25 เม.ย. 2022 เวลา 12:00 • ปรัชญา
#Anna Wintour
เพราะความั่นใจคือส่วนที่สำคัญที่สุดในชีวิต
เพราะฉันสวยและรวย
Anna Wintour เธอเกิดปี 1949 ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งครอบครัวของเธอนั้นร่ำรวยมาก ทำให้ชีวิตของเธอมีทางเลือกที่จะเดินตามแบบของตัวเองได้หลากหลาย ด้วยเหตุนี้เธอจึงลาออกจากโรงเรียนแล้วเลือกเดินตามทางที่เธอชื่นชอบคือ การก้าวเข้าสู่วงการแฟชั่น
หลังจากนั้น เธอก็ปรากฎตัวในฐานะบรรณาธิการนิตยสาร ซึ่งเธอได้รับแรงบันดาลใจจากบิดาผู้ล่วงลับของเธอ ผู้เป็นทหารผ่านศึกในสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้ซึ่งได้รับชื่อเสียงด้านความแข็งแกร่ง เข้มงวด และมีความสามารถในฐานะบรรณาธิการของ London Evening Standard
Wintour เริ่มต้นจากแผนกแฟชั่นของ Harper's & Queen ในลอนดอน และด้วยความสามารถด้านแฟชั่น ทำให้เธอก้าวหน้าขึ้นมาเป็นกองบรรณาธิการ และในปี 1976 เธอก็ได้พลิกผันธุรกิจให้เติบโตไปยังนิวยอร์กและลอนดอนได้
ความสามารถที่เปี่ยมล้น
จากนั้น เธอในวัย 20 ปี ก็ย้ายไปอยู่ที่นิวยอร์ก เพื่อรับตำแหน่งบรรณาธิการแฟชั่นที่ Harper's Bazaar จนกระทั่ง Wintour ออกจาก Harper
เพื่อเข้าทำงานที่ Viva ซึ่งเป็นสิ่งพิมพ์ที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องของ Penthouse. ที่นั่น Wintour กลายเป็นผู้ดูแลแผนกแฟชั่นของนิตยสารและผู้จัดการแฟชั่นระดับไฮเอนด์
Wintour ใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตไปกับช่างภาพ, การถ่ายภาพ, การจัดเตรียมการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ เช่น แคริบเบียน และญี่ปุ่น
การเดินทาง
หลังจากนั้น Wintour ก็แต่งงานกับ นักจิตแพทย์ชาวแอฟริกาใต้ เดวิด แชฟเฟอร์ และกลับมาลอนดอนในฐานะหัวหน้าบรรณาธิการนิตยสาร Vogue อังกฤษ ซึ่งในตอนนี้มีผู้บริหารเป็น Condé Nast
Wintour เคยให้สัมภาษณ์ว่า “ Vogue สามารถสนับสนุนให้เธอประสบความสำเร็จมากขึ้นได้ ขอเพียงซื่อสัตย์ต่อความคิดเห็นของตัวเอง เพราะการคิดที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมในการทำงานเสมอ”
แม้ที่ผ่านมาชีวิตของ Wintour จะราบรื่นและไม่ค่อยได้พบอุปสรรคมากนัก เนื่องจากเธอมีความเด็ดเดียว และมั่นใจในตัวเองสูงมาก
Wintour in Germany, 2006
ทว่าในปี 1987 Wintour ก็ได้เปลี่ยนชื่อนิตรสารในเครื่ออย่าง Condé Nast บ้านและสวน เป็น HG ทั้งยังปฏิเสธรูปภาพและบทความที่จ่ายเงินไปแล้วเกือบ 2 ล้านเหรียญ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอถูกวิพากย์วิจารย์ทั้งในด้านดีและไม่ดีมากมาย
จนนำมาซึ่งฉายา "Nuclear Wintour" และ "Wintour of Our Discontent" แม้การเคลื่อนไหวของ HG จะทำให้แฟชั่นที่เธอหยิบยกมาดูมีเอกลักษณ์มากขึ้น และเป็นนิตยสารระดับแนวหน้าของโลกแฟชั่นตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1960 ได้
แต่ Vogue ก็ต้องพบว่าตัวเองกำลังเจอศึกหนัก เมื่อ Elle ธุรกิจใหม่อายุ 3 ขวบมียอดจำหน่ายมากถึง 850,000 ฉบับ และ มีฐานสมาชิกอยู่ที่ 1.2 ล้านคน นำหน้า Vogue ไปเล็กน้อย
แฟชั่นคือความมั่นใจ และสายตาที่เฉียบคม
ในช่วงนั้น Wintour ที่ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าบรรณาธิการของนิตยสาร Vogue จึงเริ่มทำการปฏิวัติธุรกิจโดย ลดการโปรโมรนางแบบชั้นนำลงและเลือกนำสินค้าแฟชั่นธรรมดากับไฮเอน ที่คนดังส่วนใหญ่เลือกใช้มาโปรโมร อีกทั้งเธอยัง
สนับสนุนนักออกแบบรุ่นใหม่ จนนำมาซึ่งคนดังหน้าใหม่สองคน คือ Marc Jacobs และ Alexander McQueen อีกทั้ง เธอยังกลายเป็นเจ้าแม่ในโลกแฟชั่นนับแต่นั้น
ในปี 2006 เธอเริ่มทำข้อตกลงกับดีไซเนอร์ Thom Browne และ Brooks Brothers ซึ่งส่งผลให้ผลงานของ Brown ปรากฏในร้านค้าปลีกมากกว่า 90 แห่ง
เด็ดขาด
ปัจจุบัน Anna Wintour เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะหัวหน้าบรรณาธิการผู้มีอิทธิพลของนิตยสาร 'Vogue' และด้วยทรงผมเพจบอยอันโด่งดังและแว่นกันแดดขนาดใหญ่ที่เธอมักจะสวมใส่ทำให้ เธอกลายเป็นที่จับตาของคนดังนับล้านเสมอมา
ซึ่งเธอเคยให้สัมภาษณ์ว่า "ฉันอยากให้ Vogue เป็นนิตยสารที่ ร่าเริง เต็มไปด้วยเนื้อหาที่เฉียบคม และคนที่เซ็กซี่ ฉันไม่เคยสนใจคนรวย หรือการให้เวลาตัวเองพักผ่อนอย่างไม่มีขอบเขต
เพราะสิ่งที่ฉันต้องการคือ การทำให้ผู้อ่านของเรา กลายเป็นผู้หญิงที่มีพลัง มีความมั่นใจ และมีความสนใจที่หลากหลายมากขึ้น"
ดังที่ Anna Wintour กล่าวไว้ว่า “หากคุณไม่รู้ว่า ตัวคุณไม่สามารถเก่งกาจเหนือคู่แข่งได้ แต่หนึ่งที่คุณไม่ควรแพ้ คือเรื่องการแต่งตัว”
ติดตามเรื่องเล่าจากดาวนี้เพิ่มเติมได้ที่
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดีๆได้ใน Comments นี้เลย
#เรื่องเล่าจากดาวนี้
โฆษณา