28 เม.ย. 2022 เวลา 12:19 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ไพ่เด็ดของรัสเซีย!! เมื่อรัสเซียใช้พลังงานเป็นอาวุธ ชาติพันธมิตรตะวันตกจะจัดการได้ไหม?
การที่รัสเซียหยุดส่งก๊าซธรรมชาติและพลังงานไปให้โปแลนด์และบัลแกเรีย กดดันให้ราคาก๊าซธรรมชาติในยุโรปเพิ่มขึ้นทันที 17%
1
ซึ่งเหตุการณ์นี้มีนัยยะสำคัญมาก ถึงขนาดที่แทบทุกสำนักข่าวใหญ่ต่างประเทศพากันพาดหัวเรื่องนี้ไปตามๆ กัน
ซึ่งในบทความนี้ทาง Bnomics ก็จะมาเล่าให้ทุกฟังว่า เรื่องนี้มันสำคัญอย่างไร? สถานการณ์ตอนนี้น่ากังวลขนาดไหน? และถ้าปัญหามันลุกลามต่อไป ประเทศในยุโรปจะหันไปหาทางเลือกในได้บ้าง?
1
📌 อาวุธในสงคราม ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นในสมรภูมิรบอย่างเดียว
ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ทั้งสองฝ่ายต่างงัดมาตรการ กลยุทธ์ต่างๆ เพื่อตอบโต้กันไปมาเพื่อชิงความได้เปรียบ
หนึ่งในไพ่เด็ดของทั้งสองฝ่าน คือ “อาวุธทางด้านพลังงาน” ที่ฝ่ายต่างขู่ตั้งแต่ช่วงต้นของการบุกรุกว่า สามารถนำมาใช้เพื่อสร้างความเสียหายให้กับอีกฝ่ายหนึ่งได้อย่างสาหัส
อย่างไรก็ดี ในเกมการเมืองระหว่างประเทศก่อนหน้านี้ ก็ยังไม่มีใครตัดสินใจเลือกที่จะใช้ไพ่เด็ด ตัดขาดส่งออกพลังงานของรัสเซียอย่างเด็ดขาด เพราะต้นทุนที่ต้องจ่ายมันสูงมาก
ฝั่งทางประเทศที่สนับสนุนยูเครนนั้น กังวลผลกระทบจากราคาพลังงานที่จะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งมันจะมากระทบกับอัตราเงินเฟ้อโดยตรง ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์เงินเฟ้อในยุโรปก็ไม่ค่อยสู้ดีอยู่แล้ว เมื่อตัวเลขดังกล่าวอยู่สูงกว่า 7% ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา (ขนาดเงินเฟ้อของไทยที่ 5% ก็ว่าหนักแล้ว)
1
ส่วนทางรัสเซียเอง ก็ยังไม่พร้อมจะตัดเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจ ทั้งนี้เพราะ รัสเซียส่งออกสินค้าพลังงานคิดเป็นประมาณ 50% ของการส่งออกทั้งหมดแล้ว
แต่ถึงตอนนั้นจะยังไม่ตัดอย่างเด็ดขาด ทางประเทศยุโรปที่สนับสนุนยูเครน ก็มีการประกาศประชุม และประกาศร่วมมือกันวางแผนจะลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียลงเรื่อยๆ
1
โดยหนึ่งในชาติแรกๆ ที่แม้จะพึ่งพาการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียค่อนข้างมาก แต่ก็ออกมาสนับสนุนการตัดขาดการพึ่งพิงพลังงานจากรัสเซียอย่างชัดเจน ก็คือ “โปแลนด์”
1
กลับมาที่ทางรัสเซีย จากตอนแรกที่ยังดูนิ่งเงียบ ก็เริ่มมีการขยับตอบโต้ออกมา ส่วนที่สำคัญที่สุดส่วนหนึ่ง ก็ไม่ใช่สิ่งใดอื่น นอกเสียจากการที่ประกาศว่า “ชาติที่ไม่ใช่พันธมิตรของรัสเซียต้องจ่ายค่าพลังงานเป็นสกุลเงินรูเบิลของรัสเซียเท่านั้น” ไม่งั้นรัสเซียก็จะเลิกส่งพลังงงานให้ประเทศเหล่านั้น
4
ซึ่งโดยปกติแล้ว การซื้อขายพลังงานระหว่างรัสเซียและยุโรป จะทำกันผ่านสกุลดอลลาร์สหรัฐและยูโร พอรัสเซียประกาศออกมาแบบนี้ หลายๆ ประเทศ นำมาโดยพี่ใหญ่เยอรมนีก็แสดงความไม่พอใจกับรัสเซีย
ที่รัสเซียต้องประกาศให้ชำระเงินเป็นรูเบิลนั้น ส่วนหนึ่งมาจาก “สงครามค่าเงิน” ที่นานาประเทศ ใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการเงินจนมีช่วงหนึ่งเงินของประเทศของรัสเซียอ่อนค่าอย่างรวดเร็วและรุนแรง
1
ก่อนที่ต่อมา รัสเซียจะออกมาตรการต่างๆ มาช่วยลดผลกระทบ ซึ่งไพ่เด็ดใบหนึ่ง ก็คือ การประกาศให้ประเทศอื่นชำระเงินเป็นสกุลรูเบิลของรัสเซีย จึงทำให้ค่าเงินแข็งค่ากลับมา
2
และล่าสุด รัสเซียก็ได้ประกาศจะเลิกส่งก๊าซธรรมชาติไปให้โปแลนด์และบัลแกเรีย หากยังไม่ชำระเงินสินค้าเป็นสกุลเงินรูเบิล ซึ่งก็ส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อตลาดทันที ราคาก๊าซธรรมชาติในยุโรปเพิ่มขึ้น 17% แทบจะทันที ซึ่งก็จะไปซ้ำเติมกับราคาก๊าซของทั้งโลก ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งครั้งนี้อย่างสาหัสพอควรแล้ว
