24 เม.ย. 2022 เวลา 01:26 • คริปโทเคอร์เรนซี
Dogecoin standard ตอนที่ 106 universal basic income กับราคาของ Dogecoin
ภาพจาก pixabay
อัลกอริทึมของ Dogecoin ได้อนุญาตให้มีการสร้างเหรียญไปแบบ unlimited supply แต่อัตราการผลิตคงที่ วันละ 14 ล้านเหรียญ คิดเป็นสัปดาห์ละ 100 ล้านเหรียญ รวมเป็นปีละ 5,200 ล้านเหรียญ
4
ผลิตกันเยอะขนาดนี้ คนส่วนมาก 99% จึงคิดว่าเหรียญนี้น่าจะไม่มีราคาค่างวดอะไร เพราะคนส่วนมากจะคิดว่าของที่มีราคาต้องมีจำนวนจำกัด จึงชอบบิทคอยน์กันมากกว่า
3
คนส่วนมากลืมคิดไปว่าเงินก็มีการตายได้ คือ dead money 4% หายจากไประบบ ไม่หมุน เป็นที่มาของที่จะต้องพิมพ์เงินเพิ่มเพื่อคงปริมาณ money supply ให้คงที่ตลอดไป
2
ไม่เช่นนั้นสัก 20-25 ปี เงินสกุลนั้นก็จะกลายเป็น dead currency ในที่สุด
1
สำหรับผู้เขียนมองว่า เนื่องจากระบบการเงินที่อาศัยอำนาจรัฐในการพิมพ์เงิน POA ได้มาถึงทางตัน เนื่องจากปัญหาหนี้สิน คือรัฐไม่สามารถก่อหนี้เพิ่มได้แล้ว ดังนั้นจึงต้องเปลี่ยนระบบการเพิ่มปริมาณเงินในระบบใหม่
1
ระบบล่าสุด คือ POW จึงต้องเกิดขึ้น คือการสร้างเหรียญโดยอาศัยคอมพิวเตอร์และกำลังไฟฟ้า
1
เหรียญที่ได้มาจากการขุด ก็เอามาใช้หมุนเวียนกัน เสร็จแล้วก็เก็บไว้ในมือคนรวย ที่ไม่ได้ใช้เงินต่อไป ไปสิ้นสุดการเดินทางตรงนั้น
1
ดังนั้นเหรียญที่ผลิตเพิ่มปีละ 5,200 ล้านเหรียญ ถ้าหารด้วยจำนวนประชากรโลกทั้งหมด 8,000 ล้านคน นั่นก็คือ 5,200/8,000= 0.65 เหรียญต่อปีต่อคน จะเห็นว่าไม่มากอะไรเลย
1
จาก GDP ปัจจุบัน 100T ทอง 2,000 USD น้ำมัน 100 USD ค่าครองชีพในปัจจุบันเป็นพื้นฐาน
1
สมมุติฐานราคา Dogecoin คิดเป็นเบี้ยยังชีพสำหรับประชากรโลก
จะเห็นได้ว่าราคาที่เหมาะสมคือ 10,000 USD ประชากรโลกก็จะมีเบี้ยยังชีพประมาณ 18,000 บาท ก็น่าจะพอเลี้ยงชีพได้ ไม่อดตาย ถ้ามีเงินจำนวนนี้
1
ถ้า 1,000 USD น่าจะน้อยเกินไป ส่วน 100,000 USD ก็ดูมากเกินไป
2
เงินก็ไม่เฟ้อด้วยเพราะ money supply คงที่
1
ส่วนเงินจะไปถึงมือประชาชนได้ก็ผ่านระบบ Dogecoin economy ตามภาพ จากการคาดเดาของผู้เขียน
1
Dogecoin economy การกระจายเงินในระบบการเงินใหม่ POW
ที่มาหนึ่งของทฤษฎีราคาของ Dogecoin ก็คือเรื่องของ UBI นี่เอง
1
แต่บทความนี้ก็ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน แค่การคาดเดาเท่านั้น ถ้าจะลงทุนก็ควรกระจายความเสี่ยงให้ดี ๆ
อนาคตจากการมาของ AI และหุ่นยนต์ น่าจะทำให้ผู้คนตกงานอีกมาก และ UBI น่าจะเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก
2
ล่าสุด Tesla ก็จะทำ taxi แบบไร้คนขับ อนาคตคนขับแท็กซี่ทั่วโลก ก็น่าจะตกงานอีกหลายล้านคน รวมถึงรถบรรทุกแบบไร้คนขับ คนขับรถบรรทุกก็คงตกงานอีกมาก เป็นต้น
2
disruption technology เริ่มต้นแล้วและจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าใครปรับตัวไม่ทันก็น่าจะตกยุคไปเลย
ถ้าชอบบทความนี้อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความดี ๆ ต่อไป

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา