Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Area 52
•
ติดตาม
28 เม.ย. 2022 เวลา 13:26 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
7 โบราณสถาน ที่เชื่อกันว่าถูกสร้างโดยเอเลี่ยน 👽
โลกของเราเป็นบ้านของหลากหลายสถานที่อันงดงามจากหลายยุคหลายสมัยในอดีต บางครั้งสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ดูล้ำยุคเกินกว่าที่เทคโนโลยีในสมัยนั้นจะสร้างได้ นั่นเป็นเพราะสิ่งก่อสร้างบางแห่งก็ใหญ่โตเกินไป หนักเกินไป หรือซับซ้อนเกินไปจึงทำให้เกิดความเชื่อที่ว่า โบราณสถาน อย่างพีรามิดในอียิปต์, ลายเส้นนัซกา รวมไปถึงสิ่งก่อสร้างอื่นๆ อีกมากมาย น่าจะเป็นฝีมือของบางสิ่งบางอย่างที่มาจากนอกโลก
1.อาคารสมัยใหม่ของเมืองคุสโคสว่างไสวอยู่หลังป้อมปราการซัคเซย์ฮัวมัว
https://ngthai.com/history/5556/7-ancient-sites-built-aliens/
ปราการอายุ 1,000 ปีที่เชื่อมต่อกันนี้สร้างจากก้อนหินหลายก้อนรวมกันมีน้ำหนักมากถึง 360 ตัน เรียงรายเป็นแนวกำแพงยาวมากกว่า 20 ไมล์ ก่อนที่จะยกตัวขึ้นเข้าพอดีกับภูมิประเทศ ราวกับถูกตัดด้วยแสงเลเซอร์
2.ลายเส้นนัซกา บนผืนทะเลทรายเปรู
https://ngthai.com/history/5556/7-ancient-sites-built-aliens/
บนที่ราบสูงอันแห้งแล้งที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงลิมา ลายเส้นสีขาวกว่า 400 ลายกระจัดกระจายทั่วผืนทะเลทรายของเปรู งานศิลป์จากอารยธรรมโบราณเหล่านี้ถูกวาดอย่างกระจัดกระจาย ประกอบด้วยรูปเรขาคณิต 300 รูป และรูปสัตว์อีก 70 รูป ในจำนวนนี้มีทั้งแมงมุม, ลิง, และนกฮัมมิ่งเบิร์
3.พีรามิดในอียิปต์
https://ngthai.com/history/5556/7-ancient-sites-built-aliens/
นอกกรุงไคโร ในเมืองกีซา พีรามิดที่มีชื่อเสียงที่สุดของอียิปต์ตั้งตระหง่านอยู่เหนือผืนทราย สิ่งก่อสร้างอันน่าทึ่งนี้มีอายุเก่าแก่ถึง 4,500 ปี ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสุสานแก่ฟาโรห์และราชินีเมื่อพวกเขาสวรรคต
ในขณะที่บรรดาผู้ที่มีความเชื่อกันว่าพีรามิดถูกสร้างขึ้นจากเอเลี่ยนนั้นก็ยกข้อคิดเห็นที่ว่า พีรามิด 3 แห่ง ในกีซานี้มีสภาพดีกว่าพีรามิดอื่นๆ (โดยลืมนึกถึงความจริงไปว่ามีแรงงานมากมายที่บำรุงรักษาพีรามิดอยู่นานหลายร้อยปี)
สรุปแล้วพีรามิดถูกสร้างโดยมนุษย์ต่างดาวจริงหรือไม่? คำตอบคือไม่ใช่แน่นอน แม้นักวิทยาศาสตร์จะไม่แน่ใจว่าชาวอียิปต์โบราณสร้างพีรามิดอย่างไร และสร้างด้วยวิธีไหน แต่มีหลักฐานมากพอที่จะระบุได้ว่าสุสานเหล่านี้เป็นผลงานของแรงงานนับพันที่เคยอาศัยอยู่บโลกใบนี้
4.สโตนเฮนจ์
https://ngthai.com/history/5556/7-ancient-sites-built-aliens/
ก้อนหินขนาดใหญ่ตั้งเรียงรายเป็นวงกลม บางก้อนมีน้ำหนักมาถึง 50 ตัน โบราณสถานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ชนบทในอังกฤษ นอกเมืองซอลส์บรี เป็นที่รู้จักในนาม “สโตนเฮนจ์” อนุสาวรีย์โบราณที่เป็นแรงบันดาลใจให้ Erich von Däniken นักเขียนชาวสวิสเซอร์แลนด์ ตั้งทฤษฎีว่าสถานที่แห่งนี้คือแบบจำลองของจักรวาล รวมไปถึงเป็นสถานที่ที่เชื่อมโยงกับมนุษย์ต่างดาว ว่าแต่ว่าก้อนหินเหล่านี้เดินทางมาได้อย่างไร เป็นระยะทางหลายร้อยไมล์ จากแหล่งกำเนิดภายในเหมือง?
