Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สวนบ้านส้ม
•
ติดตาม
21 เม.ย. 2022 เวลา 03:00 • สุขภาพ
โรงพยาบาลรัฐ...ใครว่าแย่...แค่เข้าใจ...❤️
ขอบคุณภาพจาก Pixabay.com
สวัสดีค่ะทุกคน ห่างหายไปหลายวัน พองานเปิดก็ยุ่งมากมาย และต้องพาคุณแม่สุดที่รักไปพบหมอตามนัดด้วยค่ะ
วันนี้พอมีจังหวะ เลยมาเขียนบทความให้เพื่อนๆ ที่ติดตามกันอ่านสักหน่อย
1
เรื่องที่จะเล่าให้ฟังวันนี้ คือเรื่องของการใช้บริการที่โรงพยาบาลรัฐค่ะ แอดมินคิดว่าคงมีไม่น้อยในที่นี้ที่เคยใช้บริการของโรงพยาบาลรัฐ
แอดมินใช้บ่อยค่ะ เพราะคุณแม่ใช้สิทธิ์บัตรทองของผู้สูงอายุ แม่เป็นโรคเรื้อรัง เบาหวาน และความดัน ต้องหาหมอบ่อยๆ แรกๆ ทุกเดือน หลังจากการนั้นก็ขยับมาเป็นทุก 2 เดือน ทุก 3 เดือน ปัจจุบันทุก 4 เดือนค่ะ
2-3 ปี มานี่นอกจากโรคเบาหวานแล้ว ก็มีเข่าเสื่อมตามอายุเพิ่มมาอีก 1 โรค คนแก่นี่โรครุมเร้าจริงๆ นะคะ ถ้าช่วงหนุ่มสาวไม่ได้ดูแลเรื่องสุขภาพดีๆ ซึ่งคนรุ่นพ่อแม่เราก็ยังไม่ค่อยสนใจเรื่องสุขภาพกันเท่าใดนัก
1
ด้วยเหตุนี้โรงพยาบาลจึงเต็มไปด้วยผู้ป่วยสูงอายุ โดยเฉพาะโรงพยาบาลของรัฐ
เรื่องที่จะมาเล่าและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทุกคนในวันนี้ คือ การให้บริการของโรงพยาบาลรัฐ
แอดมินมักจะได้ยิน คนจำนวนไม่น้อยที่ต่อว่าต่อขาน หรือร้องเรียนโรงพยาบาลของรัฐเกี่ยวกับการให้บริการ
แอดมินอยากให้ทุกคนลองเปิดใจ ทำความเข้าใจกับบริบทของโรงพยาบาลรัฐ อย่างไม่มีอคติ จะเห็นว่าบุคลากรทุกคนพยายามทำหน้าที่ของตนเองอย่างสุดความสามารถจริงๆค่ะ
แอดมินขอเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่พบเจอระหว่างพาแม่ไปรักษาโรค เป็นเวลาหลายๆ ปี ที่โรงพยาบาลรัฐประจำอำเภอ แห่งหนึ่งนะคะ ขอเล่าเป็นข้อดังนี้
❌️การรอคิวนาน
✅️เรื่องนี้เราต้องเข้าใจก่อนว่า เราเป็นคนไข้หมอนัดต่อเนื่อง หรือคนไข้ walk in
ขอบคุณภาพจาก Pixabay.com
ถ้าเป็นคนไข้นัดก็ให้ดูเวลาที่ใบนัดให้ดี ว่าต้องมายังจุดซักประวัติกี่โมง เพราะปัจจุบันเกือบทุกโรงพยาบาล ไม่ต้องการให้คนมากันพร้อมกันเยอะ เรื่องนี้ผู้สูงอายุอาจจะไม่เข้าใจ ต้องอธิบายกันค่ะ ( แม่แอดมินก็อยากจะมาแต่เช้าเหมือนกัน ต้องอธิบายว่าไปเร็วก็ไม่มีประโยชน์ เพราะหมอเรียกตามคิว)
ถ้าเป็นคนไข้ Walk in อันนี้ต้องไปแต่เช้าหน่อย เพื่อกดบัตรคิว ไปช้าอาจต้องรอนาน ควรโทรเช็คให้ดีว่าวันหนึ่งโรงพยาบาลรับกี่เคส เพื่อไม่ให้เสียเที่ยว (ไม่รวมฉุกเฉิน)
1
❌️พยาบาลเสียงดัง เจ้าหน้าที่เสียงดัง
✅️เรื่องนี้มีเหตุผลค่ะ จากที่แอดมินอยู่ในสถานการณ์นี้บ่อยๆ มีความเข้าใจและเห็นใจคุณพยาบาลและเจ้าหน้าที่มากๆ ค่ะ
ขอบคุณภาพจาก Pixabay.com
เพราะอะไร ก็เพราะลูกหลานที่พาพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ไปรพ. ไม่ได้สนใจดูจอมอนิเตอร์ที่เรียกคิว ไม่ได้ฟังพยาบาล บ้างเล่นเกม บ้างเล่น Social media
1
4
ผู้สูงอายุบางคน ไปคนเดียว ไปเจอเพื่อน ก็นั่งคุยกันเพลินตามประสาคนแก่ ไม่ได้ฟังเสียงเรียก บวกกับหูตึงตามอายุ เข้าไปอีก ยิ่งไปกันใหญ่
1
ด้วยเหตุนี้พยาบาล หรือเจ้าหน้าที่จึงต้องตะโกนเสียงดัง ตอนนี้ดีหน่อย มีลำโพงให้ใช้
ที่แอดมินเคยพบและประทับใจมากก็คือ คุณตาท่านหนึ่งมาหาหมอคนเดียว เดินไม่ค่อยไหว พอถึงคิวที่ต้องซักประวัติ พยาบาลเรียกชื่ออยู่นาน ก็ไม่ได้ยิน เพราะหูตึง และเสียงคนไข้ที่คุยกันก็เจี๊ยวจ๊าวมาก คุณพยาบาลจำคนไข้ได้ จึงลุกเดินมาหาคนไข้ที่เก้าอี้ พร้อมกับนั่งซักประวัติตรงนั้นเลย ไม่ต้องลุกไป มา บ่อยๆ
2
2
❌️รอหมอตั้งนาน หมอตรวจเดี๋ยวเดียวเสร็จหล่ะ
✅️เรื่องนี้ เป็นเรื่องของความชำนาญตามวิชาชีพจริงๆ ค่ะ หมอเขาทราบเองว่าใครต้องคุยกันนาน ใครไม่ต้องคุยนาน เพราะบางครั้งหมอก็ดูข้อมูลทางชีวเคมี จากการเจาะเลือด ตรวจปัสสาวะ หรือจากการ X-ray ทรวงอก ควบคู่ด้วย ถ้าอยู่ในค่าปกติก็คุยไม่นาน
1
ขอบคุณภาพจาก Pixabay.com
แอดมินเคยคุยกับหมอทั้งนาน และไม่นานค่ะ วันไหนคุยนานแสดงว่ามีประเด็น คุณหมอเคยขอตรวจเลือดเพิ่มเพราะดูตาแม่ที่ซีดผิดปกติ ซึ่งแอดมินก็ไม่ได้สังเกตเห็น สรุปว่าครั้งนั้น แม่มีเลือดออกในกระเพาะ ต้องนอน รพ.10 วัน ให้ทั้งเลือด ทั้งน้ำเกลือ
แอดมินจึงเข้าใจคุณหมอนะคะที่ต้องใช้เวลาในการตรวจให้คุ้มค่าที่สุด มีคนไข้ที่นั่งรออยู่นอกห้องอีกหลายสิบคนเลย
คุณหมอที่แอดมินเจอ ขอพักทานข้าวแค่ 15 นาที แล้วตรวจต่อเลยก็มี ยกเว้น ต้องขึ้นไปดูคนไข้ใน ถึงจะตรวจต่อตอนบ่ายโมง
เชื่อเถอะค่ะคุณหมอ คุณพยาบาล และเจ้าหน้าที่ พยายามบริการเราอย่างเต็มที่จริงๆ
อัตราส่วนพยาบาล 1 คน เจ้าหน้าที่ 1 หมอ 1 บริการคนไข้เกิน 50 คน ต่อวัน นี่หนักหนาไม่ใช่เล่นเลยนะคะ (อันนี้แค่แผนกอายุรกรรม) โดยเฉพาะคนไข้สูงอายุ ต้องใช้พลังมากในการสื่อสาร
❌️เครื่องมือแพทย์ไม่ทันสมัย
✅️เรื่องนี้ไม่จริงซะทีเดียว ด้วยงบประมาณที่มาถึง รพ.ขนาดเล็ก ถึง ปานกลาง อาจมีไม่เพียงพอ ทำให้การจัดหาเครื่องมือล่าช้า หรือมีจำนวนเครื่องมือไม่มากพอ และไม่ทันสมัยบ้าง แต่ รพ. เหล่านี้ จะมี รพ.พี่ใหญ่ ที่สามารถรับคนไข้อาการหนัก หรือคนไข้ที่ต้องการตรวจด้วยเครื่องมือทันสมัย คอยช่วยเหลือ รวมทั้งแพทย์เฉพาะทางด้วย
ขอบคุณภาพจาก Pixabay.com
แม่ของแอดมินเคยถูกส่งไปผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา ที่ รพ.อื่น จากหนังสือส่งตัวของที่นี่ ญาติของแอดมินอีกคนถูกส่งไปผ่าตัดหัวใจ ที่ รพ.รัฐในกรุงเทพ มีหมอเฉพาะทางมาช่วยกันรักษาถึง 5 คน เลยทีเดียวค่ะ
รพ.จะช่วยคนไข้จนสุดความสามารถ ไม่มีเงินก็ไม่ต้องกังวล เจ้าหน้าที่จะพยายามเช็คสิทธิ์ที่เราพึงมีจนถึงที่สุดจริงๆ ค่ะ ยกเว้นเราต้องการความสะดวกสบายเป็นพิเศษยอมเสียเงินเพิ่มเกี่ยวกับห้องพักพิเศษเอง ก็แล้วแต่เรา ส่วนการรักษาอาการป่วยไม่ได้ต่างกันค่ะ
1
จากงบประมาณที่ไม่เพียงพอนี้ แอดมินอย่างเชิญชวนให้เพื่อนๆ ที่ไปใช้บริการ รพ.รัฐ ช่วยกันบริจาคเงินให้กับโรงพยาบาลรัฐ คนละเล็กละน้อยนะคะ ในกรณีที่เราไม่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาล แอดมินว่าได้บุญเยอะเลย หรือทำบุญในวันสำคัญๆ ของเรา ก็ได้ค่ะ กรณีที่เราสุขภาพแข็งแรง ไม่เคยเจ็บป่วย เหมือนช่วยคนพร้อมๆ กันหลายๆ คน เลยค่ะ รับรองว่าดีต่อใจ ❤️
ขอบคุณภาพจาก Pixabay.com
แต่จะให้ดีที่สุดในสามโลก คือ การที่เราดูแลสุขภาพของตนเอง และคนในครอบครัว ให้แข็งแรง เพื่อลดภาระให้กับคุณหมอ คุณพยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ให้มากที่สุดค่ะ😘
1
2
ทั้งหมดนี้คือความเข้าใจส่วนตัวของแอดมิน จากการใช้บริการ รพ.รัฐ มายาวนาน
...แค่เข้าใจ...เท่านั้นเอง
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หากมีข้อคิดเห็นอย่างไรมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันได้นะคะ
ขอบคุณที่ติดตามกัน
สวนบ้านส้ม❤️🌱🐈⬛
21 เม.ย. 2565
6 บันทึก
39
54
23
6
39
54
23
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย