📼ถอดเทป: BLACK SWAN วันมืดมิด ในชีวิตการลงทุน EP1. ทิวา ชินธาดาพงศ์📼
Published: 12 Feb 22
สวัสดีครับ คราวนี้พบกับซีรีย์ #ถอดเทปลงทุนลงดอย กันอีกครั้งซึ่งซีรีย์นี้เป็นซีรีย์ที่แอดตั้งใจสรุปสาระสำคัญจาก Video หรือ Podcasts ต่างๆนะครับ ซึ่งการถอดเทปจะไม่ได้ถอดทุกคำพูด และลำดับจะไม่ได้ตรงตามต้นฉบับทั้งหมด โดยแอดจะรวบรวมไว้เป็นหัวข้อ
ครั้งเป็นคิวของพี่มี่ ทิวา ชินธาดาพงศ์ ซึ่งจะมาเล่าถึง black swan ในอดีตกันให้ฟังครับเพื่อที่จะทำให้นักลงทุนไม่โลภจนเกิดความเสี่ยงที่มากเกินไป และพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส โดยรอบบนี้แอดจะสรุปเป็น Timeline ไล่เรียงมาเรื่อยๆนะครับ
🚩 ปี 2007
▪️ เข้าตลาดหุ้นในสมัยก่อน Subprime ไม่กี่เดือน
▪️ ลงทุนก้อนแรก 5 ล้านบาท
▪️ หลังเจอวิกฤติ Subprime เงินเหลือ 2.5 ลบ. เท่ากับผลตอบแทนติดลบ 50%
▪️ โดนภรรยาด่า(จนชิน) แต่ภรรยาถามเรื่องลูกทำให้สะอึก
▪️ คิดจะล้างพอร์ต แต่อยากให้ครอบครัวมีชีวิตที่ดีกว่านี้
▪️ เลยเริ่มไปฟัง Opportunity Day ที่ตลาดหลักทรัพย์
▪️ ปรึกษากับพี่พีรนาถ แล้วพบว่าให้ พลิกวิกฤติเศรษฐกิจให้เป็น “โอกาส”
▪️ หลังจากนั้นก็พาภรรยาไปหาพี่นักลงทุนที่น่าเชื่อถือ และภรรยาให้เงินอีก 5 ลบ. มาซื้อเพิ่มแถว SET 500 จุด
🚩 ปี 2008
▪️ ไปห้องสมุดมารวยไปและไปเจอพี่โยโย่ และโดนพี่โยโย่ชวนเข้ากลุ่มสุมหัว ที่เจอนักลงทุนที่เป็นหัวกะทิอยู่ในกลุ่ม
▪️ ถามสิ่งที่ไม่เข้าใจในกลุ่มสุมหัวหลังไมค์กับพี่โยโย่
▪️ช่วงนี้ถือหุ้นคุณภาพดีมากอย่าง HMPRO แต่สุดท้ายหุ้นลงหนักก็ขายออกไป จนตอนหลังทำให้เข้าใจว่า “เมื่อความรู้ไม่มากพอ จุดนึงเราจะยอมแพ้” และถ้า “คุณไม่แกร่งพอ คุณจะถือความรับผิดชอบหนักๆ ไม่ได้”
🚩 ปี 2009 - 2011
▪️ ปี 2009 พอร์ตกลับมาโต 300% มีเงิน 29 ลบ. โดยใช้หลักการหาหุ้นที่ดีและผลตอบแทนไปเรื่อยๆ
▪️ ยุคนี้ถือว่าทำผลตอบแทนได้เยอะมากๆ โดยใช้การดูปัจจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ หาหุ้น PE ต่ำและปันผลสูง (ในยุคนั้น)
▪️ และซื้อแบบ VI ดัก (เพราะยุคนั้นตลาดยังไม่ให้ค่า VI เยอะ)
▪️ โดยใช้แนวทาง “หุ้นถูกเชิงปริมาณ: PEต่ำ ROEสูง ผู้บริหารดี”
▪️ การลงทุนในนี้ง่ายมากเนื่องจาก เศรษฐกิจดี การเติบโตมากกว่าการที่ผู้บริหารพูด
🚩 ปลายปี 2011
▪️ ปลายปี 2011 เป็นปีที่น้ำท่วมใหญ่
▪️ เจ็บหนัก เพราะถือหุ้นอสังหาไว้เยอะ บวกกับ Warrant (ของ SIRI)
▪️ ราคาหุ้นและ Warrant ลงไปเยอะมาก (มากกว่า 50%)
▪️ เพื่อนแนะนำให้ไม่ขาย ถ้าจะคัทให้ไปคัทจุดที่ระดับน้ำเริ่มลง
🚩 ปี 2012
▪️ หลังน้ำท่วมอสังหากลับมาเร็วมาก พื้นที่ที่น้ำเคยท่วมก็ขายดีอยู่ เพราะทำเลในอสังหาเป็นสิ่งสำคัญมาก (คนอยากอยู่ใกล้ที่ทำงาน บ้านพ่อแม่ โรงเรียนลูก) บริษัทอสังหาเลยแก้เกมส์ถมที่ให้สูงขึ้นกว่าตอนน้ำท่วมปี 2011