1
นอกจากนี้ ก็ยังส่งผลให้เงินยูโรอ่อนค่าลงด้วย เป็นเหมือนการย้อนศรกลับไปในสงครามค่าเงิน ที่ยุโรปเคยใช้จู่โจมรัสเซียมาก่อน
2
และถ้าไม่รีบแก้ปัญหา ต้นทุนราคาพลังงานก็จะยิ่งซ้ำเติมเรื่องปากท้องของคนยุโรปและทั่วโลก ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่ง สงครามสำคัญในเรื่องเงินเฟ้อ
1
📌 แล้วชาติพันธมิตรตะวันตกจะแก้ไขปัญหาอย่างไร
เริ่มที่พี่ใหญ่อย่างเยอรมนี รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเขาออกมาบอกว่า แม้รัสเซียจะยกเลิกส่งออกน้ำมันดิบมาเยอรนีก็ยังสามารถจัดการกับมันได้
ที่กล้าออกมาพูดแบบนี้ เป็นเพราะว่า ในช่วงระยะเวลาไม่นานหลังจากเกิดความขัดแย้ง เยอรมนีสามารถลดการนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียลงจาก 35% เหลือแค่ 12%
แต่ถึงสถานการณ์การพึ่งพาน้ำมันดิบจะดีขึ้นมาก แต่ส่วนที่น่าเป็นห่วงและลดลงได้ยากกว่า คือ การนำเข้าก๊าซธรรมชาติ
ที่แม้จะลดลงมาแล้วจากกว่า 50% มาเหลือประมาณ 35% ก็ยังอยากที่จะหาทางเลือกสำรองอื่นมาชดเชยส่วนที่จะหายไป หากรัสเซียตัดสินใจไม่ส่งออกพลังงานจริงๆ
2
ขนาดเยอรมนียังลำบาก ประเทศอื่นๆ ที่ต้องพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียก็หาทางเลือกสำรองได้ยากไม่แพ้กัน
หนึ่งประเทศที่อาจจะเป็นแสงสว่างให้กับยุโรปทางด้านพลังงานได้ ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก มหามิตรอันดับหนึ่งนอกทวีปอย่างสหรัฐอเมริกา ผู้ผลิตน้ำมันอันดับหนึ่งของโลก ที่ปกติจะผลิตเองใช้เองไม่ค่อยส่งออก
3
อย่างไรก็ดี ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา พวกเขากลับยังไม่ได้เพิ่มอัตราการผลิตเท่าไรนัก และอัตราการผลิตก็ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าระดับสูงสุดที่เคยทำได้พอสมควร
เบาะแสสำคัญหนึ่ง อยู่ในแบบสำรวจพลังงานของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาดัลลัส ที่เป็นแบบสำรวจความเห็นบริษัทพลังงานในสหรัฐฯ หลายแห่ง
แสดงว่า ผู้ประกอบการในอเมริกากังวลว่า ราคาพลังงานที่สูงนี้จะเป็นเพียงเรื่องชั่วคราว เมื่อตอนช่วงโควิดพวกเขารายได้หดอย่างมาก ตอนนี้ก็อยากจะเก็บเกี่ยวกำไรคืน นักลงทุนในบริษัทเหล่านี้ก็คิดคล้ายกัน จนนำมาซึ่งการไม่เพิ่มกำลังการผลิต
2
และเมื่อมองไปข้างนอกจากกลุ่มพันธมิตรตะวันตก ที่ OPEC ก็ยังดูจะมีความสัมพันธ์ค่อนข้างดีกับรัสเซีย และก็ไม่ได้มีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตอย่างเร่งด่วนเช่นกัน
1
ก็ต้องดูกันว่า ในเวทีการเจรจาชาติพันธมิตรตะวันตกจะนำอะไรไปเสนอในบนโต๊ะเพื่อต่อรอง ให้ประเทศผู้ส่งออกพลังงานรายสำคัญเพิ่มการผลิตได้บ้าง แต่ตอนนี้พวกเขาก็กำลังได้ประโยชน์จากราคาพลังงานที่สูงขึ้นไม่น้อยเช่นกัน
ในส่วนของแหล่งพลังงานทางเลือกอื่นๆ เช่น ถ่านหิน พลังงานหมุนเวียนสะอาด หรือ LNG ก็เป็นส่วนที่ต้องใช้เวลาในการดำเนินงานทั้งสิ้น
กลายเป็นว่า ในระยะสั้นนี้ ยุโรปอาจจะต้องถือคติ “อัตตาหิ อัตตาโนนาโถ หรือ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” นำพลังงานที่เก็บสำรองไว้ออกมาใช้ก่อน
2
แต่เมื่อความไม่แน่นอนยังมีอยู่ ราคาของพลังงานก็ยังมีแนวโน้มจะสูงอย่างนี้ต่อไปอีก ซึ่งนี่ก็จะเป็นปัญหาใหญ่ ที่ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ยุโรปแต่เป็นทั้งโลก
1
ก็ได้แต่หวังว่า สถานการณ์จะคลี่คลาย และสงครามในทุกแง่มุมจะจบลงอย่างรวดเร็วครับ
ผู้เขียน : ณัฐนันท์ รำเพย Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
1
▶️ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
Reference :
เครดิตภาพ : Sputnik/Sergey Guneev/Kremlin via Reuters
โฆษณา