27 เม.ย. 2022 เวลา 06:28 • หนังสือ
เป็นเด็กดีนะ (Review + Spoil)
เรื่องเล่าที่มาจากเรื่องจริง เป็นสิ่งที่เปี่ยมพลัง ทั้งในอารมณ์ ความรู้สึก ประสบการณ์
ยิ่งถ้ามีดราม่า ความรัก กุ๊กกิ๊ก หรือแนวทางการสู้ชีวิต สร้างธุรกิจด้วยแล้ว จะยิ่งน่าสนใจ
และส่งพลังถึงคนอ่านได้แรงมาก หมายถึงอ่านแล้วได้แรงบันดาลใจ มีกำลังใจ ได้เทคนิคดี ๆ ที่มาจากการลงมือทำจริง ๆ
เช่นนิยายเรื่องนี้ "เป็นเด็กดีนะ"
1
เรื่องเล่าจากประสบการณ์ชีวิต การเดินทาง ท่องเที่ยว การทำงาน ที่นำมาถ่ายทอดเป็นงานเขียนแนวนี้ ผู้เขียนชอบมากค่ะ ชอบการเล่าเรื่องของเขา คือเล่าได้สนุกมาก น่าติดตาม จะบอกว่า เหมือนเราแอบอ่านไดอารี่ของเขา หรือนี่คือนิยายที่ดีมาก ๆ เล่มหนึ่งเลยก็ว่าได้ แต่เป็นนิยายที่มาจากชีวิตจริง ของ"ต้าปิง"
1
ต้าปิงเป็นใคร ทำไมเรื่องราวประสบการณ์ในการใช้ชีวิตของเขาถึงน่าสนใจ และได้รับการตีพิมพ์ รวมถึงมีสำนักพิมพ์นำมาแปลเป็นภาษาไทย ไม่ธรรมดาแน่นอนผู้ชายคนนี้ !!!
1
เครดิต : https://youtu.be/wXEyeQ07k7Q
ต้าปิง : เป็นพิธีกรของโทรทัศน์ดาวเทียมช่องหนึ่ง
: เป็นอาจารย์ของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง
: เป็นนักร้องเพลงโฟล์ก
: เป็นนักเดินทางแบกเป้วัยชรา
: เป็นเจ้าของบาร์เหล้าที่ทำงานไม่เอาถ่าน
: เป็นจิตรกรสีน้ำมันที่จบโรงเรียนอาชีวะ
: เป็นมือกลอง
: เป็นช่างหนังสือสมัครเล่น
: เป็นช่างเงินมือสมัครเล่น
: เป็นกวีมือสมัครเล่น
: เป็นนักพเนจรระดับอาวุโสประจำทิเบต
: เป็นนักเลงระดับอาวุโสประจำลี่เจียง
: เป็นผู้ชายที่หันซ้ายเวลาถ่ายรูป
: เป็นศิษย์ภิกษุนิกายเซนสายหลินจี้
ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ซินหลางเวยป๋อ
2
นักเดินทาง
ปกติเวลาเห็นคำว่า ท่องเที่ยว เดินทาง แบกเป้ คนเรามักจะคาดหวังว่า จะต้องได้อ่านงานที่พรรณาถึงวิวทิวทัศน์ ของธรรมชาติที่สวยงาม ใช่ไหมคะ
1
ในหนังสือเล่มนี้เขาไม่พูดถึงเรื่องเหล่านั้นเลย !
แต่พิเศษกว่านั้น เพราะต้าปิงจะพาเราไปพบความงามที่อยู่ข้างในหัวใจ ในคำว่ามิตรภาพ น้ำใจ ไมตรีจิต ของผู้คนที่เขาได้พบเจอในระหว่างการออกเดินทางไปพเนจร แบกเป้ ท่องเที่ยว
1
นี่คืออีกหนึ่งความหมายของคำว่า "ใช้ชีวิต"
1
เรื่องราวความจริงจากต้าปิงในหนังสือเล่มนี้ มีทั้งหมด 12 เรื่อง
1 เป็นเด็กดีนะ
: เป็นเรื่องราวมิตรภาพระหว่างต้าปิงกับจ๋าเฉาหมิ่น มีทั้งหมดห้าตอน
ต้าปิงเล่าย้อนไปเมื่อสิบปีก่อน ตอนนั้นเขาทำงานที่สถานีโทรทัศน์เดียวกัน เธอนับถือเขาเป็นพี่ กึ่งอาจารย์ที่คอยช่วยสอนงาน เธอมักจะคอยดูแลเขาทุกอย่างเป็นการตอบแทน ไม่ว่าจะเป็นเก็บกวาดทำความสะอาดบ้าน ดูแลหมา ดูแลต้าปิงตอนที่ต้องผ่าตัดนอนเจ็บอยู่ในโรงพยาบาล
ซึ่งใช้เวลาครึ่งปีกว่าจะหายดี ก็มีแต่จ๋าเฉาหมิ่นคนนี้แหละที่คอยดูแลเขา วิ่งเข้าวิ่งออกโรงพยาบาล ทั้งยังลางาน โดดงาน เพื่อมาส่งข้าวส่งน้ำให้เขา และยังช่วยออกค่ารักษาส่วนหนึ่งให้เขาอีกด้วย
3
เขาไว้ใจเธอขนาดเวลาที่เขาออกเดินทางไปดูแลบาร์ที่เมืองลาซา ซึ่งบางครั้งครึ่งเดือน บางครั้งก็สามเดือน เขาจะฝากของมีค่าทั้งหมดไว้กับเธอ เช่นกุญแจ เงินสด บัตรธนาคารต่าง ๆ รวมทั้งฝากเลี้ยงหมาด้วย และเธอยังช่วยจัดการส่งเงินให้พ่อแม่ของต้าปิง รวมถึงจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ทุกอย่างแทนเขาด้วย
2
"คำพูดบางอย่าง สมัยหนุ่มสาวยากจะหลุดออกจากปาก กว่าจะรวบรวมความกล้าพูดออกมาได้ ก็อายุเข้าวัยกลางคนเสียแล้ว ทั้งยังอยู่ห่างไกลกันคนละฟ้า .."
1
(ความเห็นส่วนตัว) ขอคั่นบทนี้สักครู่ค่ะ คืออ่านเรื่องราวในบทนี้บทเดียวก็คุ้มแล้ว อ่านแล้วคิดเห็นภาพหนังรักโรแมนติกดี ๆ เรื่องหนึ่ง แล้วก็บทนางเอกคือรักแรก รักบริสุทธิ์ รักเทิดทูน บูชา ศรัทธา เหมือนหลงรักไอดอล น่าสงสารจ๋าเฉาหมิ่น มาก ๆ รักที่ไม่อาจครอบครอง ไม่สามารถเป็นเจ้าของ ทำได้แค่รักและดูแลกัน
3
ต้าปิงในตอนนั้นเป็นอะไรก็ไม่รู้ ก็รักกัน ก็เป็นโสด ก็ดูแลกัน แต่ก็ใจร้ายกับน้อง ไม่ยอมเป็นแฟนกัน และกว่าจะรู้ใจตัวเอง ก็พูดได้แค่คำว่า "เป็นเด็กดีนะ"
โอ้ยยยยย เจ็บแทนค่ะคุณ รักนะ แต่ !!!!
2
ปล. ตอนนี้จ๋าเฉาหมิ่นมีครอบครัวที่อบอุ่นมีความสุขดีค่ะ
1
2 แค่เหล้าชามหนึ่ง ความเหนื่อยหายเป็นปลิดทิ้ง :
มีทั้งหมดหกตอน เป็นเรื่องราวของมิตรภาพ (ในหนังสือเล่มนี้ ต้าปิงใช้คำว่า "ไมตรีจิต") ระหว่างต้าปิง และทหารเฒ่า สหายต่างวัยที่ร่วมร่ำสุรากันมาช้านาน ที่ลี่เจียง
นักเดินทาง
ต้าปิงเล่าเรื่องได้เก่งจริง ๆ ค่ะทุกคน สนุก ตื่นเต้น มีลูกเล่น รู้ว่าจะต้องหยิบเรื่องไหนมาเชื่อม มาผูกให้น่าสนใจ มีสเน่ห์มาก ๆ มีคำถาม สร้างความอยากรู้อยากเห็นให้เราตามอ่านไปจนจบตอน
ตอนแรกผู้เขียนว่าจะข้ามตอนนี้ไปนะคะ คิดว่าเกี่ยวกับทหารเฒ่า คงจะไม่มีอะไรให้สนใจ แต่พออ่านไปเรื่อย ๆ ประทับใจในมิตรภาพ ซาบซึ้งใจในสิ่งที่พวกเขาทำ จนต้องเสียน้ำตาให้กับเหตุการณ์เหล่านั้น
ต้าปิงใช้คำว่า "ทหารเฒ่า" แต่เนื้อหาข้างในตอนนี้ เขากำลังพูดถึง "วีรบุรุษ" ที่มีชีวิตรอดมาจากสงครามเวียดนาม และคุณงามความดี สิ่งที่เขาตั้งใจทำ แม้ตอนแรกต้าปิงจะเข้าใจผิด เกือบสูญเสียมิตรภาพไปแล้ว แต่เมื่อความจริงปรากฎ ทหารเฒ่าคือเดอะฮีโร่ อ่านแล้วร้องไห้ คือซาบซึ้งใจ มันอิน มันทัชค่ะคุณ
ขอบคุณเรื่องราวดี ๆ ที่พวกเขาได้ร่วมกันสร้าง และต้าปิงก็ถ่ายทอดออกมาได้สวยงามจริง ๆ
ปล. ทหารเฒ่าที่ต้าปิงกล่าวถึงคือผู้ที่มอบทรัพย์สินทั้งหมดจากการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของเขา เพื่อสร้างทีมช่วยเหลือหน่วยดับเพลิง ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง
1
เป็นหน่วยดับเพลิงเพียงหนึ่งเดียวของประเทศจีน ที่ก่อตั้งด้วยทุนส่วนบุคคล
1
แกใช้วิธีของแกเองเพื่อช่วยปกป้องโลกนี้
"ซื่อและเถรตรง เหมือเสาธงโบราณ ตั้งตระหง่าน อยู่ในช่วงเวลาแห่งอดีตเสมอ" : ต้าปิง
ตอนแรกต้าปิงเข้าใจทหารเฒ่าผิด จนไม่มาสวัสดีปีใหม่แกเลยละ ซึ่งท่านผู้เฒ่าก็ไม่ได้ถือสาอะไร ต้าปิงคิดว่าคนที่ผ่านสงครามมาอย่างแกจะละโมบ โลภมาก เห็นแก่เงิน ทำธุรกิจได้เงินมากมาย คงจะย้ายหนีไปอยู่ที่อื่นแน่ ๆ พอถึงวันนัดดื่มสุรา ในเดือนสิงหาคม เมื่อเมาได้ที่ต้าปิงก็อ้อนวอนแกว่า "อย่าทิ้งที่นี่ไปเลยนะ" นั่นแหละต้าปิงถึงได้รับรู้ความจริงในสิ่งที่ทหารเฒ่าตั้งใจทำธุรกิจอสังหา ก็เพื่อนำเงินมาสร้างหน่วยดับเพลิง
เรื่องราวน่าประทับใจจริง ๆ ค่ะ
3 ขอโทษ :
เป็นเรื่องของความสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก และความรักต่างสายพันธุ์ระหว่างคนกับหมาจรจัด
ปรัชญาชีวิตมาเต็มค่ะตอนนี้ มุมมอง ความคิด ทัศนคติที่ต้าปิงแบ่งปันในตอนนี้คือดีงาม ทรงพลัง ดึงใจให้หยุดคิด
ทั้งเศร้า สะเทือนใจ สะท้อนสังคม
1
"ไม่ว่าจะติดค้างคนอื่น หรือติดค้างตนเอง คุณเคยติดค้าง "คำขอโทษ" มาแล้วกี่ครั้ง
2
เวลาไร้ความปราณีเสมอเวลาไม่สนว่าเรายังเป็นเพียงเด็กคนหนึ่งหรือไม่
หากเราช้าไปเพียงนิดเดียว
หากเราลังเลแม้เพียงนิดเดียว
เวลาจะเลือกจุดจบของเรื่องราวให้เราทันที
เวลาจะเปลี่ยนคำขอโทษที่ยังติดค้างอยู่ เป็นสิ่งที่ไม่มีวันย้อนกลับมาได้
เวลาจะเปลี่ยนคำขอโทษทั้งหลายเหล่านั้นเป็นสิ่งที่สายเกินแก้ไข" : ต้าปิง
3
พออ่านมาถึงประโยคนี้ ผู้เขียนขอกล่าวคำว่า "ขอโทษค่ะ" หากได้เคยล่วงเกินผู้อ่านด้วยถ้อยคำ หรือประโยคใด ที่ทำให้ระคายเคือง ขอโทษจริง ๆ"
1
4 เพื่อนธรรมดา :
เป็นเรื่องราวของความเป็นเพื่อนระหว่างต้าปิง กับต้าเผิง
ต้าปิงเป็นคนมีเพื่อนเยอะมาก เพราะเขาทำงานอยู่ในแวดวงสื่อโทรทัศน์ กับต้าเผิงคือเพื่อนธรรมดา ! และในความธรรมดานั้นคือความพิเศษ
"สิ่งที่เรียกว่ามิตรภาพนั้น ยามพบเจอช่างง่ายดายสิ่งที่ยากคือการรักษาให้คงอยู่ยาวนาน
