Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Lumpsum : ที่ปรึกษาวางแผนการเงินส่วนบุคคล
•
ติดตาม
4 พ.ค. 2022 เวลา 03:02 • ปรัชญา
แอดมินเองก็เป็นพนักงานประจำคนหนึ่ง ที่กล้าพูดอย่างเต็มปากว่า ฉันเป็นมนุษย์เงินเดือนมืออาชีพ และมีความตั้งใจว่า เราสามารถสร้างความมั่งคั่งและรวยได้ จากเส้นทางการเป็นมนุษย์เงินเดือนนี่แหละ (ใครสนใจก็ไปด้วยกันนะคะ)
เมื่อก่อนนี้แอดมินก็มีความคิดเหมือนคนส่วนใหญ่ ว่าเป็นมนุษย์เงินเดือนคงไม่มีทางรวยได้ แต่เมื่อเห็นความจริงว่า หากเป็นมนุษย์เงินเดือน มีรายได้ประจำ มีความมั่นคงในระดับนึง แล้วยังไม่รวย การออกไปเป็นเจ้าของธุรกิจก็คงเจ๊ง เพราะการเปลี่ยนผลลัพธ์ของชีวิตให้ร่ำรวยมั่งคั่ง ไม่ใช่เปลี่ยนที่ปลายทาง แต่ต้องเปลี่ยนที่ต้นทาง คือ ความคิด หรือ Mindset
แล้ว Mindset แบบไหน ที่จะทำให้พนักงานประจำรวยได้เหมือนผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจ … ก็ Mindset แบบผู้ประกอบการยังไงล่ะ
วันนี้แอดมินมี 7 วิธีคิด ในการเป็นมนุษย์เงินเดือนให้เติบโตก้าวหน้า และไม่มีวันตกงาน เป็นวิธีคิดที่ทำให้เราร่ำรวยได้ตั้งแต่ยังทำงานประจำ จาก อ.บี คงเกียรติ ฉัตรหิรัญทรัพย์ Founder & CEO Beyond Training ที่เคยพูดไว้อย่างน่าสนใจ และหลายข้อแอดมินลองเอามาใช้ พบว่าได้ผลดีจึงอยากเอาแบ่งปันค่ะ
1. ทำงานเกินเงินเดือน
ข้อนี้หลายคนอาจคิดว่า ทำแบบนี้ก็ถูกบริษัทเอาเปรียบสิ แต่แอดมินอยากให้ลองมองอีกมุมนึงค่ะ ว่าการทำงานเกินเงินเดือนให้ลองตั้งต้นว่า ทำอะไรแล้วเราจะเก่งขึ้น ส่วนเงินเดือนเป็นของแถม ซึ่งแอดมินใช้วิธีคิดนี้มาตลอดการทำงาน ทำให้ได้ทำอะไรอะใหม่ๆ มากมาย ที่ทั้งสนุกด้วย และได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นด้วย (Lumpsum คือหนึ่งในนั้น)
หากได้รับงานเพิ่ม อย่าเพิ่งคิดถึงว่าเงินเดือนจะเพิ่มรึเปล่า แต่ให้คิดว่าเราจะมีทักษะอะไรเพิ่มมั้ย หรือถ้าให้ดีอย่ารอให้ออฟฟิศให้งานเพิ่ม แต่เสนอตัวทำงานเพิ่มเองเลย จะได้เลือกสิ่งที่เราต้องการเรียนรู้ได้ อิอิ
เมื่อเรามีทักษะเพิ่มขึ้น ก็ย่อมเป็นที่ต้องการ ถ้าทำแล้วออฟฟิศไม่เห็นค่า เราจะเป็นฝ่ายเลือกได้ว่าจะทำงานที่นี่มั้ย เมื่อเราเก่งขึ้น ย่อมมีคนเห็นคุณค่าเอง
2. ตั้งเป้าที่ผลลัพธ์
คือมั่นคงและโฟกัสกับเป้าหมาย แล้วสมองจะทางไปให้เราเอง ตามกฎของสมองที่ว่า เราโฟกัสสิ่งใดสมองจะมองเห็นสิ่งนั้น เทคนิคคือ อย่าเพิ่งหาข้ออ้างหรือหาเหตุผลให้ตัวเองว่าทำไม่ได้ เปิดความคิดไว้ก่อนว่าทุกอย่างเป็นไปได้ ถ้าตั้งเป้าไว้ 100 แต่ทำแล้วได้ 80 ก็ยังดีกว่ามีข้ออ้างและไม่ได้เริ่มทำ
เพจ Lumpsum เป็นตัวอย่างในข้อนี้ได้ เพราะตอนที่เริ่มทำ เป้าหมายมันดูไกลมาก เทียบกับทักษะ ความสามารถที่มี แต่ทีมงานทุกคนเชื่อว่ามันเป็นไปได้ และช่วยกันมองหาทางไป จนถึงตอนนี้มันเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ตอนแรกแล้ว ที่เหลือก็เติบโตต่อไป สิ่งที่พวกเราได้เรียนรู้คือ ถ้าเราคิดว่ามันเป็นไปได้ มันก็มีโอกาสเป็นไปได้ โฟกัสที่เป้าหมายเอาไว้
3. ใช้ทรัพยากรน้อยที่สุด ให้เกิดผลลัพธ์มากที่สุด
แม้เราจะเป็นลูกจ้าง แต่ถ้าพยายามหากระบวนการที่ทำน้อยได้มาก นอกจากออฟฟิศจะได้ประโยชน์ เจ้านายจะเลิฟเราแล้ว ยังเป็นการฝึกทักษะตัวเอง ทำให้เราเก่งขึ้นด้วย
สำหรับความคิดแอดมิน ไม่ว่าเราจะทำงานอะไรก็ตาม “ความสามารถ” ที่เพิ่มขึ้นเราจะได้ประโยชน์เป็นคนแรก เพราะมันจะเป็นสิ่งที่ติดตัวเราตลอดไป แต่หากมันสามารถสร้างผลประโยชน์ให้กับออฟฟิศได้ด้วย ก็ถือว่า win win ทั้ง 2 ฝ่าย
4. คิดแบบผู้ผลิต
คน 80% คิดแบบผู้บริโภค เงินจึงไหลออกจากกระเป๋า ถ้าคิดแบบผู้ผลิต เงินจะไหลเข้ากระเป๋าเรา ในการทำงานประจำเราอาจจะลองสร้างสิ่งใหม่จากสิ่งเดิม เช่น เราซื้อของจากโปร 7/7 ก็หาวิธีเอามาใช้ทำเงินให้เราบ้าง
1
ถ้าเป็นในด้านการทำคอนเทนต์ ก็อาจจะเป็นการเกาะกระแส เอามาทำคอนเทนต์ เป็นต้น หรือหากใครอยู่ในอาชีพอื่นๆ ก็ลองเอาไปปรับใช้ดูนะคะ
5. เป็นนักหาทรัพยากรเพิ่ม
ข้อนี้อาจจะคล้ายๆ กับข้อ 3 แต่นอกจากจะใช้ทรัพยากรที่มีให้เกิดผลลัพธ์มากที่สุดแล้ว มนุษย์เงินเดือนอย่างเราก็สามารถหาทรัพยากรเพิ่ม โดยไม่เพิ่มต้นทุนให้กับบริษัทได้ อย่างเช่นเพจ Lumpsum ที่หาทางพาร์ทเนอร์กับคนดังๆ ในวงการบริหารเงิน บริหารหนี้ เช่นโค้ชหนุ่ม หรือหากใครเคยเจอโพสต์ของ Lumpsum ที่แชร์ไปเพจ สรุปให้ ก็เกิดมาจากความพยายามในการหาทรัพยากรเพิ่ม เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายนั่นเอง
หรืออาจเป็นเรื่องใกล้ตัวอย่างการสร้างความสัมพันธ์กับคนในองค์กร ก็อยู่ในข้อนี้ เพราะคนสำเร็จเก่งงานไม่พอต้องเก่งคนด้วย หากเรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกแผนก ก็จะได้ความร่วมมือที่จะมาช่วยเหลือหรือซัพพอร์ตในสิ่งที่เราต้องการ เพื่อไปสู่เป้าหมาย
6. มีความสามารถหลากหลาย
ทุกคนคงไม่ปฏิเสธว่า ยิ่งมี skill ที่หลากหลาย ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ แล้วความสามารถหลากหลายเราจะได้มากจากไหน หากคิดว่าแค่ทำงานประจำก็ไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นแล้ว ก็ลองหามันจากงานที่ทำนี่แหละ หายังไงไปอ่านข้อ 1 ซ้ำได้ค่ะ
