22 เม.ย. 2022 เวลา 03:42 • หุ้น & เศรษฐกิจ
Earning yield gap และ Inverted yield curve
หลายคนคงสับสนกับศัพท์ทางการเงินทั้งสองคำนี้ ถ้าลองอ่านกันผ่าน ๆ ก็อาจจะเข้าใจสลับกันได้เพราะมาจากคำว่า Yield หรือผลตอบแทนเหมือนกัน และมาจากการเปรียบเทียบของค่า 2 ค่าเช่นเดียวกันดังนี้
1) Earning yield gap (EYG) มาจากการนำส่วนกลับของ P/E ของตลาดหุ้นที่เราสนใจ ลบด้วยผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ผลที่ได้คือ ยิ่งค่าส่วนต่างยิ่งกว้างขึ้นหรือผลลัพธ์มีค่ามาก ตลาดหุ้นจะน่าลงทุนมากกว่าตลาดพันธบัตร
ตัวอย่างการเปรียบเทียบ Earning yield gap กับดัชนี SET ที่มา: https://www.set.or.th/
2) Inverted yield curve มาจากการเปรียบเทียบระหว่างผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นและผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว ซึ่งนักลงทุนมักจะเปรียบเทียบพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐอเมริกาอายุ 2 ปีและอายุ 10 ปี พันธบัตรที่อายุมากกว่าจะให้ผลตอบแทนที่มากกว่า แต่เมื่อไหร่ที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุน้อยกว่าให้ผลตอบแทนมากกว่าพันธบัตรที่อายุมากกว่าแสดงว่านักลงทุนแห่ไปซื้อพันธบัตรที่มีอายุมากกว่ากันมากขึ้น ส่งผลให้ราคาของพันธบัตรที่มีอายุมากสูงขึ้น ในขณะที่ดอกเบี้ยคงที่ผลตอบแทนจึงลดลง ผลคืออาจเป็นสัญญาณการเกิดเศรษฐกิจถดถอยได้ในอนาคตอันใกล้
แกนนอนแสดงอายุของพันธบัตรส่วนแกนตั้งแสดงผลตอบแทนของพันธบัตร ในภาวะปกติ (Normal) ผลตอบแทนพันธบัตรอายุสั้นจะน้อยกว่าอายุยาว ถ้ากลับกัน (Inverted) จะแสดงผลตรงกันข้าม ส่วนเส้นตรง (Flat) จะแสดงผลตอบแทนที่เท่ากันของพันธบัตรทุกช่วงอายุ ที่มา: https://medium.com/
โฆษณา