1
ได้เป็นเพื่อนธรรมดาที่อยู่เคียงข้างกันและกันไปตลอดชีวิต เพียงเท่านี้ก็เป็นวาสนาที่ยิ่งใหญ่เหลือเกินแล้ว"
1
5 ห้ามร้องไห้ :
เป็นเรื่องราวของนิโคล เธอมาจากกว่างตง หน้าตาเหมือนลิงน้อยมอนจิจิ (ตุ๊กตาของเล่นยอดนิยมในญี่ปุ่น)
เธออ่อนหวานน่ารัก เธอเป็นล่ามภาษาญี่ปุ่นมืออาชีพ พูดภาษาญี่ปุ่นคล่องกว่าภาษาจีนอีก ต้นปี 2000 เธอแบกกระเป๋าเป้เดินทางตัวคนเดียวมายังทิเบต
จากนั้นจึงลงหลักปักฐานที่เมืองลาซา ทำอาชีพเป็นไกด์ นำคณะนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะ พร้อมทั้งเปิดเกสเฮ้าส์เล็ก ๆ บนเกาะเซียนจู๋ทางตอนในของแม่น้ำลาซา
ทั้งยังทำอาชีพเสริมเป็นพนักงานบัญชีประจำบาร์เหล้าด้วย
ปีนั้นนิโคลทำงานเป็นพนักงานแคชเชียร์อยู่ที่บาร์ของต้าปิง
ส่วนต้าปิงก็เป็นแขกพักที่ guest house ของนิโคล
อีกหนึ่งเรื่องราวที่น่ารัก น่าน่าประทับใจในมิตรภาพของพวกเขา ยิ่งตอนที่นิโคลอกหัก แล้วเพื่อน ๆ ช่วยกันดูแล อยู่เคียงข้าง ปลอบใจ พาเที่ยว ช่วยงาน ช่วยหาแฟนใหม่ให้ด้วย จนถึงวันที่ทุกคนเติบโต แยกย้ายกันไป
มีทั้งหมดสิบตอน
6 คนร้องเพลงห้ามร้องไห้ :
ต้าปิงเล่าถึงเรื่องราวของอาหมิง หนุ่มน้อยคนหนึ่งที่เป็นนักสู้ชีวิต ทำงานสารพัดทั้งทำไร่ทำสวน กรรมกรก่อสร้าง พนักงานในร้านค้า และเหนือสิ่งอื่นใด ที่ทำให้พวกเขาได้มารู้จักกันก็คือ ดนตรี และเสียงร้องเพลง
7 คนฟังเพลงห้ามร้องไห้ :
เป็นเรื่องราวของคู่รักคู่หนึ่ง ต้าซู่ กับโตวโตว
เรื่องบางอย่างยากจะอธิบายเช่น รักแรกพบ
บางคนพบคนที่สะดุดสายตาแม้อยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย
บางคนสบตากันโดยบังเอิญ และบางคนก็เหมือนต้าซู่กับโตวโตว นั่นคือรักแรกพบ จากเว็บไซต์หาคู่แห่งหนึ่ง
อันที่จริงบนโลกนี้ไม่มีสิ่งที่เรียกว่ารักแรกพบ "รักแรกพบ" ที่ว่าความจริงก็แค่เราได้เจอคนที่ตามหามาตลอดต่างหาก
ท่ามกลางผู้คนมากมาย
ได้เจอคือความโชคดี
ไม่เจอคือชะตากำหนด
ที่จริงทุกคนล้วนได้เจอคนที่ตัวเองตามหาด้วยกันทั้งนั้น
แย่หน่อยที่ส่วนมากเวลาเราเจอคนที่ใช่ เรามักไม่ได้เตรียมพร้อม จึงเดินสวนกันไปอย่างน่าเสียดาย
1
โชคดีที่เรื่องราวของโตว โตวและต้าซู่ไม่จบลงอย่างน่าเสียดายเช่นนั้น
ทั้งคู่นัดเจอกันอย่างรวดเร็วตกหลุมรักกันอย่างรวดเร็วไม่ใช่เพลิงไฟที่ร้อนแรง
แต่เป็นเพลิงไฟอันอบอุ่น
ความสุขผ่านไปเร็วเหลือเกิน หลังจากนั้นไม่นาน โชคชะตากลับเล่นตลกกับพวกเขา
โตวโตวป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย
และจากไปในที่สุด
1
8 คนหนึ่งชื่อมู่โถว คนหนึ่งชื่อหมาเหว่ย :
เรื่องนี้น่ารักมากค่ะทุกคน คือบุคลิกของเหมาเหมานี่แบบพระเอกมาเฟียอันธพาลคลั่งรักเลยละ แล้วมู่โถวก็คือคุณหนูมาก ๆ
ใด ๆ คือทั้งสองรักกัน และนี่คือเรื่องราวจากชีวิตจริงที่ต้าปิงเล่าได้สนุกมาก เวลาอ่านแล้วอยากรู้จักบุคคลในเรื่องราวเหล่านี้
