ราคาก๊าซในยุโรป พุ่งขึ้น 17% ทันที หลังรัสเซีย หยุดส่งก๊าซให้โปแลนด์ และบัลแกเรีย
ล่าสุด ราคาก๊าซในยุโรป พุ่งขึ้นกว่า 17% หลังจากที่รัสเซีย ประกาศหยุดส่งก๊าซให้กับประเทศโปแลนด์ และบัลแกเรีย เพราะว่าทั้ง 2 ประเทศ ไม่ยอมจ่ายเงินค่าก๊าซด้วยสกุลเงินรูเบิลรัสเซีย
ทั้งนี้ บริษัทพลังงานในรัสเซียที่ทำหน้าที่ส่งก๊าซคือ Gazprom บริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซีย ที่มีมูลค่าบริษัทกว่า 2.4 ล้านล้านบาท และมีเจ้าของคือรัฐบาลรัสเซีย
โดยการตัดสินใจหยุดส่งก๊าซในครั้งนี้ของรัสเซีย นับเป็นครั้งแรกหลังจากที่ วลาดีมีร์ ปูติน เคยพูดไว้เมื่อเดือนก่อนว่า
“คู่ค้าต่างชาติที่ไม่เป็นมิตรกับรัสเซีย จะต้องจ่ายเงินให้กับ Gazprom ด้วยสกุลเงินรูเบิล ไม่ใช่สกุลเงินอื่น ๆ ”
ซึ่งประเทศในยุโรปส่วนใหญ่ก็นำเข้าก๊าซจากรัสเซีย เพื่อนำไปใช้ในภาคครัวเรือน, จ่ายกระแสไฟฟ้า และอุตสาหกรรมเชื้อเพลิง และแน่นอนว่าก๊าซเป็นสิ่งจำเป็น ที่แม้แต่ในช่วงภาวะสงครามก็ต้องนำเข้าอยู่ดี
โดยจากข้อมูลพบว่ากว่า 60% ของประเทศผู้นำเข้าก๊าซจ่ายเงินด้วยสกุลเงินยูโร ที่เหลือจะเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
ดังนั้น การที่ปูติน ออกมาพูดแบบนี้ ก็คือการบังคับให้ประเทศคู่ค้าจะต้องซื้อด้วยเงินรูเบิลเพื่อหนุนค่าเงินของรัสเซีย ท่ามกลางภาวะความขัดแย้งระหว่างประเทศนี้
แน่นอนว่าผู้นำในยุโรปบอกว่า “จะไม่ทำตาม” ที่ปูตินเรียกร้อง
โดยทางประเทศบัลแกเรีย บอกว่ากำลังทำงานร่วมกับบริษัทก๊าซในประเทศ เพื่อหาแหล่งก๊าซทางเลือกใหม่ มาทดแทนแหล่งเดิมที่ได้จากรัสเซีย ซึ่งคิดเป็นปริมาณนำเข้ากว่า 90% เลยทีเดียว
ส่วนทางโปแลนด์ ไม่เพียงแต่ปฏิเสธที่จะไม่จ่ายค่าก๊าซด้วยสกุลเงินรูเบิล แต่ยังมีจุดยืนที่ชัดเจนว่าจะสนับสนุนเพื่อนบ้านอย่างยูเครน ระหว่างที่กำลังเผชิญหน้ากับสงคราม
ซึ่งทำให้โปแลนด์ พอจะรู้อยู่แล้วว่ารัสเซียจะเดินท่าไหน และสามารถเตรียมการรับมือได้ทัน
คุณ Anna Moskwa รัฐมนตรีกระทรวงภูมิอากาศของโปแลนด์ กล่าวว่า โปแลนด์ได้เตรียมการสำหรับสถานการณ์นี้แล้ว หลังจากการทำงานหลายปี เพื่อพยายามลดการพึ่งพาก๊าซจากรัสเซีย
แล้วเธอยังบอกอีกว่า “จะไม่มีปัญหาจากการขาดแคลนก๊าซในครัวเรือนโปแลนด์เกิดขึ้น”
ก็ต้องรอดูต่อไปว่า หากว่าทั้ง 2 ประเทศ ที่รัสเซียคว่ำบาตรพลังงาน เพื่อข่มขู่ประเทศอื่น ๆ ในยุโรป
สามารถลุกขึ้นมายืนด้วยตัวเองได้ รัสเซียจะเดินเกมอย่างไรต่อไป..
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