7. เรียนรู้ตลอดชีวิต
การเรียนรู้คือทางรอด ไม่ใช่ทางเลือก และเราต้องเรียนรู้ตลอดเวลา ตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไวมาก ที่ผ่านมาเราก็ได้เห็นแล้วว่า คนที่ปรับตัวไม่ทัน ก็อยู่ไม่รอด ไม่ว่าจะเป็นระดับองค์กร หรือระดับบุคคลก็ตาม
หากให้เลือกข้อที่สำคัญที่สุดใน 7 ข้อคิดนี้ แอดมินขอเลือกข้อ 7 นี่แหละ เพราะใครมีคุณสมบัติข้อนี้ อีก 6 ข้อที่เหลือก็จะตามมาเอง
ลองเอาทั้ง 7 วิธีคิดนี้ไปพิจารณาดูนะคะ หากเห็นว่าน่าจะมีประโยชน์ก็เอาไปปรับใช้กันดู ซึ่งหากใครที่คิดแบบนี้ได้ แอดมินเชื่อว่าจะสามารถสร้างความร่ำรวยได้ตั้งแต่เป็นพนักงานประจำนี่แหละ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องเดียวกับทฤษฎีผีเสื้อที่แอดมินเคยเขียนไว้ (เผื่อใครยังไม่เคยอ่านที่ link นี้นะคะ
https://www.facebook.com/lumpsumofficial/posts/1087888425274930
)
2
หากเราเป็นมนุษย์เงินเดือน แต่มีความคิดแบบผู้ประกอบการ ก็เหมือนเราหมั่นปลูกสวนดอกไม้ของตัวเอง ให้มีคุณค่าเพิ่มขึ้น ผีเสื้อหรือผลตอบแทนก็จะบินมาหาเราเอง อาจจะด้วยการได้เลื่อนตำแหน่ง ได้ขึ้นเงินเดือน หรือมีโอกาสได้เปลี่ยนงาน หรือแม้แต่การขยับขยายไปทำธุรกิจส่วนตัว ก็สามารถใช้ Mindset ของผู้ประกอบการที่ฝึกมาตั้งแต่เป็นมนุษย์เงินเดือน มาใช้ประโยชน์ได้
ถ้าต้องการเปลี่ยนผลลัพธ์ในชีวิต เราต้องเปลี่ยนที่ระดับความคิดภายใน ไม่ใช่เปลี่ยนภายนอก เหมือนถ้าต้องการกินมะม่วง ก็ต้องปลูกต้นมะม่วง ไม่ใช่ไปตกแต่งกิ่งมะละกอแล้วเฝ้ารอผลมะม่วง มันไม่มีทางเป็นไปได้
1
เหนือสิ่งอื่นใด ทุกคนมีเส้นของตัวเอง กำหนดจุดหมายให้ชัดเจน แล้วเลือกเส้นทางหรือวิธีการที่จะเดินทางไป ซึ่งไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน ตัวแอดมินเองในตอนนี้ก็เลือกเส้นทางของมนุษย์เงินเดือน เพื่อสร้างความมั่งคั่งและฝึกทักษะให้กับตัวเอง เพราะ “อนาคต” เป็นผลจากการเลือกของ “วันนี้”
ถ้าใครยังอยู่ในเส้นทางของมนุษย์เงินเดือน ก็ขอให้เลือกวิธีคิดที่จะทำให้เราเติบโตก้าวหน้า อย่าเลือกทำงานไปวันๆ เพื่อรับเงินเดือนและรอวันหยุด เพราะมันไม่ส่งผลดีแน่ๆ ทั้งกับวันนี้และอนาคต … อวยพรทุกคนให้เจอเส้นทางของตัวเองโดยเร็วนะคะ
1
ขอบคุณสำหรับทุกการติดตามด้วยค่ะ ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ
แอดมินเก๋
ใครอยากฟัง Live สัมภาษณ์ อ.บี ที่ link นี้เลยนะคะ
https://youtu.be/AJJCPOatkJo
พัฒนาตัวเอง
ธุรกิจ
การเงิน
9 บันทึก
4
10
9
4
10
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย