24 เม.ย. 2022 เวลา 00:19 • ข่าวรอบโลก
คนหนุ่มสาวในฝรั่งเศสส่วนใหญ่ ตั้งใจที่จะงดออกเสียงในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้
3
เพราะพวกเขามองว่า นักการเมืองทำงานเพื่อคนรวยเท่านั้น
4
จากการสำรวจหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกของ Ipsos พบว่าคนหนุ่มสาวอายุ 18-24 ปี เลือกที่จะงดออกเสียง 42% และหนุ่มสาวอายุ 25-34 ปี เลือกที่จะงดออกเสียง 46%
เมื่อถามต่อไปว่า แล้วการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบสุดท้ายที่กำลังจะมีขึ้น พวกคุณจะลงคะแนนให้ใคร ?
1
คำตอบส่วนใหญ่คือ พวกเขาจะกาช่องงดออกเสียงเหมือนเดิม หรือไม่ก็ไม่ไปเลือกตั้งเลย...
อะไรคือสิ่งที่ทำให้คนหนุ่มสาวฝรั่งเศสจำนวนมากคิดแบบนี้?
แกสปาร์ด เฮอร์สมัน นักปีนเขาที่ทำงานในรีสอร์ทแถบเทือกเขาแอลป์บอกว่า..เขาจะไม่ไปเลือกตัังเพราะตัวเลือกที่มีไม่ใช่คนที่เขาต้องการ ระบบถูกออกแบบมาแบบนั้น เขาจึงเลือกที่จะไม่เลือกใคร
2
แม้ว่าภายหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งรอบแรกจนทราบว่า คู่ชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีรอบสุดท้ายคือนายเอมมานูเอล มาครงกับนางมารีน เลอ แปง บรรดาผู้สมัครที่ตกรอบแรกส่วนใหญ่ต่างรณรงค์ให้ผู้คนเลือกมาครง เพราะกลัวแนวคิดขวาจัดสุดโต่งของเลอ แปงจะได้รับชัยชนะ
แต่เสียงเหล่านี้ก็เปลี่ยนแปลงความคิดของคนหนุ่มสาวฝรั่งเศสไม่ได้
สิ่งที่เป็นเสียงสะท้อนความรู้สึกเบื่อหน่ายนักการเมืองและการเลือกตั้งของคนฝรั่งเศสได้อย่างหนึ่งก็คือ จำนวนคนที่มาเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกน้อยลงมาก เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งเมื่อปี 2560
คนที่ลงทะเบียนไว้ 1 ใน 4 ไม่มาเลือกตั้งในวันจริง และจำนวนผู้ลงคะแนนงดออกเสียงก็มีจำนวนสูงขึ้น
แน่นอน เราปฏิเสธไม่ได้ว่าการระบาดของโควิด-19 กับสถานการณ์สงครามในยูเครนมีส่วนในเรื่องนี้
แต่ประเด็นหลักมันน่าจะอยู่ที่ผู้คนรู้สึกว่าพวกเขาเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้มากกว่า
8
เฮอร์สมัน คนเดิม บอกต่อว่า
"นักการเมืองไม่เข้าใจคนใช้แรงงานอย่างพวกเราหรอก พวกเขาไม่เคยเป็นอย่างเรา พวกเขาเหมือน ๆ กันหมด น้อยคนนักที่จะทำตามสัญญาตอนหาเสียง"
1
แม็กซิม บริการ์ ช่างไม้อายุ 21 ปี กล่าวว่า..
"พวกนักการเมือง ไม่เคยทำอะไรเพื่อพวกเรา เขาทำงานให้คนรวยเท่านั้น พวกเขาไม่ได้ส่งเสริมคนที่ถูกเรียกว่าอนาคตของชาติจริง ๆ"
2
ส่วนเอเดรียน ฮัมเบิร์ต นักการตลาดที่ทำงานในลียง บอกว่า..
"เขาจะไม่เลือกใคร เพราะเขาไม่เคยเชื่อคำพูดนักการเมืองว่าเป็นความจริง ทุกอย่างก็เพื่อการเมือง"
1
"จริง ๆ ผมสนับสนุนเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่พรรคกรีนไม่ได้ไปต่อ ผมจึงไม่มีคนให้เลือก"
ในจำนวนประเทศที่มีระบอบการปกครองแบบประธานาธิบดีในยุโรป ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ประธานาธิบดีถือว่ามีอำนาจมากที่สุด
ด้วยวิวัฒนาการประชาธิปไตยแบบฝรั่งเศสที่มีมาอย่างยาวนาน ผ่านการทดลองปรับปรุง เปลี่ยนแปลงและเกิดการผสานอำนาจแทบทุกอย่างไปสู่ประธานาธิบดีตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีชาร์ล เดอ โกลด์ เป็นต้นมา
1
การที่ฝรั่งเศสใช้วิธีการเลือกตั้งประธานาธิบดีโดยตรงจากประชาชน ทำให้ความชอบธรรมในอำนาจของประธานาธืบดี ดูจะเหนือกว่าระบบการเลือกผ่านตัวแทนอย่าง ส.ส. อย่างมาก
1
เพราะเหตุนี้เอง เมื่อครั้งที่เอมมานูเอล มาครงได้รับเลือกตั้งครั้งล่าสุด เขาจึงกล่าวว่า..
"คนเป็นประธานาธิบดีฝรั่งเศส เปรียบเสมือนคนที่เป็น Jupiter (จูปิเตอร์)"
Jupiter ราชาแห่งเทพปกรณัมกรีก
1
ติดตามอ่านบทความได้ที่
โฆษณา