27 เม.ย. 2022 เวลา 08:26 • อาหาร
"ส่องโลกของซูชิ 101"
"ซูชิ (Sushi - 寿司)" เป็นหนึ่งในเมนูที่ถ้ามีเพื่อนชวนไปทาน เราก็จะนึกถึงเมนูข้าวปั้นห่อสาหร่ายปลาดิบ 🍣
แต่จริง ๆ แล้วคำนิยามของคำว่าซูชิเนี่ย จะไม่ได้หมายถึงว่าต้องเป็นปลาดิบนะ
รวมไปถึงรูปแบบต่าง ๆ ของซูชิเอง ก็มีการแบ่งหมวดหมู่เอาไว้อย่างชัดเจน
สารภาพเลยว่า หลาย ๆ ครั้งเราเองก็เรียกเหมารวม ๆ ว่าซูชิ…
คือ มันก็จริงที่ข้าวปั้นหมักญี่ปุ่นหน้าปลาดิบ หรือข้าวปั้นห่อสาหร่ายหน้าเนื้อสัตว์ต่าง ๆ จะอยู้ในกลุ่มของซูชิ
เพียงแต่ว่า… แต่ละเมนู ก็มีชื่อเรียกเฉพาะของเขาเองนะ
(เว้นแต่ว่าเวลาไปทานโอมากาเซะกับเพื่อนๆ ก็จะศึกษาหน้าตากับชื่อแต่จานมาก่อน จะได้ไม่เขิลเชฟกับเพื่อน ๆ ที่ชวนไปทาน แห่ะ ๆ 🤭)
พอนั่งค้นหาไปเรื่อย ๆ ก็พบว่า อ้อ ! ซูชิมันเป็นหนึ่งในวิธีการประกอบอาหารที่ชาวญี่ปุ่นปรับใช้ตามวิถีชีวิตและวัฒนธรรมมาตั้งแต่โบราณ
และที่สำคัญคือ เป็นวิธีการที่ได้รับอิทธิพลมาจากชนชาติในลุ่มแม่น้ำโขง อย่างชาวไทยและชาวลาว อีกด้วยนะ !
เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ?
พวกเรา InfoStory ขอพาเพื่อน ๆ ไปรับชมกับภาพอินโพกราฟิกสุดสบายตาและบทความอ่านเพลิน ๆ กันได้เลย !
[ อะไรนะ…ซูชิ มีต้นกำเนิดมาจากวัฒนธรรมการถนอมอาหารของชาวไทย จีนและลาว]
ซูชิ คือ ข้าวปั้นสัญชาติญี่ปุ่นแบบพอดีคำ
บ้างก็ห่อสาหร่าย บ้างก็ทานคู่กับปลาดิบหรือไข่กุ้งไข่ปลาที่วางอยู่บนข้าวปั้นหมักน้ำส้มสายชู
ด้วยความพิถีพิถันในการทำ รวมถึงวัฒนธรรมในการทานโดยใช้ตะเกียบ จิ้มโยชุ วาซาบิและมิโซะซุป ก็จะทำให้เรานึกถึงกลิ่นอายของชาวญี่ปุ่น
ชื่อเรียกว่าซูชิ ก็กำเนิดมาจากคนญี่ปุ่นในสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1600)
ถ้าถามถึงต้นกำเนิดจริง ๆ แล้ว
กลับมาจาก… ชาวไทย ลาวและจีน ที่อาศัยอยู่ลุ่มแม่น้ำโขง (Mekong River) ในสมัยก่อนตะหากละ 🇹🇭 🇱🇦 🇨🇳
1
ลุ่มแม่น้ำโขงกินพื้นที่ไปเยอะมากในภูมิภาคอาเซียน แต่ว่าต้นกำเนิดของซุชิจะมาจากทางตอนบนของกลุ่มผู้อาศัยในลุ่มแม่น้ำโขง
เรื่องนี้เราค้นหาอยู่ประมาณ 5-6 แหล่งอ้างอิง ซึ่งพบข้อมูลต้นกำเนิดที่เป็นแรงบันดาลใจให้ซูชิของญี่ปุ่น ที่เป็นแบบเดียวกัน
(แต่ทั้งนี้ Sushi ก็ยังเป็นอาหารญี่ปุ่นนะ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดกันน้าเพื่อน ๆ )
1
โอเค มันคือแบบนี้…
อย่างที่ทุกคนทราบกัน
“ซูชิ” มีส่วนประกอบหลักคือข้าวปั้นหมักเกลือหรือน้ำส้มสายชู กับปลาดิบที่เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของอาหารญี่ปุ่น 🍣
1
ถูกพัฒนาขึ้นมาจากวิธีการถนอมอาหารด้วยการหมักปลาที่เรียกว่า “ปลาส้ม” ที่ได้จากการนำข้าวมาหมักปลาน้ำจืดจนมีความเปรี้ยว
ของกลุ่มคนที่อาศัยในลุ่มแม่น้ำโขง (Mekong River) ในสมัยก่อน 🐟
