เพราะความเขลา จึงได้เป็นฮ่องเต้ถึง 2 ครั้ง
หมิงอิงจง ได้เป็นฮ่องเต้ถึง 2 ครั้ง ไม่ใช่เพราะบริหารประเทศดี จนคนเรียกร้องให้มาเป็นฮ่องเต้รอบ 2 นะครับ แต่เป็นเพราะความโง่เซ่อซ่าปัญญาอ่อนต่างหากที่ทำให้หมิงอิงจงได้เป็นฮ่องเต้ถึง 2 ครั้ง
หมิงอิงจง มีพระนามเดิมว่า จูฉีเจิ้น เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1427 จากนางกำนัลในวังคนหนึ่ง ที่ฮ่องเต้เซวียนจงซิ่ง (มีเพศสัมพันธ์) ด้วย แล้วสนมซุนได้ยึดมาและอุปโลกน์ลวงโลกว่าเป็นลูกของตัวเอง
สนมซุนไม่ได้รักใส่ใจจูฉีเจิ้น แต่หวังใช้เป็นเครื่องมือในการก้าวไปสู่ตำแหน่งฮองเฮา ทำให้จูฉีเจิ้นเติบโตมาภายใต้การเลี้ยงดูของหวางเจิ้น ขันทีโฉดชั่ว ซึ่งเมื่อจูฉีเจิ้นได้ครองราชย์เป็นฮ่องเต้หมิงอิงจง เมื่อปี ค.ศ. 1435 ด้วยวัยเพียง 8 ขวบ หวางเจิ้นคนนี้ก็เลยกลายเป็นผู้ชี้ชะตาราชวงศ์หมิง
หมิงอิงจงปล่อยให้การบริหารประเทศตกอยู่ภายใต้ขันที หมิงอิงจงเกรงใจขันทีหวางเจิ้นมากถึงขั้นขี้ขึ้นสมอง ลองนึกถึงสภาพบ้านเมืองที่ถูกบริหารงานด้วยขันทีสมองกะโหลกกะลาปลากระป๋อง สุดแล้วแต่ใครเลียเก่งสอพลอเก่งหรือรูปหล่อเอาใจเก่งถูกใจบิ๊กด้วนหวาง ก็ย่อมได้ดิบได้ดี มีตำแหน่งใหญ่โตโก้หรู ตำแหน่งขึ้นปู๊ดป๊าดเร็วยิ่งกว่ารถไฟเหาะ แต่ความสามารถต่ำเตี้ยหมายังไม่แดก แผ่นดินเลววันเลวคืน
ส่วนขุนนางดีๆ ก็ถูกใส่ร้ายป้ายสีล้วนแล้วสุดแต่จะหาข้อหาต่างๆนาๆ มาปรักปรำ จนเพียงพอที่จะสั่งปลด สั่งย้าย สั่งประหาร หมิงอิงจงยังนั่งยิ้มไม่รู้ว่าแผ่นดินเดือดร้อนมากเพียงใด เพราะมัวแต่ฟังน้ำคำหวานฉ่ำว่าแผ่นดินเป็นสุข ด้วยบารมีของฮ่องเต้ ที่ขันทีหวางเพ็ดทูลทุกวี่วัน
เป็นเหตุให้ชนนอกด่านบุกรุกแผ่นดินจีน มองโกลเผ่าหว่าล่า ได้บุกมาถึงเมืองต้าถง อันเป็นเมืองเอกของมณฑลซานซี เมื่อปี ค.ศ. 1449 ขันทีหวางทราบข่าวที่ทหารแจ้งมา บิ๊กด้วนหวางดีอกดีใจสุดขึ้นงานนี้ฉันต้องปัง เพราะเป็นถิ่นเก่าของตัวเอง จึงเห็นเป็นโอกาสดีที่จะได้แสดงบารมีความยิ่งใหญ่และฝีไม้ลายมือว่า ถึงจะด้วนแต่ก็รบได้นะให้โลกรับรู้ปังปุริเย่
ขันทีหวางทูลให้ฮ่องเต้เป็นจอมทัพออกศึกเอง โดยขันทีหวางจะเป็นเสนาธิการยอดกุนซือนั่งเคียงข้าง กองทัพหมิงจำนวน 5 แสนนายได้เคลื่อนทัพตรงกับวันสาร์ทจีนแหนแห่แตรวงไชโยโห่ฮิ้วดั่งจะออกโรงแสดงลิเก
แต่ไม่เป็นอย่างที่คิดเพราะการออกศึกครั้งนี้ต้องเผชิญกับพายุ ทหารหมิงเปียกโชกมอมแมมย่ำเปอะย่ำโคลนสะบักสะบอมทั้งที่ยังไม่ทันได้ชักดาบออกรบกับศัตรู มีการแบ่งกำลังพลให้เป็นทัพหน้าล่วงไปก่อน
มีนายทหารบางคนเสนอให้เลิกทัพ ขันทีหวางถึงกลับอุ๊ยตายว๊ายกรี๊ด ถ้าฉันชนะกลับไปถึงเมืองหลวงจะสั่งประหารให้หมด กองทัพที่มีขันทีและฮ่องเต้ที่ขาดความรู้ความชำนาญการรบยุทธวิธีตำราพิชัย เรื่องภูมิศาสตร์เรื่องชัยภูมิ จึงเดินหน้าต่อไปตามเวรตามกรรม
ทัพหน้าที่ล่วงไปก่อน ส่งข่าวกลับมาถูกทัพหว่าล่าตีแตกยับเยิน ขันทีหวางก็ยังสั่งการเดินหน้าทำศึกต่อไป และไปตั้งชัยภูมิที่เป็นภูเขา ตามสมองตื้นๆ คิดว่าถ้าฝนตกมาอีกจะได้เปอะเปื้อนอีก ที่ไหนได้กลับกลายเป็นเสียเปรียบพวกหว่าล่า ที่มาล้อมรอบดอยนั้นไว้ ทัพหมิงจึงขาดทั้งน้ำทั้งอาหาร บิ๊กด้วนหวางจึงต้องส่งคนไปเจรจา หว่าล่าแกล้งยอม พอทหารหมิงลงมาจากภูเขาเท่านั้นแหละครับ ธนูลูกดอกก็แล่นไปยังทหารหมิงจนล้มตายปังตามที่หวางเจิ้นหมายปองไว้ ปังพินาศ
ทหารคนหนึ่งเหลืออดเหลือทนที่เห็นเพื่อนร่วมรบต้องมาตายอย่างไร้ค่าเป็นศพไม่มีญาติประกอบกับโมโหหิวจึงโกธรจัด จัดการสังหารบิ๊กด้วนหวางให้รู้แล้วรู้รอดเป็นอันจบชีวิตบัดซบของหวางเจิ้น
ทหารที่เหลือต่างหนีตายกันจ้าละหวั่น บ้างก็หนีจากการเป็นทหารกลับไปบ้านเดิม เพราะไม่อยากเป็นทหารหลวงในยุคที่บ้านเมืองเหลวแหลกหาความเจริญก้าวหน้าไม่ได้ ส่วนหมิงอิงจงตกกะใจเหตุการณ์คับขัน นั่งหน้าเอ๋อเหรอ พวกหว่าล่ากรูเข้ามารู้ว่าเป็นฮ่องเต้จึงจับไปเป็นเชลย หวังใช้เรียกผลประโยชน์จากจีน
ทหารแจ้งข่าวมายังเมืองหลวงว่าหมิงอิงจงฮ่องเต้โง่ถูกจับตัวไปเป็นเชลยแล้ว หว่าล่าน่าจะเรียกค่าประกันตัวจากจีนแพงหูฉี่ ขุนนางอวี๋ย์เชียนจึงได้ตั้ง จูฉีอี้น้องของหมิงอิงจง ซึ่งได้รับมอบให้ดูแลราชการเมืองหลวงช่วงหมิงอิงจงไปออกศึก ขึ้นเป็นฮ่องเต้แทน เมื่อพวกหว่าล่าส่งผู้แทนมาเจรจาเพื่อขอรับผลประโยชน์แลกกับการปล่อยตัวหมิงอิงจง ราชสำนักหมิงจึงตอบปฏิเสธไป เพราะขณะนี้เรามีฮ่องเต้องค์ใหม่แล้ว ส่วนฮ่องเต้องค์เก่าแล้วแต่ท่านว่าจะเลี้ยงดูต่อไปเพื่อเอาบุญหรือจะเอาไปเก็บขี้ม้ากลางทุ่งหญ้าทะเลทรายก็ตามใจ
หนึ่งปีหลังจากถูกจับหมิงอิงจงถูกปล่อยตัวกลับจีน อดีตฮ่องเต้อุตส่าห์หอบสังขารข้ามทะเลทรายกลับเข้าเมืองหลวง หวังว่าน้องชายหมิงไต้จงฮ่องเต้จะคืนทุกอย่างให้ แต่หมิงไต้จงพอทราบข่าวว่าอดีตฮ่องเต้พี่ชายหน้าโง่จะกลับมา จึงสั่งให้ทหารรีบไปคุมตัวและให้นำตัวไปกักขังไว้ท้ายวังให้อยู่ในห้องแคบๆ ส่งข้าวราดผัดกระเพราให้วันละครั้งพอ
เวลาของหมิงอิงจงที่อยู่ในสภาพนักโทษผ่านไป 7 ปี เมื่อหมิงไต้จงนอนพะงาบจะตายวันตายพรุ่งแล้ว เหล่าขุนศึกได้ก่อรัฐประหารรีบไปเชิญหมิงอิงจงมาเป็นฮ่องเต้รอบ 2 เมื่อปี ค.ศ.1457 หมิงอิงจงจึงมีวาสนาได้เป็นฮ่องเต้หุ่นเชิดอีกครั้ง เป็นเวลา 7 ปี
การเป็นฮ่องเต้ทั้ง 2 ครั้ง ไม่ต้องได้ใช้สมองในการบริหารบ้านเมืองเลย เพราะมีคนตัดสินใจและสั่งการให้นับว่าสบายจริงๆ หมิงอิงจงสวรรคตเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1464 รวมอายุ 37 พรรษา ก่อนตายได้สั่งยกเลิกประเพณีการฝังคนทั้งเป็น รัชกาลก่อนหน้านั้นเมื่อฮ่องเต้สวรรคตก็จะโยนนางสนมกำนัล ทหาร บ่าวคนรับใช้ลงหลุมไปด้วย เพื่อไปรับใช้ในโลกหน้า นับว่าหมิงอิงจงก็มีความดีก่อนตายอยู่บ้าง
จักรพรรดิหมิงอิงจง แห่งราชวงศ์หมิง
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
