26 เม.ย. 2022 เวลา 05:34 • กีฬา
อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่นาโป๊ลี
โดย #มิสมาต้า
เคยมีคำกล่าวในวงสนทนาธุรกิจ​เอาไว้ว่า การได้เกิดมาเป็นคนเก่งนั้นอาจเป็นเพราะฟ้ากำหนดมา แต่การได้ตั้งใจพัฒนาตนเองจนกลายเป็นคนที่เก่งกว่าเดิม เป็นเพราะพรสวรรค์​ที่มาในร่างความมุ่งมั่นของเรา
หากแต่ขั้นสุดของคนเก่ง คือการได้เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์​ ไม่เหลิงลมจนลืมพรแสวง และ มีคนที่เก่งกว่าให้ได้ศึกษา​หาความรู้อย่างใกล้ชิด
จิอันฟรังโก​ โซลา​ อดีตนักเตะนาโปลี คือ คนเก่งอย่างหลังที่ชัดเจน
วันที่ โซลา ย้ายความสูงระดับ 1.68 เมตร เข้าไปร่วมทัพนาโปลีชุดที่ดีที่สุดในประวัติศาสต​ร์ เขาได้รับคำกล่าวต้อนรับจากดาวเตะอันดับ​หนึ่ง​ของโลกอย่าน่าประทับใจ​ว่า
"ในที่สุด ฉันก็ไม่ได้เป็นคนที่เตี้ยที่สุดในทีมแล้ว"
โซลา จะพูดถึง ดิเอโก มาราโดนา ให้คนอื่นฟัง​อยู่​เสมอว่า "นี่คือคุณ​ครูของฉัน ฉันกลายเป็นผู้เล่นที่ดีขึ้นได้เพราะได้เรียน​รู้​จากเขา"
โซลา ใช้ทั้งตาดู ใช้ทั้งหูฟัง และ ใช้ทั้งสมองกลั่นกรอง​ เพราะการแค่ได้ยืนดูพระเจ้าแห่งวงการฟุตบอลฝึกซ้อม คนที่ได้ดูก็เก่งขึ้นแล้ว
การฝึกซ้อม​ในแต่ละวันสำหรับคนอื่นจะเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่สำหรับโซลา มันคือการดูภาพยนตร์​ที่ครบรสจนไม่อยากให้มันจบเรื่องเลย
เคยมีคำถามว่า มาราโดนา เป็นคนอย่างไร
โซลา จะตอบทุกครั้งว่า เป็นคนที่ดีที่สุดคนหนึ่ง และ เป็นนักฟุตบอล​ที่ดีที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยมีมา ที่สำคัญมาก​ที่สุดก็คือ มาราโดนาไม่เคยทำร้ายใครนอกจากตัวของเขาเอง
มาราโดนา คือ อัจฉริยะ​ เขาเป็นอัจฉริยะ​ที่ไม่เคยคุยโตโอ้อวด ไม่เคยลงสนามไปทำทีดูหมิ่นคู่แข่งด้วยการเล่นแบบหยามเกียรติ​เพื่อนร่วมอาชีพ
หากมีใครพยายามไล่อัดเขาให้หมอบ เขาจะแค่ใช้ความสามารถที่มีทำให้คู่แข่งคนนั้นเลิกความคิดนั้นซะ และ ตามมาจับมือหลังจบเกมเพื่อบอกว่าฉันรักนาย
เมื่อถูกถามถึงเรื่องเทาๆ นอกสนาม โซลาจะบอกเสมอว่าคนอื่นอาจมอง มาราโดนา ด้วยสายตา และ ความรู้สึก​ที่แตกต่างกันไป แต่สำหรับเขา และ ชาวเมืองนาโปลีทุกคน ที่แม้บางคนอาจจะไม่ได้ชอบฟุตบอล​มากนัก มาราโดนา คือ พระเจ้า ชื่อใหม่ของสนามซานเปาโลเป็นสิ่งยืนยัน​ความรักของชาวเมืองได้เป็น​อย่างดี
::
