Swappie บริษัทขาย iPhone มือสอง ระดมทุนได้พันล้าน
บริษัท Apple เป็นบริษัทใหญ่สุดในโลก
แต่บริษัทนี้เอาสินค้ามือสองของ Apple มาขาย ทำให้เป็นบริษัทที่โตเร็วสุดในยุโรป
“Swappie” เป็นบริษัทซื้อขายสมาร์ตโฟนมือสอง ที่สามารถระดมทุนได้พันล้านบาท และมียอดขายมากถึงปีละ 3,600 ล้านบาท
จนกลายเป็นบริษัทที่โตเร็วสุดในยุโรปในปีที่ผ่านมา
แล้ว Swappie มีโมเดลธุรกิจ อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ เกิดขึ้นภายหลังจากเหตุการณ์ที่คุณ Sami Marttinen เคยซื้อสมาร์ตโฟนมือสองจากอินเทอร์เน็ต แต่ถูกโกง เพราะสมาร์ตโฟนที่ได้รับมานั้น ถูกย้อมแมว คุณภาพก็ไม่ได้มาตรฐาน
จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้คุณ Marttinen เกิดความคิดอยากจะก่อตั้งบริษัทซื้อขายสมาร์ตโฟนมือสอง ที่มีคุณภาพดีและมีความน่าเชื่อถือขึ้น
Swappie จึงได้ถูกก่อตั้งขึ้นมา ในปี 2016 ที่เฮลซิงกิ เมืองหลวงของประเทศฟินแลนด์
โดยมีคุณ Sami Marttinen และคุณ Jiri Heinonen ผู้ร่วมก่อตั้งอีกคน
ด้วยความตั้งใจว่าจะทำให้ตลาดสมาร์ตโฟนมือสอง เป็นสินค้าที่ผู้คนซื้อขายกันอย่างปกติ ไม่ต่างกับตลาดรถยนต์มือสอง
โดยรูปแบบธุรกิจของ Swappie ก็ไม่ได้ซับซ้อน นั่นก็คือรับซื้อ iPhone มือสอง
จากนั้นก็นำไปซ่อมแซมและตกแต่ง ทั้งสภาพภายนอกและฟังก์ชันภายใน
หรือที่เรียกว่า “เครื่อง Refurbished” และสุดท้ายคือนำไปโพสต์ขายบน Marketplace ของตัวเอง
สำหรับ iPhone ที่ขายผ่าน Swappie ก็มีหลากหลายราคาแตกต่างกันไปตามรุ่น ความจุ และสภาพของตัวเครื่อง
ไล่ตั้งแต่ iPhone 7 สภาพปานกลาง ที่มีราคา 5 พันบาท
ไปจนถึง iPhone 13 Pro Max ความจุ 1TB สภาพเหมือนใหม่ ที่มีราคา 6 หมื่นบาท
หนึ่งในจุดเด่นของ Swappie นั้น อยู่ที่การโฟกัสเฉพาะ iPhone เท่านั้น
รวมทั้งใช้เครื่องมือเครื่องจักรที่มีคุณภาพสูงและช่างผู้เชี่ยวชาญ
ทำให้ Swappie สามารถซ่อม iPhone ได้แทบจะทุกสภาพ
โดย Swappie นั้นเชื่อมั่นว่า ไม่มีบริษัทไหนที่สามารถซ่อม iPhone ได้ดีเท่าที่ตัวเองทำอีกแล้ว
นอกจากความเชี่ยวชาญในการซ่อมแล้ว Swappie ยังมีบริการตรวจเช็กคุณภาพ
หลังการซ่อมอย่างละเอียดอีก 52 ขั้นตอน รวมถึงมีการรับประกันให้อีก 12 เดือน
ด้วยโมเดลธุรกิจครบวงจรของ Swappie ทำให้บริษัทได้รับความนิยม โดยสามารถดูได้จากคะแนนในระดับ Excellence ตามเว็บไซต์รีวิวสินค้า ทำให้ลูกค้าที่ซื้อ iPhone จาก Swappie ประทับใจและแนะนำกันแบบปากต่อปาก
เรามาดูกันว่ารายได้ของ Swappie นั้นเติบโตขนาดไหน ?
ปี 2017 รายได้ 18 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 295 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 1,100 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 3,600 ล้านบาท
เท่ากับว่ารายได้ของ Swappie เติบโตขึ้น 190 เท่า ภายในระยะเวลาแค่ 3 ปี จากการขาย iPhone Refurbished รวมแล้วมากกว่า 1 ล้านเครื่อง
จนบริษัทได้รับการจัดอันดับจากเว็บไซต์ Financial Times สื่อทางด้านการเงิน ให้เป็นบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดในยุโรป ประจำปี 2022 ซึ่งวัดรายได้ในปี 2020 เทียบกับปี 2017
ในปี 2020 Swappie ได้รับเงินจากการระดมทุนมูลค่า 1,300 ล้านบาท โดยทางบริษัทได้นำไปเปิดโรงงานเพิ่มในประเทศเอสโตเนีย
จากเดิมที่มีเพียงในประเทศฟินแลนด์ และขยายบริการจนครอบคลุมถึง 15 ประเทศทั่วยุโรป โดยมีเป้าหมายในการเป็นเบอร์หนึ่งของยุโรปด้านธุรกิจสมาร์ตโฟนมือสอง
และในปี 2021 ที่ผ่านมาก็สามารถระดมทุนเพิ่มได้อีก 4,000 ล้านบาท โดยคราวนี้จะมุ่งเน้นไปที่การทำการตลาด และการสร้างการรับรู้ให้กับคนทั่วโลก เกี่ยวกับการใช้สมาร์ตโฟนมือสอง
นอกจากนั้น Swappie ก็วางแผนจะขยายตลาดไปยังสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ อีกด้วย
เมื่อรวมกับการระดมทุนในช่วงเริ่มต้นกิจการด้วยแล้ว Swappie สามารถระดมทุนไปได้แล้วกว่า 5,700 ล้านบาท
นอกจากโอกาสในการเติบโตแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ Swappie เป็นที่น่าสนใจในสายตาของนักลงทุนก็คือ เรื่องของความยั่งยืนทางด้านสิ่งแวดล้อม
มีงานวิจัยบอกว่า ในปี 2022 สมาร์ตโฟนถือเป็นสินค้าที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ถึง 146 ล้านตัน
ซึ่ง 83% นั้นมาจากกระบวนการผลิต การขนส่ง และการใช้งานในปีแรก
งานวิจัยยังบอกอีกว่า ถ้าหากผู้คนยืดอายุการใช้งานสมาร์ตโฟนไปอีก 1 ปี
ก็จะสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 2 ล้านตัน
แน่นอนว่าการซื้อสมาร์ตโฟนมือสองมาใช้ ก็ถือเป็นหนึ่งในวิธีรักษ์โลกเช่นกัน
สำหรับตลาดของสมาร์ตโฟนในยุโรปนั้น มีมูลค่าสูงถึง 3.7 ล้านล้านบาท
แต่ในจำนวนนั้น เป็นสมาร์ตโฟนมือสองเพียงแค่ 10% เท่านั้น
โดยคุณ Marttinen มีความคิดว่าอยากจะให้สมาร์ตโฟนมือสอง
กลายเป็นสินค้าที่คนซื้อขายกันอย่างแพร่หลายมากกว่านี้
เพราะถ้าเทียบกับตลาดรถยนต์แล้ว สัดส่วนรถยนต์มือสองอาจสูงถึง 50% เลยทีเดียว
นอกจากนั้นก็มีการประเมินว่า ตลาดสมาร์ตโฟนมือสอง จะเติบโตในระดับ 10% ต่อปี ไปจนถึงปี 2027
นั่นก็แปลว่าตลาดนี้ยังเติบโตได้อีกมาก
จากเรื่องนี้เราจะเห็นได้ว่า การนำสมาร์ตโฟนมาซ่อมและตกแต่ง หรือที่เรียกว่าเครื่อง Refurbished นั้น ความจริงแล้วไม่ใช่เรื่องใหม่ ซึ่งเราเองก็สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในประเทศไทย
แต่สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของ Swappie นั่นก็คือ การโฟกัสเฉพาะสินค้า
ใช้ความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยี เพื่อซ่อมแซมและส่งมอบสินค้าให้ได้ตามมาตรฐาน
และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหัวใจสำคัญของธุรกิจสินค้ามือสองนั้น ก็คือ ความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ ที่จะทำให้ผู้บริโภคเชื่อใจและกล้าที่จะตัดสินใจซื้อ
สุดท้ายเมื่อลูกค้าประทับใจ ก็จะนำไปบอกต่อแบบปากต่อปาก และกลายเป็นบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดในยุโรปได้ นั่นเอง..
- 44
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