5.มหาพีรามิดเตโอติฮัวคาน (TEOTIHUACÁN)
https://ngthai.com/history/5556/7-ancient-sites-built-aliens/
เตโอติฮัวคานมีความหมายว่า “อาณาจักรของพระเจ้า” อารยธรรมโบราณของเม็กซิโก ที่เป็นที่รู้จักจากมหาพีรามิดและสถานดูดาวอันโด่งดัง สร้างขึ้นเมื่อ 2,000 ปีก่อน โดยชาวเตโอติฮัวคาน ด้วยขนาดและความซับซ้อนของสิ่งก่อสร้างนี้ดูยิ่งใหญ่ราวกับว่ามันสร้างขึ้นโดยผู้ที่มาจากนอกโลก แต่ในความเป็นจริงแล้ว นี่คือผลงานของมนุษย์
สิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่รู้จักดีที่สุดคือมหาพีรามิดดวงอาทิตย์ หนึ่งในสิ่งก่อสร้างโบราณที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในซีกโลกตะวันตก โดยตำแหน่งของการก่อสร้างพีรามิดถูกตั้งตามปฏิฑินของพวกเขา
6.เกาะอีสเตอร์
https://ngthai.com/history/5556/7-ancient-sites-built-aliens/
“โมไอ” คือชื่อของก้อนหินขนาดใหญ่ที่ถูกแกะสลักเป็นรูปคนตั้งรายล้อมรอบเกาะอีสเตอร์ วัตถุโบราณเหล่านี้เต็มไปด้วยปริศนามากมาย เช่น ชาวเกาะสร้างสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร เมื่อ 1,000 ปีก่อน และโมไอเหล่านี้มีความหมายอะไร?
หินแกะสลักเหล่านี้มีจำนวนมากถึง 900 ชื้น เรียงรายตามแนวภูเขาไฟที่ดับแล้วของเกาะ เฉลี่ยความสูงของโมไออยู่ที่ 13 ฟุต น้ำหนัก 14 ตัน ถูกแกะสลักจากหินภูเขาไฟจากเหมือง Rano Raraku ในจำนวนนี้โมไอจำนวน 400 ชั้นยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการก่อสร้างและมีจำนวนมากที่นอนเรียงรายอยู่ตามพื้นดิน
เหตุผลของการสร้างโมไอเหล่านี้ยังเป็นปริศนา เชื่อกันว่ารูปสลักเหล่านี้มีขึ้นเพื่อเหตุผลทางศาสนาหรือพิธีกรรมบางอย่าง แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นกับชาวเกาะผู้อยู่เบื้องหลังผลงานเหล่านี้ แต่มีทฤษฎีที่เชื่อกันมากที่สุดระบุว่าการโค่นต้นไม้เพื่อสร้างอุปกรณ์ในการขนย้ายตลอดจนแกะสลักหินเหล่านี้เป็นเหตุให้ระบบนิเวศของเกาะถูกทำลาย จนเกาะไม่สามารถอยู่อาศัยได้อีกต่อไป
7.ใบหน้าบนดาวอังคาร
https://ngthai.com/history/5556/7-ancient-sites-built-aliens/
หากอีลอน มัสก์ ทำได้ตามเป้าหมาย มนุษย์เราจะมีโอกาสได้ขึ้นไปเยี่ยมชม “ใบหน้าบนดาวอังคาร” ซึ่งไม่แน่ว่าอาจเกิดขึ้นจริงในศตวรรษนี้ ใบหน้านี้ถูกพบโดยยานอวกาศ Viking 1 เมื่อปี 1976 ใบหน้าที่มีความยาวเกือบ 2 ไมล์นี้ ตั้งอยู่ในภูมิภาคที่มีชื่อเรียกว่า Cydonia ในตอนนั้นนักวิทยาศาสตร์เข้าใจว่าใบหน้านี้เป็นเพียงเงาที่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาสถานที่นี้ได้กลายเป็นที่ถูกอกถูกใจของบรรดาผู้ชื่นชอบมนุษย์ต่างดาวและคิดว่าพวกเขาเดินทางท่องอวกาศกันมาแล้ว
ในปี 2001 ยานอวกาศมาร์ส โกลบอล เซอร์เวเยอร์ใช้กล้องความละเอียดสูงพิจารณาสถานที่ดังกล่าวให้ละเอียดอีกครั้งพวกเขาไม่พบใบหน้าใดๆ บนนั้น ปรากฏว่าสิ่งที่ดูเหมือนใบหน้านั้นเป็นแค่เนินลาดชันเท่านั้น…อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าดาวอังคารไม่ใช่สถานที่ที่น่าไปเยือนสักครั้ง
แหล่งที่มาข้อมูล
https://ngthai.com/history/5556/7-ancient-sites-built-aliens/
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย