25 เม.ย. 2022 เวลา 03:47 • คริปโทเคอร์เรนซี
รวมบทเรียนอันล้ำค่า จากลูกเพจของเทพคอยน์ อ่านเถอะ ถ้าไม่อยากหมดตัว
เนื้อหาต่อจากนี้ เป็นการ ประกาศผล การแบ่งปันประสบการณ์เจ็บๆ ชิงหนังสือ Big Debt Crises จากสำนักพิมพ์ investing.in.th แต่เนื่องจากผมเห็นว่า ได้ความรู้ดี ก็เลยเอามาแปะรวมไว้ครับ
 
ความเห็นของผม : จากที่ได้อ่าน ทุกคอมเม้น ผมอยากจะแจกหนังสือให้กับทุกคนด้วยซ้ำ เพราะทุกคน ต่างเขียนกันมาได้อย่างตั้งใจ ถึงแม้มันคือประสบการณ์อันเจ็บปวด อันเลวร้าย แต่ เราก็ยังกล้าถ่ายทอดมันออกมาให้คนอื่นๆ ได้รับรู้ ว่า... ตลาดเนี้ย มันไม่ได้ง่าย เหมือนที่หลายๆ คนคิดกันนะ
 
แต่ ผมก็มีหนังสือแค่สองเล่มที่จะแจก ก็เลยต้องขอหยิบออกมาเพียงสองคอมเม้นเท่านั้นครับ ส่วนท่านอื่นๆ ก็อย่าเสียใจนะครับ ผมขออนุญาติ เอามาทำโพสลงในนี้ โดยไม่แปะชื่อล่ะกัน อย่างน้อยๆ จะได้เป็นวิทยาทานลงในเน็ต ให้คนรุ่นใหม่ ที่คิดจะเข้าตลาด ได้มาอ่าน และ จะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาเสียเงิน ทำผิดพลาดเหมือนเราอีก
 
ขอบคุณมากครับ -- แอดเทพคอยน์
ผู้ชนะอันดับหนึ่ง : Kuarkpon Prateepprephon
เหตุผล
- ขยันพิมพ์มาก + แบ่งย่อหน้าชัด อ่านง่าย
- เล่าประสบการณ์ชีวิต และ ข้อคิดในแต่ละช่วงออกมาได้อย่างเห็นภาพ ว่า แต่ละเหตุการณ์มีผลกระทบต่อชีวิตอย่างไรบ้าง
- กล้าที่จะระบายออกมา โดยละเอียด ถึงแม้มันจะเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวดก็ตาม แสดงว่า ก้าวข้ามผ่านมันไปได้หมดแล้ว
1
ประสบการณ์เจ็บปวดจากตลาดของผม ตัดจากบันทึกความชิบหายที่ไม่ค่อยอยากจะเปิดอ่านซักเท่าไหร่
พอย้อนกลับมาเปิดอ่าน นี่ก็คงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ผมไม่ทำงานโรงแรมต่อด้วยล่ะมั้ง
กันยา 62 -- จุดเริ่มต้น
เริ่มต้น : ด้วยความสนใจอยากลอง #ซื้อแล้วถือยาว บน Bitkub
สิ่งที่ได้ : กลายเป็น Active Trader แบบงงๆ เพราะคิดว่าเงินได้มาง่าย แถมตอนนั้นเทรดฟรีด้วย กดกันสนุกเลย กำไร 300 500 ก็เอาแล้ว
ข้อสังเกตุ : ในตอนนั้น เราไม่เข้าใจคอนเซปของการควบคุมความเสี่ยง เราคิดว่า...
การซื้อแล้วไม่ถือข้ามวัน = มโนว่าทำให้ไม่เสี่ยง
การนั่งดูตลอด = มโนว่าจะขายทัน
ขยันเทรด = ขยันทำงาน
ตุลา 62 -- รุ่งโรจน์
ช่วงนั้นเป็นช่วงเปลื่ยนผ่าน คือ เราเริ่มรู้จัก Binance แต่ยังไม่ได้ลองใช้งาน
สิ่งที่เกิดขึ้น 1 : เราซื้อๆขายๆไปเรื่อยๆ มีความสนุกกับการเทรดเป็นอย่างมาก
สิ่งที่เกิดขึ้น 2 : ได้แท่งพี่สีพาพอร์ตก้าวกระโดด คิดว่าตัวข้านี่แน่จริง ทำอะไรก็รวยไปหมด [Beginner Luck +100] วันต่อมาย้ายไป Binance เลย
สิ่งที่เกิดขึ้น 3 : เริ่มต้นด้วยการ Short ช่วงนั้นตลอดหลายวันนั่งดูเงินเติบโต ภูมิใจในตัวเองมากๆ มีที่ไหน เด็กปี 3 หาเงินได้วันละเป็นแสน ก็คงมีแต่ตรูนี่แหละ วะฮ่าๆๆๆ
ข้อสังเกตุ : การเทรดที่ดีควรน่าเบื่อ เราไม่ควรสนุกกับการเทรด เพราะมันกำลังบ่งบอกว่าเรากำลังหลั่งโดพามีน สรุปง่ายๆคือ เรากำลังเล่น "พนัน" อยู่นั่นเอง
นั่งดูตลอด : เพราะคิดว่าเวลาผิดทางเราจะได้ทำอะไรทัน
ความโชคดีของมือใหม่ : ความโชคดีแบบแปลกๆของมือใหม่ ประหนึ่งเจ้ารู้ว่าเรามือใหม่และโยนเงินให้เรารัวๆจนหน้ามืดตามัว
Overtrade : ตอนนั้นเทรดไม้นึง กดทีเป็นล้าน ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ อยากไปขมับตัวเองซักป้าป
3
พฤษจิ 62 -- จุดเริ่มต้นของความชิบหาย
สิ่งที่เกิดขึ้น 1 : วันที่ 22 ตลาดถล่มอย่างรุนแรงเป็นวันที่ 2 ติดๆกัน แต่เราไม่ได้ TP ก็เกิดความไม่พอใจตัวเองเล็กๆที่ไม่ TP ในจุดที่มีกำไรสูงสุด
สิ่งที่เกิดขึ้น 2 : วันที่ 24 ตลาดปิดแท่งแดงอีกครั้ง เราได้ปิดไม้ Short ลง ฟาดกำไรเป็นแสนๆบาทในไม้เดียว เรานี่ช่างอัจฉริยะ
สิ่งที่เกิดขึ้น 3 : วันที่ 25 มีการรูดลงต่ออีก แถมเป็นการทำจุดต่ำสุดใหม่ (ยังไม่ปิดแท่ง) ไอ้เราก็ดูกราฟ 1h จดๆจ้องๆอยู่ กด Short ไปด้วยความมั่นใจ .... เรียบร้อย ดอย Short
2
สิ่งที่เกิดขึ้น 4 : ทนดอย Short ถึงจุดหนึ่ง (ไม่กี่วัน) ก็ทนไม่ไหวเพราะมันติดลบเยอะมาก จำได้ว่าวันนั้นไปงานแต่งของพี่ชายที่โรงแรม Renaissance พูดคุยกับแม่ซะดิบดี ปากบอกว่าทุกอย่างโอเค ไม่ต้องห่วงอะไร แต่พอกลับหอ ก็ร้องไห้กับแฟน เพราะไม่เคยเสียเงินเยอะขนาดนี้มาก่อนในชีวิต
สิ่งที่เกิดขึ้น 5 : คัทออกไปเยอะมากๆ แต่ก็ยังมี Short อยู่มากกว่า 3x ของเงินทุน
ข้อสังเกตุ
การไม่มีระบบเทรด : ทำให้การออก Action ไร้ทิศทาง
อีโก้ : คิดว่าตัวเองเก่ง เจ๋ง แพ้ไม่เป็น
Overtrade : คิดจะได้ตังเยอะๆ พร้อมจะเสียตังเยอะๆมั้ย? ถามใจตัวเองดูก่อน Overtrade ไม่ต้อง Leverage หรอก แค่ซื้อแล้วนอนไม่หลับมันก็คือ Overtrade แล้ว
อย่าโกหกแม่ : แม่มีพลังวิเศษ รู้ว่าเราโกหกเสมอ แม่สัมผัสได้นะ ว่าเราไม่สบายใจแค่ไหน ว่าไปเราก็เหี้ยเหมือนกันนะเนื่ย
2
ธันวา 62 -- จุดเริ่มต้นของการล่มสลาย
สิ่งที่เกิดขึ้น 1 : ดอย Short แต่ราคาก็ขึ้นเอาๆ นั่งจ้องกราฟทำส้นตึกอะไรไม่รู้ แต่ก็จ้องนะ ช่วงเดือนนี้ไม่มีอะไรมาก ขึ้นๆลงๆ
ข้อสังเกตุ
เสียงานแล้วนะ : ทำงานที่ได้รับมอบหมายไม่ทัน จนต้องมีคนมาทำแทนให้ แถมงานที่ออกมา เราก็ไม่ได้มีความตั้งใจผสมอยู่เลย เป็นช่วงที่แย่ที่สุดในชีวิตมหาวิทยาลัยเลย
เสียเพื่อนดีๆไป : สืบเนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อนเข้าใจว่าเราเทงานทิ้ง เพื่อนเลยโกรธมาก เพราะมันเป็นงาน Final
ภาพลักษณ์แย่ลง : จากที่เคยทำอะไรเพอร์เฟคมาตลอด กลายเป็นว่าตัวเราทำงานไม่ทัน ออร่ารอบตัวเปลี่ยนไป พลังหายไป งานคุณภาพลดลง
ปัญหาสุขภาพ : การนั่งจ้องกราฟนานๆ ส่องกราฟจนดึก ตื่นมาก็ส่อง นอนวันละ 3 ชั่วโมง แต่ก็ได้แค่ส่องนะ ทำอะไรไม่ได้แล้ว เงินอยู่ใน Position หมดแล้ว มันนำมาซึ่งความปวดหัวเรื้อรัง สมองตื้อคิดอะไรไม่ออก จิตใจบอบช้ำ โทษตัวเอง
มกรา 63
สิ่งที่เกิดขึ้น 1 : คุณพ่อของแฟนเสียชีวิต ทั้งๆที่เรายังไม่ได้ใช้เวลาด้วยกันเท่าไหร่เลย เรากลับหมกมุ่นอยู่กับอะไรอยู่วะเนื่ย
สิ่งที่เกิดขึ้น 2 : เงินร่วมล้าน "เหลือแสนเดียว" แถม "คามือ" เลยด้วย ถ้านึกอารมณ์ไม่ออก ไปนั่งอ่านการ์ตูนอีหนู Forex อารมณ์เดียวกันเลย ทนไม่ไหว ต้องขายทิ้ง
สิ่งที่เกิดขึ้น 3 : ในวันเดียวกันนี้ ตอนกลางคืนเราต้องไปงานศพคุณพ่อของแฟน แต่ใจนี่เศร้า x2 รู้สึกแย่มากๆ
สิ่งที่เกิดขึ้น 4 : ในวันเดียวกันนี้ พอเสร็จจากงานศพ ... เรากลับบ้าน กลับมาขอโทษแม่ ร้องไห้อย่างหมา มันเป็นความรู้สึกยอมจำนนแบบที่ทำอะไรไม่ได้
ข้อสังเกตุ
ปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง : เราเสียโอกาสที่จะได้ใช้เวลาร่วมกับคุณพ่อของแฟนไปตลอดกาล ความสัมพันธ์กับคนรอบตัวก็แย่
ความผิดหวังที่รุนแรงมากๆครั้งแรกในชีวิต : ทำใจลำบากโคตร มวลความรู้สึกแย่ถาโถม
แม่ : แม่รู้นะ ต่อให้เราไม่บอกเค้าก็รู้ได้อยู่ดี อย่าโกหกแม่นะ แต่แม่ก็ให้กำลังใจอยู่ดี ครอบครัวนี่มันครอบครัวจริงๆ
อีโก้ : เป็นไงล่ะมึง โดน Froce Out สมน้ำหน้า จำไว้เป็นบทเรียนจนตาย
2022 : อยากอยู่กับครอบครัว เก็บเกี่ยวความรู้สึกแบบนี้ในตอนที่ยังมีโอกาส ถึงจะประสาทแดกไปบ้าง แต่ก็คุ้มล่ะนะ!