▪️ โชคดีที่มี Demand พิเศษเข้ามา ทำให้เข้าใจว่า หุ้นตัวเดียวกัน “บางคนรวย บางคนเจ๊ง”
▪️ ตลาดอสังหาดีกว่าที่คาดมาก คอนโดในเมืองและต่างจังหวัดขายดีมาก เพราะคนซื้อเก็บไว้หนีน้ำท่วมจนทำให้เกิด “ตลาด New S-Curve ใหม่”
▪️ หุ้นขึ้นไปจนกำไร 16-17 เท่าทำให้เกิดอาการ “หลงรักหุ้น”
🚩 ปลายปี 2012
▪️ มีข่าวโครงการนึงขายไม่ดี ทำให้หุ้นลงมา 50% จากจุดสูงสุด จากนั้นก็ตัดสินใจขายแถมๆกำไร 6-8 เท่า และพอขายไปทำให้ซื้อหุ้นไม่ได้ไป 6 เดือน เพราะเสียใจกับการที่ต้องขาดทุนกำไรจากเดิมกำไร 16 เท่าแต่กำไรเหลือ 8 เท่า
▪️ จนสุดท้ายหลังจากน้ำท่วมพอร์ตก็โตประมาณนึง
🚩 ปี 2013 - 2016
▪️ ผลตอบแทนทรงๆ พอร์ตโต 7% ติดลบ 5% บ้าง
▪️ ไปเจอพี่ที่รู้จักคนนึง ถือหุ้น PE สูงและงบโตดีกว่าคาดทั้งหมด ทำให้พี่ที่รู้จักคนนั้นทำผลตอบแทนปี 700% ใน 1 ปี
▪️ จากเดิมที่เน้นหุ้น PE ต่ำที่ไม่มีการเติบโต ก็ค่อยๆเริ่มเข้าใจ “กับดับหุ้น PE ต่ำ” และเข้าใจว่า “การซื้อหุ้น PE สูงไม่ใช้การเก็งกำไร แต่เป็นการให้น้ำหนักปัจจัยเชิงคุณภาพสูงกว่าปัจจัยเชิงปริมาณ”
🚩 ปี 2017
▪️ เปลี่ยนกลยุทธ์ในการเลือกหุ้นโดยให้ความสำคัญกับภาพธุรกิจ โดยมองคุณภาพธุรกิจเป็นหลัก
▪️ และโชคดีไปเจอรุ่นน้องนักลงทุนทางธรรมะ โดยรุ่นน้องบอกว่า “ถ้าพี่รวยแล้วเป็นมะเร็งตอนอายุ 60 โดยเอาสุขภาพที่เป็นศูนย์คูณอะไรก็ได้ศูนย์” ทำให้เปลี่ยน Mindset ลดความเร็วลง และเน้นการ Balance ชีวิตให้มากขึ้น
▪️ จากนั้นก็ค่อยๆขยับพอร์ตเปลี่ยนจากการถือหุ้นน้อยตัว และมาถือหุ้นหลายตัวมากขึ้นเนื่องจากขนาดพอร์ตที่ใหญ่ขึ้นและเปลี่ยนแนวทางในการลงทุนโดยให้เวลากับตัวเองมากขึ้น ได้ไปใช้ชีวิตมากขึ้น
💡Key Takeaways & Ideas
▪️ ว่ายตามกระแสน้ำ ว่ายไหลตามน้ำเป็นการลงทุนที่ท่าง่าย เช่น ลงทุนในช่วงเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมที่ดี
▪️ อย่าเอาเงินไปเทียบกับสิ่งของ เพราะถ้าเราขาดทุนหรือกำไรเราจะยึดติด
▪️ ธุรกิจที่ดีต้องมี Pricing Power และต้อง Scalable ได้ (Pricing Power สูงจะแสดงถึงความเก่งของผู้บริหาร แบรนด์ของสินค้า และ Five Forces Model ที่สูงได้)
▪️ หาเป้าหมายที่แท้จริงให้เจอ เช่น ตอนแรกเก็บเงินเพื่อให้ลูกสบาย แต่ไปเรื่อยๆ เป้าหมายของพี่มี่ถูกเปลี่ยนจนกลายเป็นเรื่องจำนวนเงินโดยที่ไม่รู้ตัว จากนั้นพี่มี่กลับมาสู่เป้าหมายเดิมใช้เงินเพื่อให้สร้างความสุขและความสัมพันธ์ในครอบครัว
▪️ การลงทุน เรื่องเงินต้นเป็นสิ่งสำคัญมากครับ ถ้าเงินต้นยังน้อยอยู่อาจต้องขยันทำงานเก็บเงิน แบ่งเวลาหาความรู้เรื่องการลงทุน และเริ่มลงทุน
▪️ การฝึกความรู้ควรคู่ไปกับการฝึกจิตใจ
ขอให้สนุกกับการลงทุนครับ 😄
ถ้าชอบ Content ของแอดก็ขอกด Like กด Share เป็นกำลังใจให้แอดหน่อยนะครับ 😽
#ลงทุนลงดอย #ถอดเทปเทบลงทุนลงดอย #blackswan
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
