27 เม.ย. 2022 เวลา 04:45 • ประวัติศาสตร์
“ดาบเอกซ์แคลิเบอร์ (Excalibur)” หรือ “ดาบในศิลา (Sword in the Stone)”
ที่เมือง Chiusdino ประเทศอิตาลี มีเทวสถานซึ่งเก็บรักษาวัตถุโบราณชิ้นหนึ่ง
เมื่อมองเผินๆ วัตถุโบราณในเทวสถานนี้ก็ดูปกติทั่วๆ ไป หากแต่เมื่อดูดีๆ จะพบว่านี่เป็นวัตถุที่น่าสนใจ และสร้างความพิศวงให้นักวิทยาศาสตร์และนักประวัติศาสตร์มาเป็นเวลานาน
วัตถุชิ้นนี้ คือดาบที่เสียบติดกับศิลา โดยดาบนั้นก็ดูเก่าแก่ เสียบติดกับศิลา เหลือเพียงแค่ด้ามเท่านั้นที่โผล่พ้นออกมา
วัตถุชิ้นนี้ถูกเก็บรักษาโดยมีกระจกห่อหุ้ม และหลายคนที่เห็น ก็คิดว่ามันคือดาบจำลอง เลียนแบบ “ดาบเอกซ์แคลิเบอร์ (Excalibur)” หรือ “ดาบในศิลา (Sword in the Stone)”
แต่ที่น่าสนใจก็คือ ดาบนี้คือของจริง ไม่ใช่ของจำลอง
ที่ผ่านมา ผู้คนคิดว่าดาบที่เห็นนี้คือของปลอม เทวสถานในยุคกลางหลายๆ แห่งก็เก็บรักษาวัตถุศักดิ์สิทธิ์หลายอย่าง แต่จากการตรวจสอบในภายหลัง ก็พบว่ามันเป็นของปลอม
แต่จากการตรวจสอบในปีค.ศ.2001 (พ.ศ.2544) ก็พบว่าดาบนี้เป็นของจริง
จากองค์ประกอบของดาบ ฝีมือการตีดาบ และอายุของดาบ ทำให้คะเนได้ว่านี่เป็นดาบตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 ซึ่งตรงกับเวลาตามตำนาน
แต่ก็มีคำถามว่าหากดาบนี้เป็นของจริง แล้วมันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? นั่นเป็นคำถามชวนสงสัยมาตั้งแต่ปีค.ศ.2001 (พ.ศ.2544)
ดาบนี้ก็ติดแน่นอยู่กับศิลาจริงๆ และการจะทำเลียนแบบก็เป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะในศตวรรษที่ 12 ซึ่งเทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้าดังเช่นทุกวันนี้
1
ส่วนเรื่องราวในตำนานนั้น ในบริเวณที่เก็บดาบนี้ สมัยศตวรรษที่ 12 เป็นสถานที่อาศัยของชายที่ชื่อ “กัลกาโน (Galgano)” ซึ่งเป็นลูกชายของลอร์ดท่านหนึ่งในบริเวณนี้
กัลกาโนมีนิสัยเย่อหยิ่งและเห็นแก่ตัว ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายด้วยทรัพย์สมบัติของผู้เป็นบิดา
กัลกาโน (Galgano)
ตามตำนานนั้น ในวันหนึ่ง “อัครทูตสวรรค์มีคาเอล (Michael the archangel)” ได้ปรากฎต่อหน้ากัลกาโน และบอกแก่กัลกาโนว่าพระเจ้าได้สั่งให้กัลกาโนสละทรัพย์สมบัติ และใช้ชีวิตอย่างสมถะ
การใช้ชีวิตอย่างสมถะและยากจนจะทำให้พระเจ้าพอใจ หากแต่กัลกาโนก็โต้ตอบอย่างเผ็ดร้อน โดยได้กล่าวว่าให้ตนแทงดาบเข้าไปในศิลา ยังจะง่ายกว่าให้ตนสละทรัพย์สมบัติและความสุขสบาย
กัลกาโนได้ลองแทงดาบเข้าไปในศิลา แต่ปรากฎว่าดาบนั้นเสียบเข้าไปในศิลาอย่างง่ายดาย และติดอยู่อย่างนั้น
อัครทูตสวรรค์มีคาเอล (Michael the archangel)
เมื่อเป็นอย่างนี้ กัลกาโนจึงยอมสละทรัพย์สมบัติ และใช้ชีวิตเป็นฤาษีอยู่ในป่า คอยแสดงธรรมให้แก่นักเดินทางและผู้แสวงบุญ
ด้วยพฤติกรรมที่ดีของกัลกาโนและปาฏิหาริย์ที่เกิดจากดาบ กัลกาโนจึงได้รับการยกย่องให้เป็นนักบุญ
หลายคนเชื่อว่าดาบนี้เป็นที่มาของ “ดาบเอกซ์แคลิเบอร์ (Excalibur)” ซึ่งเป็นดาบในตำนานของกษัตริย์อาร์เทอร์ (King Arthur) เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกันหลายส่วน หากแต่เป็นในด้านตรงข้าม
ตามตำนาน กษัตริย์อาร์เทอร์ดึงหินออกจากศิลา แต่กัลกาโนเสียบดาบเข้าไปในศิลา กษัตริย์อาร์เทอร์ได้รับพลังอำนาจจากดาบ แต่กัลกาโลสูญเสียอำนาจและความมั่งคั่ง เหล่านี้เป็นต้น
กษัตริย์อาร์เทอร์ (King Arthur)
จะเห็นได้ว่าเรื่องราวของกัลกาโนกับเรื่องของกษัตริย์อาร์เทอร์มีความคล้ายคลึงกัน โดยนักประวัติศาสตร์บางรายก็เชื่อว่าตำนานดาบในศิลานี้ มีที่มาจากข่าวลือและเรื่องเล่าจากนักเดินทาง ซึ่งได้รับฟังเรื่องราวของดาบวิเศษ
ในยุคนั้น ดินแดนที่ได้ชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ย่อมเป็นที่สนใจและหลายคนต้องการมาเยือน จึงเป็นไปได้ที่ผู้แสวงบุญอาจจะเห็นดาบนี้ และนำเรื่องราวของดาบกลับไปเล่าต่อที่อังกฤษ
จากเรื่องราวนี้ อาจสรุปได้ว่าดาบของกัลกาโนคือของจริง ปักอยู่ในศิลาจริงๆ ที่อิตาลี มีความคล้ายคลึงกับดาบในตำนาน หากแต่เรื่องราว ที่มานั้นต่างออกไป
บริเวณข้างใต้ดาบนั้น ยังพบห้องที่เก็บกระดูกซึ่งเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 เท่ากับว่าหากมีคนทำดาบปลอม ก็ต้องทำตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12
สำหรับชาวคริสต์ นี่คือดาบศักดิ์สิทธิ์ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร นี่ก็เป็นดาบที่เก่าแก่และเก็บงำเรื่องราวมากมายไว้จริงๆ
โฆษณา