27 เม.ย. 2022 เวลา 17:00 • ไลฟ์สไตล์
ผีมั้ยไม่รู้ ep.1 | เจอตรงไหนไม่น่ากลัวเท่าเจอแถวบ้าน
ตั้งแต่ประถมจนวัยมหา’ลัย การเดินทางระหว่างจังหวัดเป็นเรื่องธรรมดา ตามประสาคนบ้านอยู่เขตปริมณฑล ยายกับตาใช้เงินเก็บหลังเกษียณซื้อที่ดินปลายปริมณฑลเพื่อปลูกบ้าน ต่อมาพ่อกับแม่ก็ย้ายตามจาก กทม. ไปอยู่ด้วย ทำให้วิถีชิติการเดินทางไปทำงาน/ไปเรียนต้องเปลี่ยนไป
… คงเหมือนอีกหลายๆคนที่ต้องตื่นตี 4 ตี 5 เพื่อออกจากบ้าน ออกสาย 15 นาทีก็ทำใจได้เลย อยู่บนถนนหรือทางด่วนไปยาวๆ เป็นชั่วโมง ตอนเย็นกลับบ้าน เลิกงานไม่ดึกก็จริงแต่ต้องใช้ชีวิตบนถนนเป็น ชั่วโมง เพราะรถเยอะจัดๆ
ดังนั้น การที่จะขับรถถึงหน้าบ้านแต่ละวันก็ปาเข้าไป สามทุ่ม ได้ ! ปกติแหละ ก็เป็นแบบนี้ตั้งแต่เรียน จนเรียนจบ และน้องก็เรียนต่อ แม่ก็มีหน้าที่ขับรถไปทำงานและมีลูกติดรถ(นอนไป) ด้วยทุกวัน
ตัวเรากับแม่เองก็ใช้ชีวิตแบบนั้นปกติดี ทั้งขาไปและกลับไม่ค่อยได้เจอแสงอาทิตย์ หนทางแถวบ้านช่วง 5-10 กิโลเมตรแรกไม่ค่อยมีไฟ ข้างทางส่วนใหญ่เป็นสวนและนากว้างลึกเข้าไป เช้ามืดมักจะมืดและมีหมอกมาก นานๆ จะเห็นพระเดินบิณฑบาตมาสักรูป
ขากลับถือว่าครึกครื้น รถเยอะช่วงเข้าถนนแรกๆ แต่พอวิ่งลึกไปมักเหลือแต่เรากับแม่แค่คันเดียวเสมอ เอาจริงๆ 7-8 ปีที่ผ่านมาไม่เคยเจออะไรเลย !!
แต่พอเราเรียนจบ น้องสาวที่ห่างกัน 7 ปี ก็เริ่มติดรถแม่ไปแทนเรา เพราะเราเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว น้องสาวเป็นคนที่มักได้ยินเสียงอะไรแปลกๆ เสมอ แต่ก็เราเป็นพี่แนวไม่ค่อยเชื่ออะไรง่ายๆ ก็พยายามปล่อยเบลอเนอะ กลัวน้องจะสนใจอะไรกับสิ่งที่อาจคิดไปเอง เลยชอบทำเป็นไม่มีอะไรน่ากังวลเสมอ
ปกติแล้วที่บ้านจะทีทำบุญทุกปี เพื่อทำบุญศาล อุทิศกุศลให้บรรพบุรุษผู้ล่วงลับ เจ้าที่เจ้าทาง และสัมภเวสีรอบๆบ้าน ก็ทำแบบนี้ทุกปีนะ แต่มีอยู่ปีนึงทำช้ากว่าปกติ คือคิดจะทำแหละแต่ยังไม่มีเวลาและโอกาสคุยกันในบ้านจนเริ่มคิดกันละว่าปีนี้อาจไม่ได้ทำก็ได้
คืนนึง แม่กับน้องขับรถฝ่าความมืดกลับมาถึงหน้าบ้าน วันนี้ร้องทำกิจกรรมกว่าจะเลิกก็เย็นมาก ทำให้กว่าจะมาถึงแถวหน้าบ้านก็เกือบ สี่ทุ่มได้ ปกติพอถึงหน้าบ้านน้องจะต้องออกมาเปิดประตูรั้ว วันนี้ก็เช่นกัน
รถจอดหน้าบ้าน มีเพียงแสงไฟหน้ารถส่งไปข้างหน้า น้องเปิดประตูรถออกไป ปกติแล้วพอเปิดไปตาคนเราก็มักจะมองไปทางด้านหลังรถ น้องก็เช่นกัน แต่แล้วน้องรีบกลับขึ้นรถ เอามือปิดหน้า ร้องเสียงหลง ตัวสั่นอย่างแรก น้ำตาไหลนองหน้า แม่ตกใจมากรีบจับมือน้องและถามว่าเกิดอะไรขึ้น พอเห็นท่าไม่ดี แม่เปิดเสียงพระสวดชินบัญชรและค่อยๆบอกให้น้องค่อยๆ หายใจ ช้าๆ สักพักน้องสงบขึ้นและเริ่มพูด
หนูเห็น เห็นเด็กผู้หญิงใส่ชุดเอี้ยมสีแดง ยืนอยู่ท้ายรถ ยืนหันหน้ามาทางหนู แต่เค้าไม่มีหัว !
น้องสาวเล่าให้แม่ฟังและยังก้มหน้าไม่กล้าเงยมองกระจกข้าง
แม่หันมองด้านหลังเพื่อให้น้องเห็นว่าแม่ตรวจเช็คดีแล้ว และเชื่อแม่ว่าตอนนี้ ไม่มีอะไรอยู่ตรงนั้นแล้ว แม่โทรเรียกอาในบ้านให้มาเปิดประตูแทน ถึงเข้าบ้านกันได้
น้องขวัญเสียอยู่นาน เราที่เป็นพี่ได้แต่กอด ปลอบใจ และสร้างขวัญกันยกใหญ่ ถามว่าเชื่อมั้ย ตอบเลยว่าไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ เราไม่เคยเห็นน้องตกใจขนาดนั้นมาก่อน แม้ในยามที่ให้เล่าเรื่องนี้อีกกี่ครั้ง ร้องก็หน้าเสียและขวัญหายตลอด
สุดท้ายปีนั้นก็ทำบุญอยู่ดี ตอนเอาอาหารแบ่งสัมภเวสีหน้าบ้านก็ทำได้แต่พูดว่า อย่าได้แสดงกายให้เห็นเลย มันบาปนะเออทำคนตกใจกลัวเนี่ย
ใครเป็นผู้รู้หรือมีประสบการณ์ ก็แสดงความเห็นหรือชี้แนะได้นะ ยินดีรับฟัง ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะ :)
โฆษณา