6
ผู้ชนะอันดับสอง : Chakrit Thapphan
เหตุผล
- แบ่งย่อหน้า แบ่งหัวข้อ อ่านง่าย
- เรื่องที่สรุปมา เป็นเรื่องที่สำคัญ ที่หลายๆ คนที่เพิ่งเข้ามาในตลาด จะต้องเจอ และก้าวข้ามผ่านไปให้ได้ ไม่เช่นนั้น ก็จะติดกับดักความผิดพลาดเดิมๆ ไม่หลุดออกไปได้
มี 2 เรื่องที่อยากแชร์ครับ เรื่องที่ผมเล่าอาจจะพอมีประโยชน์บ้าง ลองอ่านดูครับ
#เรื่องที่1
"กูรูมักจะมาตอนขาขึ้น กูรู้มักจะเกิดขึ้นตอนขาลง"
ผมเริ่มเข้ามาในตลาดต้นปี 2021 และแน่นอนว่าสิ่งแรกที่มือใหม่มองหาก็คือ "กูรูผู้ชี้นำ" ไม่ว่าจะเป็นคนที่คอยบอก signal ในกลุ่มต่าง ๆ หรือคนที่ตั้งตนว่าเป็นกูรูใน Youtube มาบอกให้เข้าเหรียญโน่นนี่นั่น ต้นน้ำบ้างเอย จะไป 100x 1000x บ้างเอย ซึ่งกูรูเหล่านี้มักจะมีผู้ติดตามและยอด view เยอะเพราะด้วย content ล่อเม่า ทำปกคลิปกระตุ้นความโลภของเรา (เหมือนยาพิษเคลือบน้ำตาล) ด้วยความที่ผมเป็นมือใหม่ ความรู้เป็น 0 จะรออะไรหล่ะครับ ซื้อตามสิครับ ซึ่งแรก ๆ เราก็ได้กำไรครับ และปักใจว่า "นี่แหล่ะ คนที่จะพาเราไปรวย" แต่พอหลัง ๆ ก็เริ่มขาดทุนยับ ๆ บอกให้ซื้ออะไรก็เละไปเรื่อย ๆ หนักสุดคือพอร์ทแทบแตก สุญเสียไปกว่า 80% หน้าชา กินไม่ได้ นอนไม่หลับ
4
จนผมทนไม่ไหวแล้วกับการเทรดตามคนอื่นแบบนี้ เพราะเริ่มรู้ตัวแล้วว่าเรามาผิดทาง จึงลองค้นคว้าหาความรู้อย่างจริงจังใน Youtube ใหม่อีกที จนไปเจอคลิป "วัฏจักรเม่า และวิธีเลิกเม่า" ของแอดแกน (แหม่ ไม่ได้จะอวยกันเองนะ แต่เล่าจากประสบการณ์ตรง) นั่งฟังไปเรื่อย ๆ ก็ตบเข่าดังฉาด!! เฮ๊ยย!!! สิ่งที่แอดเล่าแม่ง หมือนที่เราเจอเล๊ยยย แล้วผมก็ย้อนกลับไปดูกราฟจนพบว่า กูรูที่ว่าเจ๋ง ๆ ที่จริงก็คนธรรมดานี่แหล่ะ แต่ที่บอกถูกมาตลอดต้นปีเพราะต้นปี 2021 มันเป็น "ขาขึ้นยังไงหล่ะ" ตรงนี้เป็นจุด "กูรู้" หรือจุดเริ่มต้นของการหลุดออกจากวัฐจักรเม่าของผม
สรุปเรื่องที่ 1
สิ่งที่ทำ: เป็นมือใหม่แต่ไม่ศึกษาหาความรู้ ดันไปตามกูรูเก้แบบหลับหูหลับตา
สิ่งที่เกิดขึ้น: เจ้ง หน้าชา กินไม่ได้ นอนไม่หลับ
สิ่งที่ได้เรียนรู้: กูรูที่แท้จริงคือกูต้องรู้ว่ากูควรไปศึกษา ไม่ใช่มาตามกูรูที่กูก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ที่มี hidden agenda อะไรรึเปล่าก็ไม่รู้
#เรื่องที่2 "จังหวะ ยูเรก้า!! ของการเทรด"
ต่อจากเรื่องแรก ผมเริ่มไปศึกษาการเทรดอย่างจริงจัง เกี่ยวกับ จนเริ่มมีระบบและแผนที่สามารถใช้ในการเทรดได้ และคิดว่าตัวเองพร้อมแล้ว ไฟแรงสุด ๆ แต่นั่นแหล่ะครับ ความเป็นเม่ามันน่ากลัว ด้วยความโลภและอยากเอาคืนตลาดสุด ๆ ผมเลือกที่จะ "ไม่รอที่จะทำตามระบบ" ผมแหกกฎแล้วไปเทรดในช่วงขาลง ซึ่งเป็นช่วงที่ระบบบอกให้นั่งทับมือแต่ถึงกระนั้นผมก็ยังฝืนที่จะเทรด บอกตามตรง โคตรเหนื่อยและสุดท้ายก็ไม่ได้อะไรเลย จนบอกกับตัวเองให้ลองยึดมั่นในระบบ ทำตามวินัยอย่างเคร่งครัดซิ พยายามกล่อมสมองให้นึกถึงช่วงที่ผ่านมาว่ามันแย่แค่ไหน จนระบบบอกให้ซื้อค่อยซื้อ บอกให้ขายค่อยขาย
1
พอได้ลองทำตามระบบ ผมก็ได้กำไรมา นั่นแหล่ะครับ เป็นจังหวะ ยูเรก้า!! ของการเทรดของผม สิ่งที่ได้เรียนรู้เพิ่มมาช่วงนั้นคือ psychology เราต้องจัดการกับอารมณ์และความรู้สึกของตัวเองให้อยู่ในแผนให้ได้ แล้วสุดท้ายผลลัพธ์มันจะอย่างน่าพอใจเอง อีกอย่างคือ จงเคารพตลาดและเคารพความเสี่ยงอย่างสุดใจ เมื่อเรารู้จักถ่อมตัวเสียบ้าง ดวงตาที่เต็มไปด้วย EGO ก็จะค่อย ๆ จางลงไปเรื่อย ๆ แล้วตลาดจะให้ในสิ่งที่เราควรได้รับกลับมา
3
สรุปเรื่องที่ 2
สิ่งที่ทำ: ขาดวินัยและใจเต็มไปด้วย EGO
สิ่งที่เกิดขึ้น: ขี่ช้าจับตั๊กแตน แถมตั๊กแตนบินหนีด้วย
สิ่งที่ได้เรียนรู้: Being disciplined, staying humble, and decreasing your EGO will make you survive in the game.
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ ❤
1
คนอื่นๆ ที่แบ่งปันประสบการณ์ และผมเห็นว่าดีมากๆ เลยเอามาแปะไว้ด้วย
ล้างครั้งแรก forex ครับ โลภล้วนๆ ไม่มีระบบ อยากรวยเร็ว อัด lot หนัก
ก้อได้แต่คิดจะไม่ทำอีกแล้ว แล้วหลังจากนั้นก้อยังล้างจากความคิดเดิมๆอีกหลายรอบเลย มัวแต่ตามหาความแม่น mm คือไรไม่สนใจ จนหน้าตักแทบไม่เหลือ แต่ยังดียังใจสู้ จนหาระบบเทรดที่เหมาะกับตัวเอง เน้นรักษาเงินต้น ก้อเลยอยุ่รอดมาถึงทุกวันนี้ครับ
#ถูกแล้ว​#มีถูกกว่า​ แต่ก่อนไม่เคยพลาดเลยในการชื้อ​ จะมีไม้อื่นรอตามเสมอ​ แต่รอบนี้ชะล้าใจ​ ไปชื้อเหรียญgf ที่50บาท​ ตอนนั้นที่ชื้อเพราะเราจดจ่อกันมันนานมาก​ รอมันลงมา​ มันไม่ยอมลงจุดที่เราเล็งไว้สักที​ แต่พอมันลง​มาจุดที่เราเล็ง กลายเป็นเราขาดการวางแผนที่เคยทำไปเลย​ เราเลือกallinเข้า​ หลังจากนั้น​ gf​ก็ค่อยซึมร่วงมาจน43บาท​ แล้วพลาดอีกคือเราไม่ยอม​stop lossออกมาเรามั่นใจในโปรเจคของgf แต่โชคดีเมื่อวานมันเด้งกลับมาให้ขายแถบได้กำไรนิดหน่อย​
//จริงๆ​ คิดว่าพลาดต้องไปจดจ่อรอมันเกินไป​ กลายเป็นใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล​ พอมันลงมาจุดที่อยากได้เลยไม่ทำตามแผน​ ถ้าเรามีไม้อีกไม้รอเข้าถ้ามันตกกว่าเดิม​ จะไม่เป็นแบบนี้(อาจจะสมมุติทุน10000บาทไม้แรก4000บาท​ ไม้สองอีก6000บาท)​ เพราะถ้าโชคร้ายเหรียญไม่กลับมาราคาเดิม​ เราคือเสียโอกาศเอาเงินไปลงทุนอันอื่นไปเลย
ประสบการณ์: เข้าตลาดโดยยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร สายเก็บ หรือสายเทรด พอตลาดลงหนักๆ ก็ไปช้อนซื้อ ไม่MMให้ดี ก็เจอ dip ใน dip คิดว่าซื้อไอติมอยู่ 😂😂 ก็เลยได้ประสบการณ์ บวกกับได้ข้อคิดได้เวลาเรียนรู้
ข้อคิดที่ได้: ตลาดให้ผลตอบแทนตามความรู้ที่คุณมี ตามคำของแอดที่เคยแชร์ไว้ต่างๆ เลยครับ รู้ซึ้งงงง ทุกวันนี้เลยได้วิชา ได้ศึกษา ได้ปรับปรุง mindset ทำให้ทุกวันนี้รู้ว่าในตลาดเทรนด์ไหน ควรประพฤฒิตัวอย่างไร พอร์ทเทรดแอคชั่นยังไง พอร์ทเก็บออมเอคชั่นยังไง ใช้ได้ยันกองทุนเลยครับ
ปล.ขอบคุณแอดสำหรับความรู้ และมายเซ็ทนะครับ ติดตามเสมอ เป็นกำลังใจให้ครับ ^^
1
ผมขอแชร์ประสบการณ์แรกที่ก้าวมาเหยียบโลกคริปโตเลยดีกว่าพอนึกย้อนกลับไป ทำให้รู้สึกว่าจุดนั้นนี่เราเป็นเม่าในอุดมคติเลยก็ว่าได้ครับ 555 ก่อนอื่นพอเหยียบเข้ามาโลกนี้ เม่าของจริงต้องไม่เริ่มที่spotอยู่แล้ว ฟาดfutureไปเลย ผมจำได้เลยช่วงนั้นขาลงช่วงพฤษภาคม แล้วเห็นโพยจากเพจนึงบอกว่าจะลง นี่ก็ไปกด short 20x(จำไม่ได้แล้วว่าเหรียญอะไรแต่ตอนนั้นมันสุดได้เท่านี้) พอตกเย็นราคาร่วงหนักตามที่เพจบอก ตาลุกวาว ในใจคิดมาถึงก็ได้หลายร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ด้วยความโลภคิดว่าจะลงต่อไม่กดปิดกำไรครับ ปิดไฟนอน พอตื่นมาเท่านั้นแหละมันเด้งสวน จากกำไรหลายร้อยเปอร์เซ็นต์เหลือเกือบเท่าทุนแต่ก็ยังไม่ปิด ตอนนั้นคิดว่ามันล่วงตอนกลางคืนงั้นรอดูคืนนี้ก่อน
พอผ่านไปมันไม่ลงแล้วหวะ555 ขึ้นเอาๆ จากกำไรกลายเป็นขาดทุน พอมันขึ้นไปเรื่อย ๆนี่ก็ไม่ยอมแพ้ เติมเงินเพิ่มเพราะกลัวพอร์ทแตก จนสุดท้ายติดลบไปตัวเลขพอๆกับตอนบวกพีคๆเลยหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องจำใจปิดสัญญา เศร้าหนักมาก แต่ที่เจ็บใจกว่านั้นคือ หลังจากนั้นประมาณ3-4วันมันดันล่วงมาถึงจุดเข้า นี่ก็เจ็บใจที่ปิดสัญญาณไปอีกดอกนึง เรียกได้ว่าโดนตลาดรับน้องได้โหดมากครับ หลังจากนั้นก็เรื่อยเปื่อยครับกระโดดไป DeFi เพราะ% มันล่อตาล่อใจจบที่ขาดทุนยับเหมือนเดิม555 สุดท้ายก็มารู้จักการเทรดแบบเป็นระบบ โยกเงินทั้งหมดกลับ exchange กลับมาเทรดปกติดีกว่า คิดถึงriskก่อนreward ถึงตอนได้จะไม่หวือหวา แต่ตอนเสียก็รู้ว่าจะเสียเท่าไหร่ตั้งแต่ก่อนซื้อ หลับสบายใจกว่าครับ ประมาณนี้ครับผม
ช่วงเข้าตลาดใหม่ๆ มีแนวคิดประมาณว่า Technical Analysis (ตอนนั้นเน้น Elliott Wave) เป็นศาสตร์วิเศษที่สามารถใช้ทำนายอนาคตได้
ช่วงที่ทำให้รู้สึกตัว ตอนนั้นเป็นจังหวะที่ตัวเอง overtrade แบบ all in จนสภาพจิตใจบอบบาง พร้อมกับราคาหุ้นที่กำลังจะถึงจุดคัท
ตอนนั้นกังวลจนต้องนำกราฟมาวิเคราะห์ใหม่จนมีความคิดที่เข้าข้างตัวเองประมาณว่า "ถึงหลุดจุดคัทนี้ แต่ตามทฤษฎียังมีจุดคัทอีกจุด คงไม่หลุดจุดคัทที่สองหรอก"
คล้ายๆ จะหลุด ema50 เลยไปคัท ema100 แทนนั้นแหละ 😅
พอจะหลุดจุดคัทที่สองก็มีจุดคัทที่สามวนไป ด้วยอีโก้ส่วนตัว พร้อมจำนวนขาดทุนที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จนจำใจทิ้งเงินก้อนนั้นเน่าไป
[ข้อคิด]
ช่วงนั้นเลยเริ่มตระหนักขึ้นได้ว่า TA ใช้สำหรับทำนายเพื่อเพิ่มโอกาสชนะ แต่ไม่ได้การันตีว่าจะชนะตลอดไป ถ้าใช้ TA แต่ไม่มีระบบที่ดี ขาด Money Management และไม่สามารถรักษาสภาพจิตใจให้สามารถทำตามระบบได้ เราอาจโชคดีชนะตลาดพร้อมได้ผลตอบแทนที่ดีในวัฏจักรหนึ่ง แต่ในระยะยาวต้องมีช่วงพลาดจนต้องเสียเงินทั้งหมดไปเลยก็ได้
ปัจจุบันเทรดแบบ closed system มีวิธีเทรดที่ตัวเองเข้าใจ มั่นใจว่าจะสร้างผลตอบแทนได้ ควบคู่ความเสี่ยงที่ตัวเองกำลังรับ ตอนนี้สุขภาพจิตในการเทรดดีมากครับ 555
#ติดดอย เทรดผ่านบอท ติดดอยethup เมื่อเข้าตลาดเพียง1วัน 10พฤษภาคม 2021 ราคาร่วงจากราคา400usdt ลงมาจน เหลือ 15usdt เพราะเข้าซื้อโดยความรู้เรื่องcryptocurrency เป็นศูนย์ จนปัจจุบันอยู่ที่ราคา32 usdt ขาดทุนยับเยิน ปัจจุบันศึกษาการเทรดอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับพอร์ต
ประสบการณ์ของผมได้จากความโชคดีของผมได้จากความโชคดีของมือใหม่ครับ
ผม overtrade เหรียญ mana แล้วโชคดีครับ เพราะกลังจากใส่ไป ไม่ถึง 1 ชม. Facebook เปลี่ยนชื่อ บริษัทเป็น Meta พอดีเลยครับ ทำให้วันนั้น ขึ้นไป 1,000%+ ผมดีใจมาก แต่ไม่ได้ขายนะครับ คุยกับเพื่อนบอก ดูดิ+1000% แล้วไปแนะนำเขาอีกนะครับว่า 90% ส่วนใหญ่ ได้ 1,000,000 แล้วพอ อีก 10% หวัง 2,000,000 ผมไม่ขายเพราะผมเป็น 10% ในนั้น สรุปอีก 2 วัน ผมขายไปตอน+5,000% แล้วขายครับ ภูมิใจมาก แต่ในเมื่อ mindset เริ่มมาไม่ดี ต่อไปก็ไม่รอดครับ กราฟผมตอบแทน พุ่งขึ้นสูงมาก แล้วก็ค่อยสไลด์ลง จนหมดตัว แล้วเงิน ที่มาเทรดไม่ใช่เงินตัวเองนะครับ เป็นเงินที่ยืมที่บ้านมา
สุดท้ายอยาหาเงินคืนที่บ้าน ผมก็ เปิดรับเทรด จากเพื่อนฝรั่ง ก็หมดตัวอีกรอบครับ ซึ่งทุกครั้งที่หมดตัว มากจากการ overtrade ครับ แล้วก็เล่นสั้นเกินไป sl ก็สั้น แล้วชอบเข้าแล้วไม่ดูครับ ปล่อยให้รันเทรน สุดท้าย รันทด เพราะแผนไม่ชัดเจนครับ พอโดนบ่อยๆจากลงทุน การเป็น แทงขึ้น-ลงแทนครับ หลังจากนั้นก็ออกจากตลาดไป ตอนนี้ก็ 6 เดือนได้แล้วครับที่ผมไม่ได้เทรด คริปโต แต่ไปเล่น หุ้นแทน ค่อยๆปรับ พฤติกรรมให้มอง กราฟ D แล้วทุนยาวขึ้นครับ แล้วตั้งใจอ่านหนังสือ หาความรู้เพิ่มขึ้นตลอดครับ ที่ขาดทุนทั้งหมดยังไม่ได้คืนเลย แต่ไม่เป็นไรครับ ถ้าผมไใ่ยอมแพ้ สักวันผมจะได้คืนครับ แค่ต้องตั้งใจให้มากๆ ครับ
เข้าตลาดครั้งแรกปีที่แล้วครับ ช่วงยอดตลาดขาขึ้นมั่นใจมากครับ ซื้อยังไงก็กำไร ตอนนั้นมั่นใจมากครับ วัยรุ่นโชว์กราฟตลอดเวลา จุดเปลี่ยนคือตอนนั้นเป็นคืนที่ BNB กำลังเผาเหรียญ กะว่าพุ่งแน่ครับ สรุปลงสวน อันนั้นก็เริ่มทุ่มเงินเยอะแล้วครับ วันถัดๆมามี event อีลอนออกรายการจะพูดถึง doge เลยมีประสบการณ์ให้ขายก่อน event เปิด future วันเดียวได้กำไรเกือบหมื่น แต่ไม่พอ อยากได้อีก เลยเปิดที่ยอด สรุปล้างพอร์ตที่เคยได้กำไรมา หายหมดในเวลาไม่กี่วินาที อาจจะเป็นจำนวนไม่เยอะแต่ก็วูบใจมากครับ หลังจากนั้นก็ตลาดขาลงยาว
หลังวันนั้นก็เป็นครั้งแรกที่รู้จักเทพคอยน์ครับ (รวมถึงช่องอื่นๆด้วย zyo, cway, cdc ฯลฯ) เพราะก่อนหน้านี้ leverage future มั่วเลยครับ x50 x100 ตามอารมณ์ ล้างพอร์ตเป็นว่าเล่น นับจากวันนั้นถึงวันนี้น่าจะเกือบปีพอดีครับ พอร์ตมีกำไรบ้างประปราย ตอนนั้นขาดทุนนิดหน่อย แต่ทั้งหมดผ่านการคำนวณ position หมดเลยครับ เงินอาจจะยังไม่เพิ่มขึ้นเร็วๆนี้ แต่ก็เสมอตัวกับตลาดครับ ไม่ได้แพ้ไม่ได้ชนะ แต่ที่แน่ๆความรู้เยอะขึ้น คุมความเสี่ยงได้ดีขึ้นเยอะเลยครับ หลังจากวันนั้นคือไม่เคยมองเลยว่าจะได้กำไรเยอะแค่ไหน ให้ตลาดพาไปเอง อย่างเดียวที่คำนวณดักได้ด้วยความมั่นใจคือจะขาดทุนเท่าไหร่
ประสบการณ์: ผมเข้าวงการคริปโตมาช่วง มีนาคมปีที่แล้วกดซื้อแบบดูแค่แนวรับย่อซื้อยังไงก็กำไร(ทิพย์) ไม่ถึงอาทิตผมกำไร(ทิพย์)6,000บาท แล้วก็ดีใจทำไมมันง่ายจัง(จริงๆแล้วคือตลาดแจกเงิน) พอพฤษภาทมิฬ เท่านั้นแหละครับคัทลอสกันแทบไม่ทันทั้งพอร์ท แต่ดีที่ว่าผมเคยเทรดforexมาก่อนเลยเจ็บไม่มากเพราะคิดว่าลงต่อแน่นอน **กอดเงินสด ดีกว่ากอดดอยครับ**
ข้อคิด: ไม่ควรจะซื้ออะไรตามข่าวยิ่งคนรู้เยอะยิ่งต้องระวังเค้ากำลังล่อเราเข้าไปเชือด จริงๆก็ทำตามที่อาจารย์เทพคอยน์บอกเลยครับถ้ามันขึ้นไปไกลหรือขึ้นไม่จริงก็อย่าไปซื้อ คำนวนpositionsizeดีๆ จิตวิทยาในการเทรดช่วยได้มากจริงๆครับช่องอาจารย์zyo เหมือนหนังสือที่อาจารย์จะแจกครับผมเลยอยากศึกษาตลาดในยุคก่อนๆว่าเค้ามีสัญญานอะไรก่อนที่จะแตกครับ
ผมเริ่มต้นเทรดคริปโตช่วงเดินมกราคมปีที่แล้วเพราะเห็นข่าวbtcทะลุ 1 ล้านบาท เรียกได้ว่าเข้ามาเพราะกระแสล้วนๆ แล้วอาจเป็นโชคดีของมือใหม่ผมได้ all in ADA ไปที่ราคา 0.4$ ผ่านไปแค่ 1-2 เดือน ราคาADA ขึ้นไปถึง 1.2$ ทำให้พอรต์ผมโตขึ้นถึง 3 เท่า แต่การเล่นแบบ all in ไปเรื่อยๆ ร้อยละ 99 จบไม่สวย เพราะผมก็ได้ขาย ada ไปลง zmt ที่ตอนนั้นราคาขึ้นจาก ประมาณ 3 บาท ไปถึง 65 บาท ซึ่งผมก็นำเงินทั้งหมดไปลง ZMT ที่ 65 บาท แค่วันเดียวราคา ZMT ก็ลงมาถึง ประมาณ 30 บาทหรือ -50% ในวันเดียว ซึ่งผมได้ตัดขาดทุนไปที่ประมาณ 45 บาท ขาดทุน 30% ในวันเดียว ซึ่งหลังจากนั้นผ่านไปแค่ 1-2 เดือน zmt ขึ้นไปถึงประมาณ 200 บาท หรือ 4 เท่าของราคาที่ผมขายขาดทุนไป ผมมั่นใจว่าถ้าผมไม่all in แล้วถือในสถานะที่น้อยผมจะสามารทนต่อการขาดทุนนั้นได้
หลังจากนั้นผมก็ยังไม่เข็ดไป all in MITXเหรียญอัมดับพันกว่าที่ 0.16$ เพราะหวังว่ามันจะขึ้นไปเป็น top coin ได้หลายสิบเด้ง ร้อยเด้ง แต่สรุปมันก็ลงไปถึง 0.1$ ผมก็ต้องตัดสินใจคัดทิ้งไป มาถึงตอนนี้กำไรจาก ADA ของผมทั้งหมดใกล้จะหมดไป ตั้งแต่นั้นมาผมก็ไม่เคย all in เหรียญไหนอีกเลย เวลาจะเข้าผมจะคำนวณสัดส่วนที่พร้อมเสียตลอด เพื่อจะได้ตั้งจุดสตอปไว้ แต่ถ้าบางตัวเป็นเหรียญที่เสี่ยงก็จะเข้าน้อยมากแล้วปล่อยยาวๆไปเลย เช่น อาจจะกำหนดว่าจะไม่เข้าเกิน 5% ของพอรต์การลงทุน โดยผมใช้หลักการนี้ในการเล่น จนปัจจุบันพอรต์การลงทุนเติบโตจากตอนเริ่มเล่นไปหลายเท่า โดยที่ความเสี่ยงลดลงมาก ซึ่งตอนนี้ผมก็กระจายการลงทุนไปในตลาดหุ้นต่างประเทศด้วย ไม่ได้เล่นแต่คริปโตอย่างเดียวแล้ว
ส่วนแง่คิดที่ได้จากการเล่นนั้นขอสรุปเป็นข้อๆ ดังนี้
- มีเงินสดติดพอร์ทเสมอ
- คำนวณความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นก่อนซื้อทุกครั้ง
- อย่าโลภ
- อย่าเล่นตามคำพูดคนอื่น
- ตอนที่ได้กำไรเยอะๆมักจะตามมาด้วยการขาดทุนครั้งใหญ่เพราะเราจะมีความมั่นใจมาเกินไป
- อย่าหลงรักโปรเจคนั้นๆ ต้องกล้า TP/SL
ต้องย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน (จำไม่ได้)ก็เป็นเเค่เด็กติดเกมส์คนหนึ่ง อยากมีตังค์เติมเกมส์เเหละ ก็ไปหาวิธีหาเงิน ก็ไปเจอการรับชำระเงินด้วยbitcoin ของเกมส์สตรีม เเต่ไม่ทราบหรอกว่าคือเงินอะไร เเต่มันหาได้ฟรีอ่ะ ไอ้เราก็ไปหาตามช่อง YouTube จนไปเจอเว็บคลิก Epayถือว่าหาเหรียญ ได้เยอะมาก ทั้ง btc ltc eth บลาๆ วันหนึ่งขยันคลิกก็ได้ 1-2เเสน ซาโตชิ ต้อนนั้นราคา1btcไม่ถึง3หมื่น ได้มาก็โอนไปไว้ในกระเป๋าcoins.thสะสมเพื่อไปขายที่ bx ตอนนั้นได้มา ขายอย่างเดียวเพราะราคามันนิ่งมากไม่ค่อยขยับ จนมันวิ่งก็เริ่มไปศึกษาเล็กน้อย
จนรู้ว่ามันขุดได้ก็ตัดสินใจลงทุนในเว็บขุดต่างๆนาๆ ก็เจ๊งสิครับ เว็บไซต์ scam เยอะมาก เเซร์ลูกโซ่ดีๆนี้เอง เเตกต่างจากตอนนี้ที่มีระบบ Defi ที่ปลอดภัย เจ๊งจนไปเจอระบบ pool Ebot ซึ่งขุดได้หลากหลายเหรียญ มีความมั่นคงสูง ตัดสินใจลงทุนไปส่วนหนึ่งจนเติบโต จนกระทั้งกระเเสการขุดเหมืองเติบโต จนกระทั่งมีเว็บขุดเหมืองของไทย มีที่ตั้งจริงในประเทศมีบริษัทชัดเจน เลยตัดสินใจย้ายpoolเเละลงทุนเพิ่มเเรงขุดเเบบ all in ที่เจ็บใจหรอครับ โดนคนชาติเดียวกันบอก รัก ครับ
เงินคุณก็ต้องอยู่ในกระเป๋าคุณ
ตราบใดที่เงินยังไม่อยู่ในกระเป๋าคุณ #มันก็ยังไม่ใช่เงินคุณ
ผมตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเองอย่างจริงจังในวันที่ 21 ม.ค. 65 วันที่ตลาดคริปโตเทขายอย่างหนักจนเอากำไรของผมไปจนหมด...วันที่ผมไม่มีวันลืม
คุณเคยมั่นใจอะไรไหมครับ ผมรู้สึกเหมือนโดนตลาดหลอก หลอกให้คิดว่าผมเก่ง หลอกให้คิดว่าการลงทุนรอบนี้ผมจะไม่ตาย ตลาดให้กำไรผมมาตลอดปี 2564 ให้ผมได้มองตัวเลขหลอกๆ ที่เรียกว่า Unrealized profit
ความมั่นใจนี้ทำให้ผมถลำลึกลงไปมาก ผมกู้เงินจากทุกช่องทางที่ผมสามารถกู้ได้ ทั้งบัตรเครดิตทั้งหมด 7 ใบ, สหกรณ์ออมทรัพย์ที่ให้ผมผ่อนได้ถึง 20 ปี รวมไปถึงเงินจากคนในครอบครัว
และแล้ววันที่ 21 ม.ค. 65 ก็มาถึง ช่วงนี้เป็นช่วงที่ตลาดผ่านการลงจากจุดสูงสุดมาแล้วประมาณ 40% ผมยังจำคืนก่อนหน้าได้ดี วันที่ตลาด +ขึ้นไป 5% ทำให้ผมคิดเลยว่าขาลงมันจบแล้ว แต่ไม่ใช่เลย และแล้วมันก็เริ่มขึ้น...
การเทขายอย่างหนักของตลาดในช่วงเช้ามืด Alert จาก Trading View ทำให้ผมตื่น ผมนอนไม่ค่อยหลับมาหลายคืนแล้ว ครั้งนี้ที่ทำให้ผมสูญเสียกำไรไปจนหมด รู้ไหมครับผมกดขายตรงไหน ใช่ครับผมกดขายตรงหลุมก่อนที่มันจะเด้งใส่หน้าทันที ตลาดได้ทำให้ผมคิดว่าถ้าผมไม่ขายตรงนี้ผมจะไม่เหลือเงินทุนไปคืนเจ้าหนี้และคนในครอบครัว ตลาดเอากำไรผมไปหมดและเอาความมั่นใจทั้งหมดของผมไปด้วย ทำไมกันนะ ทำไมผมไม่ขายข้างบน ทำไมกันนะ ผมถึงมาขายตรงนี้ ทำไมกันนะเวลาผมขายเสร็จมันถึงเด้ง ทำไมกันนะ ทำไม...
3
ผมได้แต่ถามตัวเองแบบนี้อยู่นานเลยครับ จำไม่ได้เลยว่านานเท่าไหร่ แทบจะลุกขึ้นสู้ไม่ไหว แต่ยังดีที่ผมยังมีเงินไปคืนเจ้าหนี้ทั้งหมด ผมปิดบัตรทุกใบ ปิดสหกรณ์ คืนเงินที่บ้าน เหลือเงินติดตัวอยู่นิดหน่อยกับงานประจำที่ผมต้องเกาะไว้ให้ดี พอเห็นโพสนี้ก็เลยอยากมาแชร์ให้ทุกคนและเป็นการย้ำให้ตัวเองได้จำไว้
ขอฝากทุกคนไว้นะครับจะลงทุนอะไรขอให้มีแผนที่ชัดเจน แผนอะไรก็ได้ที่ทำให้คุณนอนหลับและผ่านความผันผวนต่างๆไปได้ ตอนนี้ผมเริ่มเรียนรู้ใหม่อีกครั้งตั้งแต่ Money Management, จุด Stop loss อยู่ไหน, จุด Take profit อยู่ไหน ที่จริงมันคือ Basic ทั้งนั้น อย่าละเลยนะครับ ไม่ต้องรีบ ค่อยๆศึกษาและสร้างวินัยให้ดี และที่สำคัญอย่ากู้ครับ ใช้เงินเย็นให้เก่งก่อน ไม่ต้องรีบรวย ไม่งั้นคุณอาจจะไม่เหลืออะไรเลยก็ได้ สู้ๆนะครับ ใครที่เจออะไรแย่ๆ มาก็ขอให้ผ่านไปให้ได้ ตลาดไม่หนีไปไหน และผมเองจะกลับมาให้ได้แน่นอน
เข้ามาในตลาดเพราะเพื่อนชวนเข้ามา เพื่อนมีรุ่นพี่คอยบอกโพ่ย ว่าให้เข้าเหรียญไหน บอกราคาเข้า บอกราคาขาย ซื้อตามหลายๆครั้งได้เงิน ก็ยิ่งเชื่อ
แต่พอตลาดกลับตัวเป็นขาลง เป้าราคานั้นเป้าราคานี้ ก็ไม่จริงอีกต่อไป ตรัสรู้ได้ว่า ใครบอกเป้าราคามา หนีแม่งให้ห่างงงงงครับบบ!!!!! เลิกเชื่อคนอื่น แล้วมาทำให้ตัวเองมีคำตอบของตัวเอง มันดีกับตัวเราเองมากที่สุด ถึงจะเป็นการตัดสินใจที่ผิด ถ้าไม่ได้ตัดสินใจเองจะไม่รู้จุดอ่อนของตัวเองได้เลย ต้องยอมรับความโง่ของตัวเองให้ได้ และเก็บประสบการณ์ อย่าหาทางลัด
กำลังอ่าน principles อยู่พอดีเลยครับ 😂
ขออนุญาตแชร์ประสบการณ์ความปวดร้าวเมื่อปีก่อนเริ่มรู้จักกับเหรียญ doge coin (แต่เค้าน่าจะรู้กันทั่วโลกแล้ว)เลยเข้าไป ซื้อที่ประมาณ 21 บาทกว่าๆ เป็นจำนวน 100% ของเงินเก็บ (แบบ future ) เพราะวันนั้นเพื่อนมาบอกว่า Elon musk จะไปออก รายการๆนึง มึงซื้อดักไว้เลยละมันก็บอกอีกว่าถ้ามึงอยากพลิกชีวิตก็อัดๆไป ไม่รวยก็-วยไปเลย ไอ้เราก็ไม่รู้เรื่องยังอุส่าเปิด youtube หาวิธีสมัครแอฟที่ใช้เทรด ด้วยความอยากรวย ตื่นเช้ามาเท่านั้นแหละครับไม่รวยครับแต่-วยแทน
ปล.1ตอนนั้นยังไม่รู้ว่า คริปโตคืออะไร
ปล.2ไม่ได้โทษเพื่อนนะครับโทษตัวเองนี่แหละ😂
ประสบการณ์
เป็นคนนึงที่ชอบฟังบรรยาย สัมภาษณ์เรื่องหุ้น เรื่องลงทุนต่างๆจากกูรู เซียนๆหุ้นทั้งหลายมาตั้งแต่เด็กๆ(ม.ปลาย)