"เรื่องราวความรักระหว่างพวกเขาเป็นปริศนามาตลอดตอนที่ผม รู้จักกับเหมาเหมา มู่โถวก็อยู่ข้างกายเขาแล้ว ทั้งสองคนตัวติดกันตลอดเวลาราวกับน้ำตาลเกาะเม็ดถั่ว" : ต้าปิง
เรื่องของสองคนนี้ ถ้าสร้างเป็นหนัง เป็นละครคงโรแมนติก ฟินจิกหมอนกันกระจุยแน่เลยค่ะ อ่านแล้วชอบความห้าวของเหมาเหมา รักเพื่อนมาก รักภรรยามากกว่า เรียกว่าคลั่งรักเลยก็ได้
เขาเล่าให้ต้าปิงฟังว่า
"ฉันไปซื้อของที่ตลาดกับเธอ พอดีเชือกรองเท้าหลวม เธอเห็นจึงย่อตัวลงไปช่วยผูกเชือกให้ฉัน โดยไม่แม้แต่หยุดคิด ฉันตกใจมากเหลียวมองรอบตัว ณ เวลานั้น วินาทีนั้น ทั้งโลกไม่มีใครสนใจพวกเรา เราสองคนเป็นแค่ผู้ชายกับผู้หญิงที่แสนจะธรรมดาคู่หนึ่งเท่านั้น
แล้วฉันก็บอกกับตัวเองว่าเธอนี่แหละ ฉันจะแต่งงานกับเธอ"
1
9 บันทึกการเดินทางของแม่หญิงมะพร้าว :
เธอและเขารู้ดีว่าต้องรอคอยกันและกัน
ต้องดูแลกันและกัน
และต้องเสียสละเพื่อกันและกัน
ความรักของเธอและเขาไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง
เขาทั้งสองใช้วิธีอย่างคนธรรมดา เพื่อปกป้องความรักของคนธรรมดา แต่นานวันเข้า การปกป้องนี้กลับหลอมรวมกลายเป็นตำนานย่อม ๆ เรื่องหนึ่ง
1
เป็นเด็กดีนะ
กับเรื่องราวความรักของแม่หญิงมะพร้าว ที่เริ่มจากความเป็นเพื่อน คบกันแต่เหมือนไม่ได้คบ เขาแอบชอบเธอมาตลอด แต่เธอก็ไม่เคยรู้ เพราะฝ่ายชายเป็นคนเงียบ ๆ พูดไม่เก่ง เดินทางแต่ละครั้งก็หลายเดือนกว่าจะกลับ
1
มีช่วงหนึ่งที่เขาหายไปสามปี พอกลับมาก็เก็บตัวเขียนหนังสืออีกสองปี แต่ในระหว่างสองปีนั้น เธอก็คอยดูแล แอบมาเก็บผ้าไปซักให้ ซื้อของมาใส่ตู้เย็นไว้ให้ เธอก็ไม่เคยเรียกร้องสถานะอะไร ขอแค่ได้อยู่ช่วยเป็นกำลังใจให้กัน แม้แต่คำว่ารัก ทั้งคู่ก็ไม่เคยบอกกัน เธอเองก็ทำงานหนักมาก
1
ความสัมพันธ์ที่ใคร ๆ ก็ลุ้นให้ได้ลงเอย กัน
สิบปีผ่านไป ทุกอย่างก็ยังราบเรียบ
ทั้งคู่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ฐานะมั่นคง และยังคุยกันลากยาวมาถึง 13 ปี กว่าจะได้แต่งงานกัน
เห้อ ! อ่านแล้วลุ้นตามทุกครั้งที่เขาเจอกัน
จนถึงวันที่ต้าปิงได้รับข้อความให้ไปเป็นพิธีกรในงานแต่ง
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวความรักที่สวยงามมาก ต้าปิงเขียนเป็นนิยายรักค่ะตอนนี้ อ่านเพลิน ลุ้นไปกับความอึนของพระเอก
และรักแท้ อดทนรอคอยได้
10 ดั่งวายุอาชา :
มิตรภาพระหว่างการเดินทาง ผู้คนที่เขาได้พบเจอ คนแปลกหน้า เพื่อนร่วมทาง และประสบการณ์ที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด
"ในชั่วขณะของความคิด เราจะพบว่ามักมีบางสิ่ง ที่ไม่เคยจืดจางลเลย
เพื่อนในวัยเยาว์
พี่น้องในวัยคะนอง
และเพื่อนเก่าในวัยกลางคนของผมก่อนวันสิ้นลม พวกเขาล้วนเป็นเด็กที่ยังต้องเติบโต ไม่เคยโตเต็มที่ และไม่เคยหยุดโต แม้เราไม่มีวันเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้ แต่ลูกใบนี้ก็ไม่มีวันเปลี่ยนเราได้เช่นกัน
