.ย. 2022 เวลา 16:57 • ปรัชญา
ครูบาอาจารย์..สนทนาเรื่องสมองให้ฟัง .. หัวสมองของฉันดี ปัญญาดี มีความจำแม่นอะไรต่างๆ นั้นก็เกิดจากบุญทั้งนั้นแหละ บางคนเรียนด้วยกัน ฟังด้วยกัน ทำไมไม่รู้เรื่อง อีกคนรู้เรื่อง ก็เป็นเรื่องบุญและกรรมของแต่ละคน
ทำบุญเป็นนิจสิน ก็จะเห็นเรื่องราวต่างๆ ปรากฏขึ้นเอง เป็นปัจจัตตังที่เราจะรับรู้เองได้ว่า เอ่อ..บุญนี่ หนุนนำให้เรามีความสุขได้จริงๆ แต่คนทั่วไป เค้าต้องการบุญให้เป็นทรัพย์สมบัติ วัตถุต่างๆ ยศฐานบรรดาศักดิ์ เค้าไม่รู้ว่า สิ่งเหล่านั้น คือ กรรม ทำบุญเท่าไหร่ๆ มันก็ไม่หมด แต่ไปทำกรรม มันก็หมดไม่ได้ อยู่ๆดีๆ อุตส่าห์เก็บหอมลอมลิบไว้เยอะมากมาย มันก็หมดได้ เพราะมันอยู่กับกรรม ไม่ได้สร้างบุญ คนไหนที่สร้างบุญ มีแต่งอกเงย เพราะปัจจัย วัตถุต่างๆ ที่ทำฝากไว้ในศาสนา เราก็ใช้หนี้เจ้าเวรนายกรรมเค้า
คราวนี้ ทรัพย์สมบัติที่เราอุตส่าห์เก็บไว้ ไม่ยอมทำบุญ สร้างกุศลที่ดีเกิดขึ้น รู้ว่าวัตถุเหล่านั้นมันเป็นกรรม กรรมเจ้าเวรนายกรรมก็ต้องนำพาสิ่งนั้น ออกจากที่เป็นกรรมขึ้นมา มันก็หมดไป โดยที่ไม่น่าหมดก็หมด เพราะเราอยู่กับกรรม เราก็ได้มีกรรม ถ้ารู้จักวิธีการต่างๆ เอาที่มันเป็นกรรม สร้างมาเป็นบุญ แบ่งปันขึ้นมา มันก็ปะทะเจ้าเวรกรรม อโหสิกรรมกันได้
ทุกอย่างที่ทุกชีวิตทุกอย่าง อยู่ร่วมกันก็จริง พ่อแม่ลูก สามีภรรยา หรือคนใกล้เคียง แล้วก็สร้างบุญสร้างกุศลให้ทุกคนได้รับบุญ หรือ ว่าให้เค้ามีความสุข เราก็ไม่รู้ว่า หรือ คนใกล้เคียงกัน จะลูกพ่อแม่ จะเป็นเจ้าเวรนายกรรมเราอยู่หรือไม่ เราไม่รู้ เมื่อสร้างบุญสร้างกุศลขึ้นมา เจ้าเวรนายกรรม จะคิดเป็นกรรม ก็มาเป็นเนื้อนาบุญของเราได้ นั้นนี่สิ่งที่ทุกคนต้องหมั่นพิจารณาในการสร้างบุญที่เกิดขึ้น การคล้องกรรม มันมีมากมาย มันละเอียดละออ
เหมือนกับเราที่เราไปทำอะไรมาบ้างวันหนึ่ง ไปปะทะกับกรรมเวรอะไรมาบ้าง แต่เราไม่รู้หรอกว่า สิ่งนั้นคือ ตัวโลภโกรธหลง ที่หลงขึ้น..เข้าไปในจิตใจของเรา ที่ถูกบันทึก รายละเอียดต่างๆเนี่ย เค้าก็จะบอกกันว่า หัวสมองของฉันดี ปัญญาดี มีความจำแม่นอะไรต่างๆ นั้นก็เกิดจากบุญทั้งนั้นแหละ บางคนเรียนด้วยกัน ฟังด้วยกัน ทำไมไม่รู้เรื่อง อีกคนรู้เรื่อง ก็เป็นเรื่องบุญและกรรมของแต่ละคน
คราวนี้การที่เราฝึกให้เป็นผู้ที่จำได้อะไรได้ ในการสร้างบุญกุศล หรือ ทำสมาธิที่เกิดขึ้น นั่นแหละ อโหสิกรรมกันไป เจ้ากรรมนายเวรเค้าก็ไม่ขัดขวาง ทำให้จำสิ่งโน้นสิ่งนี้ได้ จะบอกให้สักนิดหนึ่ง..