ภาพบรรยายถึงต้นกำเนิดของซูชิที่มาจากการหมักปลาแบบญี่ปุ่น
สมัยก่อนที่ว่านี้ อาจต้องย้อนกลับไปมากถึง 5,500 ปีเลยทีเดียว
(ไม่มั่นใจว่าเขาไปบันทึกกันได้ยังไงนะ)
อีกตำนานหนึ่งก็บันทึกว่า ซูชิมาจากวิธีการหมักปลาของชาวจีน ไป่เยว่ (Baiyue) ซึ่งเป็นชาวจีนบริเวณมณฑลแถบตะวันออกเฉียงใต้ (กวางตุ้ง) ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ได้ห่างไปไกลมากเท่าไร
ชาวไป่เยว่ จะอาศัยทางตอนใต้ของจีนจนมาถึงเวียดนาม แต่เป็นชาวจีนนะ
ซูชิ ชนิดแรก ๆ ก็คือ "นาเระซูชิ (Narezushi)" ในปี ค.ศ. 700 ที่ได้รับอิทธิพลมาจากอาหารบริเวณลุ่มน้ำโขงโดยตรงเลย
ก่อนที่จะมีการพัฒนาวิธีการทำข้าวปั้นปลาดิบแบบ “นิกิริ” ขึ้นมาในภายหลัง
1
[ ไปรู้จักกับประวัติศาสตร์การแพร่ขยายของซูชิ จากฝั่งตะวันออก ไปสู่ ฝั่งตะวันตก ]
ต้องบอกว่าเมนูซูชิเนี่ย อาจเรียกได้ว่าเป็นเมนูที่ผู้คนทั้งโลกรู้จัก ตั้งแต่เมนูดั้งเดิมอย่าง นาเระซูชิ (Narezushi) จนมาถึง แคลิฟอร์เนียโรล (California Roll)
แถมยังมีชื่อเรียกอื่น ๆ อีกมากมาย ตามแต่วัฒนธรรมประเทศนั้น ๆ จะดัดแปลงได้
งั้นเรามาดูไทมไลน์การแพร่ขยายของวัฒนธรรมซูชิไปรอบโลกกันดีกว่า ! !
5,500 ปีที่ผ่านมา - ค้นพบวิธีการถนอมอาหาร ด้วยการหมักปลา (ปลาส้ม) จากกลุ่มชนที่อาศัยในลุ่มแม่น้ำโขง
2,500 ปีที่ผ่านมา - ชาวญี่ปุ่นและชาวเกาหลี เริ่มรู้จัก “ข้าว”
ค.ศ. 500 - ชาวจีนรู้จักการใช้ตะเกียบ ทานอาหาร
ค.ศ. 700 - Nare-zushi ซูชิแบบดั้งเดิมที่เป็นปลาหมัก ได้ถือกำเนิด
Nare-zushi
ค.ศ. 1400 - Nama Nare-zushi การนำข้าวมาหมักกับปลาแบบธรรมชาติทำให้ใช้เกลือได้น้อยลง
ค.ศ. 1650 - Haya-zushi ซูชิเป็นต้นแบบของซูชิที่ใช้น้ำส้มหมักผสมข้าวแทนการหมักแบบธรรมชาติ และทำปลาดิบ(ที่ไม่หมัก) มาวางบนข้าว ซึ่งซูชิแบบนี้ เป็นที่นิยมในสมัยเอโดะมาก ๆ
Nama Nare-zushi
ค.ศ. 1810 - การทำซูชิแบบพอดีคำอย่าง “Nigiri” ได้ถือกำเนิดขึ้น เป็นซูชิทำมือประเภทแรก ที่เน้นการเสิร์ฟในเวลาเร่งด่วน
Nigiri
ค.ศ. 1827 - ซาชิมิ (Sashimi) ถือกำเนิดขึ้น (แต่ซาชิมิ ไม่ใช่ซูชินะ ฮ่าๆ)
ค.ศ. 1853 - พลเรือจัตวา แมทธิว เพอร์รี เดินทางมาถึงญี่ปุ่น (ว่ากันว่าเป็นคนอเมริกันคนแรก ๆ ที่ติดใจซูชิ และได้พัฒนาความสัมพันธ์ของการค้าระหว่าง อเมริกา-ญี่ปุ่น)
ค.ศ. 1900 - การขนส่งด้วยการใช้ลังเก็บน้ำแข็ง เริ่มเป็นที่นิยมสำหรับการขนส่งผ่านเรือไปยังสหรัฐอเมริกา (ไม่ต้องเดาก็รู้ว่า การขนส่งปลาดิบจากญี่ปุ่น ทำได้ง่ายมากกกขึ้น)
ค.ศ. 1923 - เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่คันโต (Great Kanto Earthquake) นอกจากแผ่นดินไหว ยังเกิดเพลิงไหม้และพายุอีกหลายลูก
1
เหตุการณ์นี้ได้ทำให้ชาวญี่ปุ่น (โดยเฉพาะพ่อครัว) ได้อพยพไปอยู่อเมริกามากขึ้น เพราะต้องการความมั่นคงในชีวิต (แต่ไม่เชิงว่าเป็นภาวะสมองไหลนะ)
Great Kanto Earthquake ราบเป็นหน้ากลองเลยT^T
ค.ศ. 1952-1970 - การอพยพของชาวญี่ปุ่น ได้ทำให้เกิดความหลากหลายทางวัฒนธรรมในอเมริกามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหาร
1
ค.ศ. 1970 - California Roll ที่แสนโด่งดังไปทั่วโลก ได้ถือกำเนิดขึ้น (อะ เดี๋ยวเล่าให้ฟังต่อนะคร้าบ)
1
[**เกร็ดน่ารู้ - California Roll **]
California Roll ตรงตามชื่อที่เป็นต้นกำเนิดในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
มากิซูชิ ประเภทนี้ถูกคิดค้นโดยชาวญี่ปุ่นในที่ทำธุรกิจในอเมริกา ชื่อว่า “Ichiro Mashita”
1
เขาต้องการขายอาหารญี่ปุ่นในรัฐแคลิฟอร์เนีย
ซึ่งแน่นอนว่าอาหารญี่ปุ่น ก็จะต้องเป็นปลาดิบ(และวาซาบิ) เนอะ
เพียงแต่ว่า… ชาวอเมริกันนั้น ทนกลิ่นคาวของปลาดิบไม่ไหว.. เมนูซูชิแบบดั้งเดิมจึงขายได้ไม่ดีนัก
1
ต่อมาเขาได้ลองคิดค้นสูตรซูชิแบบใหม่ ที่ไม่ยึดติดกับคอนเซ็ปต์เดิมของชาวญี่ปุ่น
โดยเพิ่มส่วนผสมที่ชาวอเมริกันนิยมทาน อย่างเช่น ปูอัด ไข่หวาน ซอสมายองเนส
1
ที่สำคัญคือ ต้องสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว ตอบโจทย์วิถีชีวิตของชาวอเมริกัน
1
แน่นอนว่าสูตรใหม่ของคุณโคกากะ ก็ได้ถูกปากของชาวอเมริกันเป็นอย่างมาก
เพื่อให้ทานได้ง่ายขึ้น (แบบเน้นซื้อกลับเดินทาน) ก็ได้มีการดัดแปลงให้เป็นการม้วนซูชิแบบทรงกรวยขึ้นมา (แบบเทมากิ)
2
“California Roll” จึงได้ถือกำเนิดขึ้น นั่นเองจ้า !
1
California Roll
Temaki ที่ม้วนด้วยมือและสามารถถือทานได้
ขอเพิ่มเติม อีกเรื่องราวหนึ่งทีว่ากันว่าอาจเป็นต้นกำเนิดของแคลิฟอร์เนียโรล
เรื่องราวนี้มีต้นกำเนิดมาจากเชฟที่ชื่อว่า "Hidekazu Tojo" เชฟชาวญี่ปุ่นสัญชาติแคนาดา ที่ผสมผสานเทคนิคของอาหารญี่ปุ่นกับอาหารชาติตะวันตก โดยเขาได้คิดค้น Rainbow Roll และ Tojo Roll ที่ร้านของเขาในเมืองแวนคูเวอร์ (Vancouver) ประเทศแคนาดา ก่อนที่จะโด่งดังไปทั่วทวีปอเมริกา ในช่วงปี ค.ศ. 1970
1
ซึ่งเจ้า Tojo Roll ตรงนี้ละ ที่คุณ Hidekazu สัมภาษณ์ว่า นี่คือต้นตำรับของ California Roll (อันนี้ก็ว่าตามกันไป เราเองก็ไม่รู้ว่า มาจากสูตรของใครกันแน่ แต่เอาเป็นว่าปรับไปตามวัฒนธรรมของชาวอเมริกันและแคนาดา)
Hidekazu Tojo
Tojo's Roll
**เกร็ดน่ารู้ 2 **
[ ช็อตโตะมัตเตะ ! "ซาชิมิ (刺し身)" ไม่ใช่ซูชินะ ]
ซูชิ = ข้าวหมักปั้น ที่อาจมีหน้าเป็นเนื้อสัตว์ทั้งดิบหรือสุกต่าง ๆ
ซาชิมิ = มีเพียงปลาดิบ(หรือเนื้อสัตว์) แล่ชิ้นบาง ไม่มีข้าว
Sashimi vs Sushi
พอหอมปากหอมคอ อ่านกันไปเพลิน ๆ
หวังว่าเพื่อน ๆ จะได้รับสาระเบาสมองจากพวกเราไปเหมือนเช่นเคย
ขอให้เพื่อน ๆ เริ่มต้นทำงานวันจันทร์กันอย่างสนุกสนานและมีประสิทธิภาพนะคร้าบบผม :):)
โฆษณา