วันเวลาพาริ้วรอย ผมหงอกและพุงน้อย ๆ มาด้วย แต่ไม่มีวันพาอาชาหนุ่มในใจของพวกเราไปไหนได้"
บทนี้เข้มข้นแบบลูกผู้ชาย
2
11 เรื่องของเหตุและผล :
เป็นเรื่องราวความรักของเฉิงจื่อกับโต้วเอ๋อร์
เป็นเด็กดีนะ
ความรักที่เหมือนดั่งว่า เป็นคู่กันมาแต่ชาติปางไหน นี่หรือคือโชคชะตา คู่ชีวิตที่ฟ้าลิขิตไว้ให้แล้ว
1
เมื่อเธอรู้ใจตัวเองว่าเธอรักเขา ผู้ชายที่ไม่มีใครคาดคิดว่าเธอจะเลือกเขา ดูยังไงก็ไม่เหมาสมและคู่ควร
เธอเก่ง กล้า สามารถ มีสติปัญญาหน้าที่การงานดี มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี
เธอมั่นคง หนักแน่น อดทน รอคอย และระหว่างนั้น เธอก็วางแผนเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในชีวิตเขาอย่างตั้งใจ
ใช่ค่ะ เธอตั้งใจรักเขาจริง ๆ
อ่านแล้วยอมใจโต้วเอ๋อร์จริง ๆ
เมื่อเธอรู้ว่าผู้ชายที่เธอแอบชอบขายทรัพย์สมบัติทุกอย่าง ทิ้งหน้าที่การงานที่มั่นคง เพื่อไปออกเดินธุดงค์แสวงบุญ ฝึกชงชาไปตามสถานที่ต่าง ๆ กับพระอาจารย์ (2 ปี)
เธอกลัวว่าเขาจะบวชตลอดชีวิต จึงไม่รอช้า เธอขอตามไปส่งเขาและคุยกับพระอาจารย์ ถามท่านว่า ทำไมท่านไม่เลือกเอาคนอื่นไป ไม่เห็นใจในวาสนาของเธอบ้างเหรอ
พระอาจารย์ไม่ได้ตอบอะไรนอกจากคำว่า "อื้ม"
พวกเขาออกเดินทางตามแผนที่วางไว้
เธอร้องไห้เจ็บปวดหัวใจแทบบ้าลำพัง แล้วกลับมาทำงานอย่างบ้าคลั่ง เพื่อให้ลืมเขา แต่ก็ลืมไม่ได้สักที นาน ๆ ก็ส่งข้อความหาเขาสักครั้ง เขาตอบบ้างไม่ตอบบ้าง และคำตอบก็แสนจะเรียบง่าย แค่บอกชื่อสถานที่ ที่พวกเขาเดินทางไปถึง
สองปีผ่านไป หน้าที่การงานของเธอก้าวหน้า ประสบความสำเร็จแบบก้าวกระโดด ได้เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง
และแล้ววันหนึ่งเขาก็ทักมาหาเธอว่าตอนนี้เขาอยู่ที่เมืองที่เธออยู่ เธอรีบนัดเขาออกมาเจอกันทันที และดีใจมากที่เห็นว่าเขาไม่ใช่นักบวช ยังมีผม ยังใส่เสื้อผ้าแบบคนปกติ
(พระอาจารย์นำเขามาส่งคืนให้เธอ แล้วก็หายตัวไปดั่งเทพเซียน)
เธอถามถึงแผนการณ์ต่อไปของเขาว่าต่อไปนี้จะทำอะไรยังไงบ้าง
เขาบอกให้เธอรู้ถึงกำหนดการเดินทางในอีกสองวันข้างหน้า
เธอตัดสินใจเงียบ ๆ คนเดียว แน่วแน่ หนักแน่น มั่นคง ไม่ปรึกษาใคร
โต้วเอ๋อร์มีเวลาสองวันในการเคลียร์งานเอกสารทุกอย่างของตัวเอง
เดินทางไปลาคุณปู่คุณย่า ในตอนแรกท่านก็ไม่เห็นด้วย แม้พวกท่านจะรักและเป็นห่วงเธอมากแค่ไหน แต่เมื่อเธอตัดสินใจแล้ว พวกท่านก็ต้องจำยอม
เธอไปบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้คุณแม่ฟังเพื่อขอพร คุณแม่ผู้ตามใจเธอทุกอย่าง ไม่เคยคัดค้าน
แล้วก็กลับมาเก็บข้าวของที่จำเป็นใส่กระเป๋า
เธอตัดสินใจจะติดตามเขาไปทุกหนทุกแห่ง โดยไม่ถามเขาเลย !!!!
วันเดินทางมาถึง เธอยื่นกระเป๋าเดินทางให้เขา และบอกว่าช่วยยกเก็บให้หน่อย แม้เขาจะห้ามอย่างไร เธอก็ไม่สนใจ
เขาจึงยื่นข้อเสนอให้เธอว่า ให้ติดตามเขาไปได้แค่สองเดือน
ในฐานะ พี่ น้อง
เขาเป็นสุภาพบุรุษ และให้เกียรติเธอเสมอ แม้ในบางแห่งที่ต้องนอนในห้องเดียวกัน เขายอมนั่งหลับตาทำสมาธิทั้งคืน !
เธอไม่เคยยอมแพ้ เธอรัก ศรัทธา บูชาในความเรียบง่ายของเขา เธอรักเขาจากทั้งหมดของหัวใจจริง ๆ
เมื่อครบสองเดือน เขาเตือนให้เธอกลับบ้านไปได้แล้ว
มีหรือเธอจะยอม เธอคิดวางแผนเผด็จศึกเขาขึ้นมาทันที
"ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะรุกก่อน เคยได้ยินมาว่าช่วงพลบค่ำ เป็นเวลาที่ผู้ชายใจอ่อนที่สุด"
ที่สวนผักข้างหมู่บ้าน
"เขาชอบกินหัวไชเท้า ฉันหยิบหัวไชเท้าต้นใหญ่ที่ล้างจนสะอาดแล้วออกมาให้เขากิน"
แล้วเธอก็เริ่มคำถาม
เมื่อเขายังยืนยันจะให้เธอกลับไป สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
เธอโกรธเขามาก ที่ทำเหมือนคนไม่มีหัวใจ
"พี่จะใจดำไล่ให้ฉันไปแบบนี้จริง ๆ ใช่ไหม พี่ใจดำขนาดนี้จริง ๆ เหรอ คนธรรมะธรรมโมอย่างพี่ต้องใจร้ายกับฉันถึงขนาดนี้เลยใช่ไหม"
เขาขึ้นเสียงโต้กลับ "ใช่"
"งั้นก็ดี"
พอดีข้าง ๆ นั้นเป็นไซต์ก่อสร้าง โต้วเอ๋อร์จึงหยิบก้อนอิฐขึ้นมาทุบหัวของตัวเอง !!!
เขาร้อง "เฮ้ย" ! เสียงดังลั่น
"ร่างของฉันถูกเขาประคองกอดไว้แน่น รัดแน่นจนฉันจะขาดใจตาย ก้อนอิฐฟาดฉันไม่ตาย แต่จะตายเพราะอ้อมแขนของเขาแทน
นับแต่นั้นมาพวกเราก็ลงหลักปักฐานที่ลี่เจียง"
 
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวคู่รักฟ้าประทานพร หรือพรหมลิขิต และนี่คือเรื่องจริง ที่ต้าปิงเล่าได้ครบรสจริง ๆ ค่ะ
ยังมีเรื่องราวความโรแมนติกของพวกเขาอีกเรื่อง ที่ต้องพูดถึง นั่นคือจุดเริ่มต้นการพบกัน "เขาอาบน้ำให้เธอ"
เมื่อเธอพาเขาไปพบคุณปู่คุณย่า หลังจากที่ได้คุยกับเขา คุณปู่ก็ได้แต่พึมพำคำว่า "ฟ้ากำหนดแท้ ๆ" อยู่ซ้ำ ๆ
ย้อนไปตอน โต้วเอ๋อร์อายุสองขวบ วันนั้นที่บ้านมีแขกมาเยี่ยม คุณย่าวางเธอไว้ในอ่าง ผู้ใหญ่ต่างกำลังยุ่งกับการต้อนรับทักทายกัน เด็กผู้ชายผู้มาเยือนในวัยเก้าขวบ ช่วยอาบน้ำให้เธอ เช็ดตัวเสร็จแล้วก็อุ้มมาโอ๋ กอดกันนอนหลับคู่อยู่บนโซฟา
1
โดยเขาหารู้ไม่ว่า เด็กผู้หญิงในอ้อมกอดของเขาวันนั้น จะมาเป็นภรรยาของเขาในวันนี้
2
12 ศิษย์น้องผมไม่ใช่คน :
ผมงงมากจึงพูดขึ้นว่า
"มันเป็นหมานะ… เป็นหมาจะเป็นศิษย์วัดได้อย่างไรครับ"
พระอาจารย์ถามกลับว่า
"มันเป็นสิ่งมีชีวิตใช่หรือไม่"
ผมตอบว่า "ใช่ครับ"
พระอาจารย์ถามต่ออีกว่า
"และเธอก็เป็นสิ่งมีชีวิตเช่นกันใช่หรือไม่"
ผมตอบว่า "ผมไม่เข้าใจว่าอาจารย์หมายความว่าอย่างไร"
ท่านหัวเราะลั่นแล้วตอบว่า
"ใช่สิ เธอก็เป็นสิ่งมีชีวิต อาตมาก็เป็นสิ่งมีชีวิต มันก็เป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนกัน โอเค คำตอบจบแล้วเท่านี้เธอไปคิดต่อเอาเองจนกว่าจะเข้าใจก็แล้วกัน"
1
เป็นเด็กดีนะ
ในบทส่งท้ายต้าปิงมีข้อความที่น่ารักมากมายฝากไว้ให้ผู้อ่าน เช่น
"ผมเป็นเด็กน้อยในร่างชายรุ่นใหญ่ และเป็นนักเขียนที่ชอบถ่ายทอดเรื่องราว
ในเมื่อทุกคนชอบอ่านเรื่องที่ผมเขียน เช่นนั้นขอเชิญมาร่วมสร้างเรื่องราวด้วยกันเสียเลย
หากคุณอ่านหนังสือของผมจบแล้วโปรด @ ชื่อผมในเว็บ เวยป๋อ
ไม่ว่าคุณจะซ่อนตัวอยู่มุมไหนของโลก ถ้าผมสุ่มได้ชื่อคุณ ผมจะแบกกีตาร์ไปเลี้ยงอาหารมื้อเย็นใต้แสงเทียนกับคุณถึงที่
ไม่ว่าคุณจะอยู่บนภูเขาสูงเสียดฟ้าหรือกลางมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ผมจะไปถึงที่นั่นแน่นอน"
1
ไม่แน่นะคะ วันหนึ่งเพื่อน ๆ อาจเห็นข่าวต้าปิงมาหาเที่ยวที่เมืองไทย และไปพบใครสักคนอิอิ 💃🏾💃🏾💃🏾
1
ในย่อหน้าสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้ที่ต้าปิงกล่าวไว้
"มักกล่าวกันว่า ต้องสร้างบุญร่วมกันถึงร้อยปี
จึงจะได้ลงเรือข้ามฟากลำเดียวกัน คุณและผมได้เจอกันในหนังสือเล่มนี้ เปรียบได้กับการร่วมเดินทางในเรือลำเดียวกัน
เวลานี้เรือเทียบท่าแล้ว จึงขอลากันตรงนี้
โค้งอำลาด้วยความเคารพ
จากกันที่ตรงนี้ หากมีวาสนาคงได้พบกันอีก ในวันใดวันหนึ่ง ณ ที่ใดที่หนึ่ง"
อมิตาภพุทธ : ต้าปิง
และก่อนจบบทความวันนี้ ผู้เขียนขอฝากคลิปที่ต้าปิงพูดถึงเมืองไทยให้เพื่อน ๆ ดูด้วยก็แล้วกัน ว่าหนุ่มนักพเนจรคนนี้น่ารักมาก ๆ
เขาเคยมาเมืองไทย ไปถนนข้าวสาร เล่นน้ำสงกรานต์ และไปเที่ยวเชียงใหม่ เขาชอบที่นั่นมาก คิดว่าอยากมีบ้านที่เชียงใหม่ไว้สักหลัง เวลามาเที่ยวเมืองไทยจะได้พักอยู่นาน ๆ อ้อ ต้าปิงเคยไปเล่นกีตาร์เปิดหมวกที่ประตูท่าแพด้วยนะคะ
ชื่อหนังสือ : เป็นเด็กดีนะ
เขียนโดย : ต้าปิง
แปลโดย : ศุณิษา เทพธารากูลการ
จำนวนหน้า : 416 หน้า
ราคา : 395 บาท
แนวหนังสือ : เรื่องเล่า ประสบการณ์ใช้ชีวิต สารคดีแปล
สำนักพิมพ์ : Post Books
สนใจหนังสือ 👇
ปล. หนังสืออาจหมดไปแล้ว ในวันที่ท่านมาเจอบทความนี้ ต้องขออภัย ลองสอบถามไปตามร้านหนังสือใหญ่ ๆ เช่น ซีเอ็ด นายอินทร์ kinukuniya
ขอบคุณค่ะ
ผู้สังเกตการณ์
พร้อมเดินทาง
โฆษณา