ความเป็นครูของ มาราโดนา ส่งต่ออิทธิพล​ในการเล่นมาให้ โซลา ชนิด คัดลอกกันมาทั้งดุ้น แต่ โซลา ยอมรับอย่างยินดีว่าฝีเท้าของตนเองไม่ได้สักครึ่งนึง​ของพรสวรรค์​ของคุณครูคนนั้น
ทั้งคู่ไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมทีม ไม่ใช่แค่ศิษย์​กับครู แต่ความสัมพันธ์​ของ​ทั้งคู่เข้าขั้นพี่น้องร่วมสาบานในความรู้สึก​ของคนเป็นศิษย์
“ดิเอโก เป็นเหมือนพี่ชายของฉัน เขาสอนฉันมากมาย​หลายเรื่อง ทั้งฟุตบอล การใช้ชีวิต และ ด้านมืดบางเรื่องที่ฉันไม่เคยรู้จัก ซึ่งฉันจะไม่มีวันลืมเรื่องของเขาเลย
การตายของเขาส่งผลกระทบที่รุนแรงมาก ใช่ ฉันได้รับรู้เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ของเขามาตลอด แต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่าในวันนึงเขาจะตายจากไป เขาจากไปโดยที่ฉันไม่ทันได้ตั้งตัว"
ถ้า มาราโดนา คืออัจฉริยะ​ที่สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของความเป็นสุดยอดนักเตะ การเรียนรู้​จาก มาราโดนา ก็ทำให้ โซลา ก้าวข้ามขีดความสามารถ​ของตนเอง​ได้เช่นกัน
"ถ้าฉันไม่ได้เจอเขา ฉันคงเป็นได้แค่นักฟุตบอล​ที่ดี หนึ่งปีกับการได้ใช้ชีวิต​ร่วมทีมกับเขาทำให้ฉันเปลี่ยน​แปลงไปอย่างสิ้นเชิง
ฉันไม่ได้บอกว่าฉันเป็นนักเตะที่ไม่ดี หรือ ฉันจะไม่ดีถ้าไม่เจอเขา แต่ถ้าฉันไม่ได้เรียนรู้​จากอัจฉริยะ​อย่างเขา ฉันจะไม่ดีขนาดนี้
ฉันได้คุยกับอดีตเพื่อน​ร่วม​ทีม​อย่าง ชิโร แฟร์รารา กับ กาเรกา พวกเราต่างเจ็บปวดกับการจากไปของเขา
สิ่งเดียวที่ทำให้พวกเรารู้สึดว่าเจาไม่ได้จากไปไหนไกล นั่นก็คือการคิดถึงเสียงหัวเราะในเวลาฝึกซ้อม ชัยชนะ การพ่ายแพ้ที่นานๆ จะเกิดขึ้น และ ทึกความยอดเยี่ยม​ของเขาที่นังคงชัดเจนในใจพวกเรา
การตายของเขายังทำให้ฉันนึกไปถึงความเป็นอัจฉริยะ​ในสนามของ พอล แกสคอยน์​ หรือ จอร์จ​ เบสต์​ ที่มีความสุดยอดอันยิ่งใหญ่​เวลาสวมชุดแข่ง แต่กลับเปราะบางในสนามชีวิต"
ในการเป็นนักเรียนนักศึกษา​ ใบประกาศ​นียบัตร หรือ ใบปริญญา​ คือเครื่องยืนยันความสำเร็จ​ในการเรียน
แต่การได้เล่นเคียงข้าง มาราโดนา คือ การเรียนจบอย่างสมบูรณ์แบบ​โดยที่ไม่ต้องมีหลักฐาน​มายืนยัน
เพราะต่อให้คุณ​ให้คุณ​เป็นผู้เล่นดาดๆ เขาจะทำให้คุณเป็นฟันเฟืองที่ทีมขาเไม่ได้ จนเป็นอันตราย​ต่อคู่แข่งในแบบที่คุณเองก็คาดไม่ถึงเลย
#PlayNowThailand #khelnow #football​
โฆษณา