ยอมรับว่าช่วงนั้นได้แต่ฟังเก็บไว้เป็นความรู้ เพราะยังไม่มีทุนมากนัก ยอมรับเลยว่าตังจะใช้แต่ละวันก็คือหมดแล้ว
พอเข้ามหาลัย เริ่มมีเงินเก็บมาบ้าง เลยเอาไปซื้อกล้องมือสอง มารับงานถ่ายภาพ ต่อยอดมาเรื่อยๆเลยมีทุนมาก้อนนึง
พอกลางปี2017 น่าจะช่วงปี3 ข่าวหลายๆสำนักเริ่มลงข่าวเกี่ยวกับบิทคอยน์ คริปโต การลงทุนใน Digital Asset ต่างๆ ยอมรับว่าถ้ามองจากตอนนี้ ตอนนั้นคือมันลงข่าวล่อเม่าจัดๆ และมักจะเจอคำเปยๆว่า ถ้าซื้อตัวนี้วันนั้น วันนี้จะมีเงินเท่านี้เท่านั้น
ด้วยความที่วัยรุ่น และไม่เคยมีประสบการณ์การเก็งกำไรภาคปฎิบัติมาก่อน เห็นคนนั้นคนนี้กำไร ได้เงินเยอะ
เลยเข้าตลาดมาแบบ ใช้อารมความโลภเป็นที่ตั้งโดยตรง อารมเหมือนถ้าไม่ซื้อวันนี้ พน ตลาดจะปิดแล้วอะไรแบบนั้น
บอกเลยว่า นอกจาก All in เงินทั้งก้อนตอนนั้นไม่พอ ยังไปกู้จากเพื่อนที่เรียนด้วยกัน ที่มันรับปล่อยกู้ดอกร้อยละ10 อีก
และ My First Trade ก็เล่นกุตั้งแต่เริ่้มม ตอนนั้นทุกสำนักเชียร์ xrp กัน (โดยเฉพาะไอช่องแชท bx) ไอเราตอนแรกก็ตามประสาเม่า เข้าตามเขาเชียร์ๆ สุดท้าย ไปเข้าที่ยอด พอมันทุบหน่อย เอาละ เริ่มมีความกดดันต่างๆเข้ามา
เหมือนมันเริ่มมีความพะวงในตอนนั้นว่า นี่เงินทั้งชีวิตและเงินกู้ที่ต้องเอาไปคืนอีก อารมต่างๆถาโถม
พอเห็นเงินในพอร์ทเริ่มหาย ก็ขายทันทีตอนที่มันทุบ(ซึ่งจริงๆมันควรเป็นจังหวะซื้อ)
สุดท้ายมันก็เด้งแสกหน้าเข้ามาใหม่ ด้วยความที่หึนหัน ไม่รู้อะไร ก็เข้าไปที่ยอดใหม่ สรุปเมาหมัด ตามสเต็ปมือใหม่ Buy High Sell Low
พอผ่านไปเรื่อยๆ เทรตไปไม่กำไรไม่ขาดทุน พอร์ทไล่ๆอยุ่ที่เดิมบวกลบนิดหน่อย
วันดีคืนดี มีใครไปปลุกผี Panda Coin ขึ้นมาไม่รู้
อยุ่ดีๆ จาก 0.01 มา 0.03-0.04 (ตีเลขกลมๆ)ไอเราก็พูดว่า มันก็มาได้แค่นี้หละ ปั่นเดะก็ลง
สุดท้าย ท้ายสุดทนไม่ไหว ไม่น่าสิงค์อยู่หน้าจอนานไปหน่อย อยู่ดีๆไปเข้าตอน 0.15 ได้ยังไงก็ไม่รู้ อารมพาไป และอยู่ๆมันก็ทุบมาเหลือ0.8 เริ่มหวั่นๆละ ละเด้งมา0.12-13 ในหัวคิดว่าขึ้นมาให้ถึงทุนจะออกละ สรุปไม่ถึง ท้ายสุดมันลงไป ไซด์เวย์ 0.4-0.5 ทนไม่ไหวเลยยอมปล่อยขาดทุน
จำได้ว่าเหมือนคนบ้ามาก ซึมเป็นส้วม เหมือนนักพนันเดินคอตกออกจากบ่อน
พอมีข่าวว่า bx จะปิดตัวลง ถึงได้ยอมแคสเอาท์เอาเงินออกมาทั้งหมด
ส่วนเรื่องเงินกู้ ก่อนหน้านั้นเอาเงินค่าเทอมไปคืนเพื่อนพร้อมดอกตรงเวลาก่อน (เหมือนตัดภาระออกไปให้เร็วที่สุด)
ละก็หายจากตลาดไปตั้งแต่ปลาย2018-ต้น2020
กลับมาใหม่ปลาย2020 เริ่มมีทุนก้อนโต(อีกแล้ว)
บวกกับหลายๆเพจ กูรู ที่เคยตามไว้ ว่า2020 จะเป็นปีทอง เพราะ Halving บลาๆ
กลับมาเจอ xrp เด้งตัวแรกเจ้าเดิม
เข้าๆออกๆตามอารมแบบไม่มีความรู้ตามสเต็ป
สุดท้ายไปดอยอยู่ที่ยอด แล้วมีแต่ข่าวเสียๆหายๆออกมา(xrp โดนฟ้อง)
สุดท้ายจึงยอมคัทออกมาเพราะมันถลำลึกมากๆ
เลยมาเริ่มเข้าวงการฟิวเจอร์
พอ short เป็นเท่านั้นหละ แม่ง short อย่างเดียวเลยช่วงนั้น ตัวไหนเด้งโผล่มา short เอาๆ กำไรเป็นกอบเป็นกำ
พอมาวันดีคืนดี คืนแห่งความบัดซบ คืนปล่อยหมา
เอาจริงๆตอนนั้นมันมีข่าวเรื่อง WallStreet bet ที่มันจะปลุกปั่นพวกหุ้นที่มันเหมือนตายแล้ว
ไอเราก็คิดว่า ถ้ามาคริปโตมันต้องปั่นพวกเหรียญมีมแน่นอน และนั่นก็คือ doge
วันนั้นเปิดกราฟ doge ทั้งวัน จำได้ดีตอนบ่ายมันเด้งมา ย่อมๆรอบนึงเหมือนเป็นสัญญาณ จาก0.0025มา0.004
และก็ร่วงลงไปใหม่ และขา short ในกลุ่มแม่งเอา %ไบแน้นมาโชร์ ว่า short ได้ที่ยอดเลยไรงี้ ไอเราเห็น ก็คิดว่าอย่างเท่ เลยจะรอ short มั่ง
ตกดึกคืนนั้นแหละ มันปั่นกันจริงด้วย เด้งทะลุ 0.004 จำได้ว่าปั่นจนเลื่อนทศนิยมขึ้นมาตัวนึง นั่งดูเรื่อยๆจนมาถึง 0.2 ไอเราก็คิดว่าตรงนี้หละ แรงเริ่มอ่อนละ แถมเป็นเลขที่น่าจะมีแต่คนขาย
สรุป short จัดเต็ม รอบแรกรีบเข้ารีบออก ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ เข้าอีกรอบ มันเบรคแบบ สวิงไปไกล ยังดีที่คีย์ปิดทัน หายไปครึ่งพอร์ท
ไอเราอารมเข้าแทรก อยากเอาคืน ไป long ซ้ำ สรุปมันทุบลงมาอีก เมาหมัดตามสเต็ปคืนนั้น จนเกือบเกลี้ยงพอร์ท เลยนั่งทบทวนตัวเองอยู่ทั้งคืน(นั่งซึมอยู่มุมห้อง)
สุดท้ายจึงยอมออกจากตลาดไปศึกษาหาความรู้แบบจริงๆจังๆก่อน สักเดือนนึง แบบไม่เทรตเลย
ก็ได้วิชากลับมา หลากหลายอย่าง
ข้อคิดเลยละกัน
ความผิดพลาดเป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องเจอ อยู่ที่เราว่า เราจะเรียนรู้จากข้อผิดพลาดนั้นจริงๆรึเปล่า
ข้อผิดพลาดสอนผมว่า
-อย่าเชื่อใครง่ายๆอีก(มันก็ทำให้ผมรอดมาจากเหรียญเล็กๆ DeFi GameFi ต่างๆ)
-มีสติ มีแบบแผนตลอดเวลา
-มองที่ความเสี่ยงเพื่อการอยู่รอดในระยะยาวเป็นหลัก
-มีระบบที่ดี และทำตัวเองให้เหมือนหุ่นยนต์ ทำตามระบบที่เราได้พัฒนาขึ้นมา
-ลด Ego ตัวเองลงและทำตัวเป็นน้ำไม่เต็มแก้ว เปิดใจรับฟังความเห็นคนอื่นมากขึ้น(โดยใช้วิจารณญาณ) ในยามที่เรากำลังเฉิดฉายอยู่ในตลาด
-อ่านเยอะๆ สร้างสภาพแวดล้อมตัวเองด้วยคนที่เก่งๆและผู้ที่มีประสบการณ์
-Diversify ไปในหลาย asset เพื่อความอยู่รอดมั่นคงในระยะยาว
-ระบบผลประโยชน์ของคนส่วนน้อยมักทำงานเสมอในโลกระบบทุนนิยม
-มองกำไรเล็กน้อยแต่ทบต้นเรื่อยๆในระยะยาวมากกว่าการไปไขว่คว้าเอากำไรเยอะๆแบบฉาบฉวย
-ตัดอารมให้ได้ นิ่งให้เป็น
ตอนนั้นเข้าตลาด crpyto ใหม่ครับ
กะจะมาซิ่ง ยังไม่มีความรู้ความเข้าใจเหรียญและตลาดมากเท่าไหร่เลยครับ แรกๆก็กำไรดีครับ มันย่ามใจ
เล่าจุดเสียชีวิตเลยก็แล้วกันครับ
ทำครบแทบทุกกระบวนท่าของความชิบหายครับ เพราะคิดว่ามันง่าย ผมกำไรมา เห็นใครก็กำไรเยอะ
- ผมเปิด long BTC ใกล้แนวต้านใหญ่ เปิดตามสัญญาณเพราะแค่คิดว่าจะ scalp กินระยะสั้นๆใน TFเล็ก ผมก็อัด leverage เข้าไป
- คำนวณ size นะครับ และตั้ง SL แล้ว แต่พอผิดทางผมไม่ยอมรับ ผิดวินัย ผมแหกแผน ดึง SL ออก
- โดนลากเลือดสาด ผมยังถัวต่อ เพราะหลอกตัวเองว่าใกล้จุด turn back ก็นั่งถัวขาลงเรื่อยๆ ไร้แผน ไร้จุดหมาย ไร้สติ
- ถัวจนเงินหมด ผมเติมเงินเข้าไปถัว
เพราะ ego มันไม่ยอมแพ้ ผมไม่ยอมรับว่าตัวเองผิด คิดว่าเดี๋ยวกลับมาแน่ๆ
- โดนลากอยู่เกือบอาทิตย์ยังไม่ cut loss
สุดท้ายลากลงเหวเรื่อยๆ จนชน liquidation piece แหกกระจุย
เสียหายหนัก เพราะคุมตัวเองไม่ได้
การที่เข้ามาในเกมส์ที่ยังไม่มีความเข้าใจมันมากพอแต่กลับใช้วิธีเสี่ยงสูงมากสุด
Ego คิดว่าง่าย รู้ทั้งรู้ว่าสิ่งที่ทำผิด แต่ไม่มีสติควบคุมตัวเอง ยังทำวิธีที่ผิดเรื่อยๆ สุดท้ายพัง บทเรียนราคาแพงเว่อร์เลยครับ 🤣
ประสบการณ์ : ทนติดดอยมานานแสนนาน ทุกวันเฝ้ารอให้ราคากลับมาที่เดิม คิดแค่ว่าขอแค่ได้ทุนคืนก็พอใจแล้ว เสียเวลาเฝ้ารอเป็นปีๆ พอได้เท่าทุนรีบขายเลย จากนั้นก็ขายหมูไปยาวๆ เสียเวลา เสียสุขภาพจิต แต่ได้บทเรียนว่าต้องมีวินิยในการลงทุน ถ้าต้อง cut loss ก็ต้องคัท
จุดแข็ง : ใช้ MM แบบสุดโต่ง ในปี 2020 เทรดน้ำมัน ด้วยระบบกริดแบบ Close system วางเงินถึง 0
จุดอ่อน : น้ำมันราคาติดลบ
ประสบการณ์เจ็บๆจากตลาด :
1. เห็นกราฟลง มีความคิดว่าเนี่ยมันลงเยอะแล้ว ไม่มีทางลงไปกว่านี้ได้แล้ว
2. เชื่อกูรูในกลุ่ม #ไม่ขายไม่ขาดทุน
3. โดนตบทะลุแนวรับ กูรูบอกคัดเลย ไปรับที่หลุมดีกว่า แล้วก็คัดตามกูรู (คำถามคือ #หลุมอยู่ตรงไหน )
4. แบ่งไม้ซื้อ ตามฟิโบแบบเปะๆ แต่เอ๊ะ ทำไมราคาเอาไม่อยู่สักที
5. มีความคิดอยากได้ราคาถูกที่สุด มันดูเท่ห์ กูเข้าได้หลุม
6. แต่พอราคามันถูกมากๆ กลับมือไม้แข็ง ไม่กล้ากดซื้อ เพราะกลัวว่ามันยังลงไม่จบ
7. ใช้หูเทรด
8. ไม่เคยโทษตัวเอง โทษตลาดที่ทำให้เสียเงิน
9. ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการหาระบบที่จะชนะ 100%
10. ราคานี้ไม่มีอีกแล้ว
#ข้อคิดที่ได้ :
1. ระวังตลาดขาลงให้ดี เพราะอะไรๆมันก็แย่ไปหมด
2.เมื่อขาดทุนจงลดความเสี่ยงลงเรื่อยๆ
3.เมื่อตลาดดีค่อยเพิ่มความเสี่ยงขึ้นตาม
4.แมลงสาบไม่เคยมาตัวเดียว จะมีข่าวร้ายตามมาเรื่อยๆ
5.ทำให้การเทรดง่ายที่สุด อย่าไปใช้เครื่องมือเยอะแยะ ไม่มีประโยชน์
6. ทำตามระบบที่วางไว้ก็พอ เทรดตามแผนที่วางไว้
7. ท่าง่ายๆก็ได้ตังค์แล้ว ถามตัวเองจะเอามันส์หรือเอาตัง
ประสบการณ์ของผมเริ่มต้นที่
พฤษภาาคม 64 ขณะนั้น BTC อยู่ที่ 2ล้าน
ผมไม่เคยรู้ว่า BTC คืออะไร ทำงานยังไง พื้นฐานคืออะไร
แต่เห็นเพื่อนๆเล่นแล้วมีกำไรก็เข้าไปโดยไม่รู้ว่า ณ ขณะนั้นมันคือปลายcycle *ไม่เคยเล่นหุ้นหรือลงทุนมาก่อน*
ใช่ครับผมลงเงินเก็บของผมที่มีเข้าไปใน BTC
โดยไม่รู้เลยว่ามันกำลังจะหายนะ
จากนั้นมันค่อยๆลง ที่ละนิด ก็ได้แต่คิดว่าเดี๋ยวมันก็ขึ้นมา
จาก 2ล้าน มาล้าน7 มาล้าน5
พอเงินเดือนออกถัวเพิ่มแบบ allin
จากนั้นลงแบบกระชากมาเหลือ 8 แสนบาท พ็อตผม-60%
ก็คิดเหมือนเดิมว่ามันจะขึ้น
สุดท้ายเริ่มตะหงิดๆใจเริ่มศึกษา youtube
เจอในช่องนึงบอกมีโอกาสลงไปมากกว่านี้อีก
บวกกับBTCปิดแท่ง day โซน 28,000 usd
ผมคัทแบบ market เลย
นั่นแหละครับ ก็เหมือนเจ้าเล่นกับเราแค่คนเดียว
พอผมคัทปุ๊ปbtcขึ้น 10วันไม่พักเลย
และครั้งนั้นเป็นประสบการณ์ที่ดีของผมมากๆครับ ไม่ว่าจะทำอะไรหรือลงทุนอะไร ควรศึกษาให้ดีก่อนลงทุน
แต่ก็นับเป็นข้อดีที่ผมก้าวเข้ามาในตลาดแล้วเราก็เคสแย่ๆ
เลยทำให้เราจำว่าเจ็บมันเป็นยังไง
แต่ผมก็คิดว่าดีกว่าเข้ามาแล้วกำไรแบบไม่รู้สาเหตุ
จนทำให้เราคิดว่าตลาดมันง่ายไปหมด
ทำอะไรก็กำไร อาจส่งผลให้อนาคตเราเจ็บหนักกว่านี้ครับ
ขอแชร์ประสบการณ์ด้วยคนครับ 🙂
ประสบการณ์แบบเจ็บๆของผมคือ เหรียญ safemoon ครับ ก่อนหน้าก็อยู่แต่ในตลาดหุ้น อยู่แบบแมงเม่ากำไรนิดหน่อยก็ขาย แต่ทนติดดอยได้น๊านนาน แต่ก็อย่างว่าครับ ตลากหุ้นความผันผวนมันต่ำเวลาติดลบมันก็ลบไม่เยอะ แล้วช่วงนึงคลิปโตก็มูนมาก บิทคอยน์นิวไฮเรื่อยๆ แล้วเราเห็นคนดังๆตปทเชียร์เหรียญ safemoon เยอะมาก แบบอารมณ์ fomo เราก็เลยลองหัดเล่นคลิปโตบ้าง หยอดใส่เหรียญ safemoon ไปหมื่นนึง พอวันรุ่งขึ้นได้กำไรเด้งนึง อารมณ์ตอนนั้นมันตื่นเต้นสุดๆ กลุ่ม fb safemoon th บางคนใส่ไปได้กำไรเป็นล้านนนน!!! แล้วความโลภก็ครอบงำผมครับ ผมออลอินเลยครับ กะเอาแลมโบเลยแหละ ผ่านไปวันสองวัน เริ่มมีคนบอกว่าถอนไม่ได้ โดน slippage บ้าง ได้เงินไม่ครบบ้าง
ตอนนั้นนอนไม่หลับเลยครับ กูรูออกมาเตือนก็ไม่ฟัง แล้วในที่สุดราคามันก็เริ่มไหลลงสู่นรก นรกจริงๆ ไม่ไหวแล้วครับ ถอน ถอนก่อนเลย สรุป safemoon ทำผมขาดทุนไปแสนกว่า หลังจากนั้นหยุดทุกอย่างเลยครับ ทั้งหุ้นทั้งคลิปโต เพราะเราเริ่มรู้ตัวแล้วว่าเราไม่มีความรู้อะไรเลยเกี่ยวกับการเทรด!!! เราแค่กดซื้อกดขายเป็นแค่นั้นจริงๆ หลังจากนั้นก็ศึกษาหาความรู้ฟังคลิปลุงโฉลก นั่งดูกราฟทั้งวัน หาซื้อหลังสือมาอ่านจริงๆจังๆ เอาจริงๆถ้าวันนั้นไม่โดนจังๆ วันนี้ผมก็อาจจะยังเป็นแมงเม่าอยู่ ต้องขอบคุณตลาดที่ให้บทเรียน และคิดค่าเรียนที่ไม่แพงมาก(ไม่หมดตัว)
เรื่องที่จะเล่าเรียกได้ว่าเป็นจุดเจ็บใจมากที่สุดตั้งแต่ลงทุนมาครับ เริ่มจากช่วงปีที่แล้วเป็นตลาดขาขึ้น จิ้มตัวไหนก็กำไรหลับตาจิ้มก็ยังกำไร รวมถึงการมาถึงของกระแส defi ที่เป็นที่นิยมอย่างมาก ผมก็ได้เข้าไปซื้อเหรียญๆหนึ่ง สมัยก่อนมักจะเรียกกันว่า ซื้อเหรียญต้นน้ำ ก็คือใครเข้าก่อนก็จะเป็นต้นน้ำ แล้วก็ขายตอนราคามันปรับขึ้นสูง แล้วก็มองหาตัวที่จะเข้าใหม่ไปเรื่อยๆ ด้วยความที่ไม่มีความรู้เรื่อง กราฟ หรือตลาดในช่วงนั้น ก็เข้าซื้อเหรียญต้นน้ำตัวหนึ่ง ได้กำไรระดับหลาย M ก็คือถ้าขายวันนั้น ตอนนี้มีบ้านมีรถ แบบไม่ต้องออกเงินเองสักบาท
แต่ด้วยความกาวของเจ้ามือเหรียญ และความอ่อนประสบการณ์ ของผม คิดว่าราคาจะขึ้นไปเรื่อยๆ เมื่อเทียบ Mcap ของเหรียญตัวอื่น ในที่สุดราคาก็ปรับลง เมื่อเหรียญถูกเทขายมากๆ ก็คิดว่า ไม่ขาย ไม่ขาดทุน ถือไปเรื่อยๆ จากที่กำไรหลาย M มาทุกวันนี้แทบไม่เหลืออะไร ทำให้ทุกวันนี้เก็บจุดเจ็บใจนั้นมาเป็นบทเรียนข้อคิดบอกตัวเองเสมอ ไม่มีราคาอะไรที่จะขึ้นไปตลอด ไม่มีการ All in ในเหรียญใดๆ การจะออกไม้แต่ละครั้ง วาง MM เสมอ และการจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง เน้นการอยู่รอดในระยะยาว และหาความรู้เพิ่มเติม
2021 เห็นข่าวเศรษฐีคริปโตเยอะมากๆ บวกกับช่วงนั้นตลาดขาขึ้นอย่างแรง คนในตลาด hype กันมาก เลยเกิดความโลภนำเงินเก็บที่ได้สะสมมาหลายปี all in เข้าไป จากนั้น พฤษภาคมตลาดซึมลงยาวๆ แทบจะเสียสุขภาพจิต ได้แต่มองแล้วนั่งลุ้นว่าเมื่อไหร่มันจะกลับมาสักที
เมื่อมันกลับมาที่ราคาต่ำกว่าทุนก็ยอมขายขาดทุน แล้วกราฟมันไปต่อก็รู้สึกเซ็งอีก จากนั้นก็ไปศึกษากราฟ อ่านหนังสือเกี่ยวกับmindset ของเทรดเดอร์เพื่อให้อยู่รอดในตลาดระยะยาว
ข้อคิด: ควรเคารพความเสี่ยงไม่fomo เพราะในโลกการลงทุนอะไรก็เกิดขึ้นได้ เหรียญมีสองด้าน การลงทุนก็มีสองด้านเช่นกัน มีทั้งคนที่รวยและเจ๊งหมดตัว แต่สื่อมักจะประโคมข่าวแต่คนที่รวย(เพื่อให้เรา hype ? อันนี้ก็ไม่แน่ใจ) การเทรดควรมีแผนชัดเจนมี RR ที่เหมาะสม ไม่ถัวขาลง และไม่bias กราฟ วางแผนรับมือทั้งสองทาง วิธีนี้จะทำให้เราอยู่รอดตลาดในระยะยาว
ประสบการณ์: ช่วงเข้ามาในตลาดคริปโตใหม่ๆ(ซึ่งตอนนี้ก็ยังใหม่อยู่🤣) มีความโลภเอาเงินไปลงกับfuture โดยเล่นไปแบบเพ้อเจ้อ เช่น ใช้leverage 50x บ้างหล่ะ บางทีเหรียญไหนดูแกว่งๆก็ใช้แค่ 25x พอ (ความคิดในตอนนั้นคือแค่25xก็น้อยละเพราะอยากได้returnเยอะๆ555)
สักพักเล่นไปเล่นมาได้ไม่ถึงเดือนก็เจ๊งกับเงินที่ลงไปทั้งหมด หลังจากนั้นก็ห่างหายไปหลายเดือนจนพอเริ่มมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นมาบวกกับตลาดเริ่มกลับมาทรงดี ก็เติมเงินเข้าไปเล่นอีกเช่นเคยรอบนี้กะว่าจะได้ทุนคืนเพราะไปศึกษาทฤษฎีกาวๆมาเพิ่ม (แต่บางอันก็ทฤษฎีพื้นฐานนะเออ) โดยรอบนี้เล่นมากสุดก็แค่10x แต่แทงไม้นึงหนักหน่อย ซึ่งก็ไปแทงอยู่ประมาณ 2 ตัวคือเหรียญหมาอินุ กับ btc แทงไปสักพักก็เริ่มได้เงินจากเหรียญหมา (เพราะช่วงนั้นกราฟเป็นsideway)แต่ก็ไปเสียให้กับbtc พอถัวๆไปมาก็กลายเป็นว่ากำไรหด ทุนหาย
เลยตัดสินใจว่ารอบสุดท้ายจะเอาเงินที่เหลือในพอร์ตทั้งหมดไปแทงshort เหรียญหมาอินุให้หมด ทันใดนั้นก็ โป้ง ! แตกเรียบ อยู่ๆกราฟก็พุ่งแบบไม่มีปี่มีขุ่ย แล้วก็ตามเคยหมดตูดจ้า เข็ดหลาบไปอีกนาน
ข้อคิด: สิ่งที่ทำให้เกิดเรื่องราวตามด้านบนก็สืบเนื่องมาจากการที่เราไม่รู้จักจำกัดความเสี่ยงของเงินที่เราลงทุนไป เราไม่มีแผนmoney management มารองรับ กับเหตุการณ์ต่างๆที่อาจเกิดขึ้นหลังจากแทงไปแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เราสูญเงินทั้งหมดไปนั่นเอง
- "Story of เม่า"
ผมช่วงปีก่อนนี่แหละ เพิ่งหันมาเข้าตลาดคริปโตใหม่ๆ ดันไปเชื่อ กูรู้ บอกให้ซื้อไปเถอะ (เหรียญหมาญี่ปุ่นเหรียญนึง) เดี๋ยวก็มา ราคานี้แหละกำลังดี พอซื้อปุ๊บ แม่งวิ่งจริง กำไร เกือบๆ 100 usd ได้ ไอเราก็เหลิงไง แม่งได้ดีจริงว่ะ เอาเงินเก็บมาลงอีก คิดว่าจะได้เพิ่ม มีการเอากำไรทิพย์ไปโชว์ คนอื่นอีกนะ ตัวเองยังไม่ทันขายเลย ปรากฎว่า ถือไปถือมา มันก็ย่อตัวลงมา กูรู้แม่งก็บอก มันก็แค่ย่อตัว ถือไว้ครับมีแต่รวยกับรวย ไอเราก็มือใหม่ไง เชื่อแม่ง ถือทน ไม่รู้จัก Cut loss ทั้งนั้น ท้ายที่สุด ขาดทุน 50k เลิกตามกูรู้ห่านี่และ เมาชิบหาย หลังจากนั้นมา หาหนังสือมาอ่าน ของจารย์ Mark นี่แหละ
ข้อคิดที่ได้จากประสบการณ์ครั้งนี้ แม่งเป็นเงินที่มากสำหรับผมในมนุษย์เงินเดือนนะ อุส่าเก็บเงินไว้กะว่าจะเอาไว้ซื้อวัว ดันมาโลภมาก คือจริงๆ ไม่ได้โทษกูรู้นะ โทษตัวเองนี่แหละ พอหาระบบ + หาความรู้เรื่อง MM + เรื่อง Mindset แม่งทำให้มีเหตุมีผลขึ้นเยอะ จะเทรดก็ต้องมีการตั้ง SL หากมันไม่เป็นอย่างที่เราคิด และ อย่าเชื่อคนอื่นมากจนเกินไป เอามาตัดสินใจกับความคิดเราบ้าง ว่ามันตรงกันหรือเปล่า
ขอบคุณพื้นที่ครับ เหมือนได้ ระบายด้วย
จบแล้วครับ ใครอ่านจนถึงตรงนี้ได้ แสดงว่า คุณไม่ธรรมดาละ คุณได้ "ท่าที่ ถึงคุณจะไปทำเอง ยังไง๊ ยังไง ก็จะต้องเสียตังแน่ๆ" ได้เพียบเลยครับ
 
ผมเชื่อว่า ทุกท่านที่มาแบ่งปัน อนาคต จะสามารถหาตังจากตลาดได้อย่างเป็นกอบเป็นกำแน่นอน เพราะ การกล้ามองความผิดพลาดของตัวเอง และวิเคราะห์ออกมาได้ว่า เกิดขึ้นเพราะอะไร มันต้องใช้ courage เป็นอย่างสูง ... และสิ่งนี้แหละ จะทำให้ท่านมี edge เหนือกว่าคนอื่นๆ ในตลาด ที่แม้แต่จะมองความผิดพลาดของตัวเอง ก็ยังไม่กล้า มากมายนักครับ
 
ขอบคุณทุกคนจากใจครับ
โฆษณา