หัวสมองของเรา ที่หัวนี้มีคลื่น มีแสง เหมือนกับ คลื่นไฟฟ้าอย่างนี้น่ะ พอเราฟังเสียงเนี่ย ก็เข้าไป ส่งไปที่ศีรษะของเรา แต่มันก็แปรสภาพกันไป ส่งให้จิต จิตถึงรู้เรื่องราวต่างๆในการฟัง หรือ ตาของเราที่มองไป ส่งไปให้กระแสคลื่นที่ศีรษะของเรา มันเป็นคลื่นเป็นไฟ ที่แปรสภาพลงไปสู่จิต จิตถึงรู้ว่า นั้นคน นั้นคือสัตว์ นั้นคือ ต้นไม้อะไรต่างๆ คราวนี้ ผู้ที่ไม่รู้ นึกว่าหัวสมองเป็นผู้จำ มันเป็นศูนย์หนึ่ง ซึ่งมีกระแสหนึ่ง ซึ่งจะทำให้สภาพทุกอย่างที่เข้าไป จะเป็นภาพ เป็นเสียง เป็นแสงอะไรต่างๆ ที่ศีรษะเราจะมีเหมือนกับ คลื่นไฟฟ้าส่งเข้าไปอีกทีหนึ่ง นั้นก็ต้องไปศึกษากัน ที่ยาวไกล
ฉันก็บอกให้ว่าความจำต่างๆเนี่ย อยู่ที่คลื่นกระแสนั่นเหมือนกัน แต่ว่าสิ่งทั้งหลายลงไปที่แม่ทั้งสี่ทั้งนั้น เป็นผู้บันทึกเรื่องราวต่างๆ
วันนี้ได้มาสร้างบุญ แล้วก็ภิกษุ ท่านก็กรุณาช่วยเหลือ ติดต่อ ผู้มีฤทธิ์มีเดช หรือว่า ผู้มีบุญให้มาช่วยเหลือ ก็มาช่วยเราก็ได้สมปรารถนา ถ้าเป็นกลางวันพระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน ผู้ใหญ่ท่านก็มาเอง แต่นี่เวลาที่ไม่สมควรแก่เหตุ ที่ผู้ใหญ่ท่านจะลงมา เค้าก็ยังให้น้องเค้ามา มาแทน อยากจะรู้เรื่องราวพอประมาณ บองถามภิกษุเค้าดูว่า น้องนั้นเปอย่างไร อะไรอย่างไร เอ่อ..การสร้างบุญสร้างกุศลมาด้วยความเต็มใจ ก็ดีแล้ว..หมั่นฝึก หมั่นรู้จักการเสียสละเวลาเนี่ย เราอยู่ตรงนี้ เวลานี้มันมีแต่กรรม ถ้าเราจะหยุดกรรม ต้องทำอย่างนี้ อยากได้บุญต้องทำอย่างนี้ ก็พยายามทำกันขึ้น เอาละก็ขอให้เดินทางด้วยความปลอดภัย ให้มีความสุขกาย สุขใจ ให้ธรรมรักษาจิต มีปัญญาในธรรม สาธุ สาธุ สาธุ
โฆษณา