22 เม.ย. 2022 เวลา 07:52 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ต้นแบบเครื่องบินพลังงานไฮโดรเจน “ลดภาวะโลกร้อน”
ในวันที่การเดินทาง และขนส่งด้วยเครื่องบินมีความจำเป็น แต่ราคาพลังงานเชื้อเพลิงอย่างน้ำมันมีราคาที่สูงขึ้น และพลังงานเชื้อเพลิงน้ำมันจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซที่ก่อให้เกิดภาวะเรือนกระจก และทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ดังนั้นจึงต้องมีการหาพลังงานเชื้อเพลิงทดแทนเพื่อใช้ในการเดินทาง และขนส่ง ซึ่งพลังงานเชื้อเพลงทดแทนที่เราได้ยินส่วนใหญ่ก็คือพลังงานไฟฟ้า แต่ในวันนี้ผมจะขอนำเสนอพลังงานเชื้อเพลิงไฮโดรเจน
เชื้อเพลิงไฮโดเจน ถูกนำไปใช้จุดระเบิดในเครื่องสันดาปภายใน เพื่อให้พลังงานแก่เครื่องยนต์ของเครื่องบิน และมันยังถูกนำไปใช้ในการขับเคลื่อนยานอวกาศ รถไฟฟ้าและมีศักยภาพในเชิงพาณิชย์ในเรื่องการขนส่งภาคพื้นดินและทางอากาศ
เชื้อเพลิงไฮโดรเจนไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขณะที่เผาไหม้ ซึ่งเป็นก๊าซที่ก่อให้เกิดภาวะเรือนกระจก และทำให้เกิดภาวะโลกร้อน แต่เชื้อเพลิงไฮโดรเจนในขณะที่เผาไหม้กับก๊าซออกซิเจนจะปล่อยเพียง H2 หรือน้ำออกมาเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และไม่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ดังนั้นเชื้อเพลิงไฮโดรเจนจริงมีความสำคัญอย่างมากในอนาคต
Airbus บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของโลก ได้มีการพัฒนาเครื่องบินที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงไฮโดรเจนในการขับเคลื่อน แทนการใช้น้ำมัน โดยการใช้น้ำมันจะปล่อยก๊าซคาบอนไดออกไซด์ออกมา ซึ่งทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ซึ่งทาง Airbus ได้ใช้คอนเซ็ปในการออกแบบคือ ต้องการลดภาวะโลกร้อน และต้องการเครื่องบินที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา โดยที่เครื่องบินที่ใช้พลังงานไฮโดรเจนเมื่อเกิดการเผาไหม้กับก๊าซออกซิเจนจะปล่อยเพียง H2 หรือน้ำออกมาเท่านั้น ซึ่งไม่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน และเครื่องบินยังอยู่ในช่วงการพัฒนาเครื่องต้นแบบ ซึ่งทาง Airbus เรียกเครื่องบินรุ่นนี้ว่า ZEROe และมีเครื่องบินทั้งหมด 3 คอนเซปต์
โดยในคอนเซปต์ที่ 1 จะเป็นเครื่องบินที่มีเครื่องยนต์แบบ ZEROe Turbofan หน้าตาเครื่องบินก็จะเล็กกว่า Airbus A320 Neo บรรทุกผู้โดยสารได้ราว 120-200 คน ซึ่งบินได้ระยะทางราว 3,700 กิโลเมตร บินได้ด้วยความเร็ว 800 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งระยะทางที่ทำได้นี้ก็ยังไม่เพียงพอต่อ การบินระยะทางไกลหรือข้ามทวีป
คอนเซปต์ที่ 2 จะเป็นเครื่องบินแบบ ZEROe Turboprop บรรทุกผู้ได้สารได้น้อยกว่า 100 คน ซึ่งบินได้ด้วยความเร็ว 600 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเร็วกว่าเครื่องยนต์ Turboprop ปกติถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
คอนเซปต์ที่ 3 นั้นเป็นคอนเซปต์ที่ค่อนข้างแหวกแนว เป็นการออกแบบโดย มีลักษณะคล้ายปีกบินหรือเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธวิธี B2 Blended-Wing Body ซึ่งมีรูปร่างเหมือนตัว V มีที่นั่งจำนวน 200 ที่นั่ง มีการออกแบบถังเชื้อเพลิงไฮโดรเจนแรงดันสูงอยู่ท้ายเครื่อง พร้อมกับรูปแบบห้องโดยสารที่แปลกตา
ซึ่งเครื่องบินต้นแบบ ZEROe นี้ Airbus คาดการณ์ว่า จะสามารถเริ่มให้บริการในเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2035 หรือในอีก 15 ปีนับจากนี้
 
สุดท้ายฝากกดติดตาม และแสดงความเห็นติชมบทความ เพื่อเป็นกำลังใจ ขอบคุณครับ
โฆษณา