เพิ่งเริ่มลงทุนตอนอายุ 30 วางแผนอย่างไรดี? ถึงมีเงินล้าน!
ถ้าพูดถึงเรื่องช่วงเวลาในการลงทุนที่ดีที่สุด คำตอบจากนักลงทุนหลายๆ คนก็คงบอกว่า ‘ควรลงทุนตั้งแต่อายุยังน้อย’ เพราะได้เปรียบเรื่องของเวลา และจะทำให้เราได้ประโยชน์จากพลังดอกเบี้ยทบต้นด้วย แต่สำหรับคนอายุ 30 ปีขึ้นไป ถึงแม้เราจะเริ่มต้นช้าหน่อย ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะมีเงินล้านไม่ได้นะครับ
⭐ aomMONEY เลยชวนเพื่อนๆ มาดูกันว่า คนวัย 30 ปีขึ้นไปนั้น ควรจะลงทุนยังไงดี? ⭐
[1. วัย 30 ปี หลายคนมีภาระ “ลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง ปลอดภัยกว่า”]
นี่คือข้อแรกที่คนวัย 30 ควรตระหนักครับ เพราะวัยนี้เป็นวัยที่มีภาระค่าใช้จ่ายอยู่พอตัว ไม่ว่าจะเป็นค่าผ่อนบ้าน ผ่อนคอนโด ผ่อนรถ และถ้าใครมีครอบครัว หรือมีลูกที่ต้องดูแล การลงทุนจะตะลุยความเสี่ยงเหมือนเด็กจบใหม่ไม่ได้แล้วครับ
ดังนั้น ผมขอแนะนำว่า ควรวางแผนกระจายเงินลงทุนหลายสินทรัพย์ เพื่อกระจายความเสี่ยงและโอกาสในการรับผลตอบแทน โดยเลือกระดับความเสี่ยงแบบกลางๆ ไปจนถึงความเสี่ยงต่ำ
ลองคิดภาพตามง่ายๆ นะครับ
สมมติเพื่อนๆ อายุ 30 ปี และนำเงินทั้งหมดไปลงทุนในหุ้น พอวันที่อายุ 50 ปี และจำเป็นต้องใช้เงินก้อนนี้ แต่ปีนั้นเกิดวิกฤตเศรษฐกิจเงินหายไปครึ่งนึง ทุกคนจะทำยังไงกันครับ?
[2. ลองจัดพอร์ตการลงทุนตามช่วง “อายุ” แบบที่ตลาดหลักทรัพย์แนะนำ]
ถ้าเป็นคนโสดที่เพิ่งเข้าวัย 30 ต้นๆ มีเงินลงทุนที่ถือไว้ยาวได้มากกว่า 5 ปี การลงทุนด้วยความเสี่ยงสูงก็อาจจะเพิ่มโอกาสในการได้ผลตอบแทนมากขึ้น
สัดส่วนการลงทุนก็อาจจะเป็น
- เน้นหุ้นและกองทุนรวมหุ้นสัก 70%
- กองทุนตราสารหนี้ 20%
- กองทุนรวมตลาดเงิน 10%
แต่ถ้าเป็นคนวัย 35+ แถมมีครอบครัวที่ต้องดูแล ก็อาจจะต้องลดสัดส่วนพวกหุ้นและกองทุนหุ้นเป็นตามนี้
- กองทุนรวมหุ้นและหุ้น 50%
- กองทุนรวมตราสารหนี้ 30%
- และกองทุนรวมตราสารเงิน 20%
* ข้อมูลการจัดพอร์ตตามช่วงวัย จาก ตลาดหลักทรัพย์ : https://bit.ly/3D3eAib
[3. ควรเริ่มต้นลงทุนเดือนละเท่าไหร่ เพื่อไปให้ถึงเงิน 1 ล้าน?]
ผมขอแนะนำสัดสัดส่วนการลงทุนที่ 10% - 20% จากรายได้ต่อเดือน ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น ผมมีเงินเดือน เดือนละ 30,000 บาท เริ่มลงทุนตอนอายุ 30 ปี เดือนละ 20% ของรายได้ คิดเป็นเดือนละ 6,000 บาท โดยพอร์ตการลงทุนมีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 5%
ถ้าคำนวณด้วยอัตราดอกเบี้ยทบต้น เมื่อเวลาผ่านไป 11 ปี ผมจะมีเงินถึง 1,053,034 บาท
เห็นมั้ยครับ! แม้เพิ่งเริ่มต้นลงทุน เราก็จับเงินล้านได้เหมือนกัน
* เครื่องคิดเลขอัตราดอกเบี้ยทบต้น จาก ลงทุนศาสตร์ : https://bit.ly/3iiUwzK
📌 ทั้งนี้ การเลือกสินทรัพย์ในการลงทุนก็มีผลกับอัตราผลตอบแทนและความเสี่ยงจากการขาดทุนนะครับ ผลตอบแทนสูงก็เสี่ยงขาดทุนมาก ผลตอบแทนน้อยลงก็เสี่ยงขาดทุนน้อยลง รวมไปถึงสินทรัพย์แต่ละประเภทก็ขึ้นลงตามภาวะเศรษฐกิจไม่เหมือนกันด้วย
ที่สำคัญ คือ “อย่าใส่ไข่ไว้ในตะกร้าใบเดียว” เวลาตะกร้าหล่น ไข่มันก็แตกทุกฟองนะครับ การลงทุนก็เช่นกัน อย่าเอาเงินของเราไปฝากไว้กับสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง กระจายไว้ปลอดภัยกว่าเยอะ
อย่างไรก็ตามบทความนี้ไม่ได้ต้องการชี้นำด้านการลงทุน aomMONEY เพียงแค่ต้องการแนะนำไอเดียวิธีคิด สำหรับคนเพิ่งเริ่มต้นลงทุนตอนวัย 30++ เท่านั้น
หวังว่าจะมีประโยชน์นะครับ
#aomMONEY
- อัตราผลตอบแทนด้านบนเป็นเพียงการสมมติตัวเลขเพื่อใช้คำนวณและไม่ได้คำนวณอัตราเงินเฟ้อ
- การลงทุนจริงมีความเสี่ยงจากการขาดทุน มีโอกาสที่จะได้อัตราผลตอบแทนน้อยหรือต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ จึงควรศึกษาเรื่องลงทุนให้กระจ่าง ก่อนตัดสินใจลงทุน
◤ = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
aomMONEY ก้าวแรกสู่ความสำเร็จทาง "การเงิน"
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = ◢
👍 ชอบกด Like โดนใจ กด Share
และอย่าลืม ✅ See First
เพื่อที่จะได้ไม่พลาดข่าวสารใหม่ ๆ ก่อนใคร
ติดตามความรู้ทางการเงินในช่องทางอื่นๆ ได้ที่
📌 กลุ่มกองทุนไหนดี https://bit.ly/3aOjgMl
- 189
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
