30 เม.ย. 2022 เวลา 23:00 • ธุรกิจ
แนวโน้มธุรกิจบริการในจีน
โรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดเป็นระยะๆ ทำให้รายได้ของผู้บริโภคชาวจีนบางส่วนได้รับความเสียหาย สถานบริการได้รับข้อจำกัด และส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยของชาวจีน โดยวัยรุ่นจีนที่มีรายได้ไม่ค่อยแน่นอนจะลดการบริโภคสินค้าบางส่วนเพื่อรักษาความสมดุลในการใช้ชีวิตประจำวัน สำหรับผู้บริโภคที่มีอายุสูงกว่า มีอาชีพและรายได้ที่เสถียรกว่า ส่วนใหญ่จะบริโภคสินค้าด้านการท่องเที่ยวและความสวยงามน้อยลง การพบปะสังสรรค์ก็น้อยลงเช่นกัน ในขณะที่จะบริโภคอัญมณี สินค้าฟุ่มเฟือย และสินค้าในครัวเรือนมากขึ้น อีกทั้งจะทุ่มเทกับการศึกษาของบุตรมากขึ้น
ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากจะต้องให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูรายได้ และการดำเนินกิจการของสถานบริการแล้ว ยังต้องให้ความสำคัญกับความต้องการสินค้าของผู้บริโภคที่ซบเซาลง เนื่องจากผู้บริโภคจะต้องใช้ชีวิตอยู่ในที่พักมากขึ้นจนกลายเป็นความเคยชิน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการสินค้าโดยเฉพาะสินค้าบริการ ถึงแม้ไม่กี่ปีมานี้ ชาวจีนจะมีรายได้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว การบริโภคสินค้าบริการมีแนวโน้มสูงขึ้น อัตราการขยายตัวของ GDP เฉลี่ยต่อหัวของจีนอยู่ในระดับสูง แต่เมื่อเทียบกับสหรัฐฯ และญี่ปุ่นจะพบว่า GDP เฉลี่ยต่อหัวของจีนยังคงรั้งท้ายสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ซึ่งเทียบเท่ากับสหรัฐฯ ในยุค 1940 และญี่ปุ่นในยุค 1980
เมื่อพิจารณาธุรกิจที่พักอาศัยในจีนจะพบว่า เมื่อปลายปี 2563 ธุรกิจที่พักอาศัยในจีนมีจำนวนทั้งหมด 447,000 แห่ง ขยายตัวลดลงร้อยละ 26 โดยเป็นธุรกิจโรงแรมจำนวน 279,000 แห่ง ขยายตัวลดลงร้อยละ 17 เมื่อพิจารณาจำนวนห้องพักพบว่า ธุรกิจที่พักมีจำนวนห้องพักทั้งสิ้น 16.20 ล้านห้อง ขยายตัวลดลงร้อยละ 14 เป็นห้องพักของโรงแรมจำนวน 15.33 ล้านห้อง ขยายตัวลดลงร้อยละ 13 แสดงให้เห็นว่าขนาดของธุรกิจที่พักอาศัยในจีนอยู่ในสภาวะหดตัว และธุรกิจที่พักขนาดเล็กที่มีจำนวนห้องพักน้อยกว่า 15 ห้อง ได้รับผลกระทบมากกว่าธุรกิจที่พักขนาดใหญ่
เมื่อพิจารณารายได้ของธุรกิจโรงแรมพบว่า ปี 2558 มีรายได้จำนวน 84,400 ล้านหยวน (ประมาณ 430,440 ล้านบาท) และในปี 2562 ได้เพิ่มขึ้นเป็น 117,900 ล้านหยวน (ประมาณ 601,290 ล้านบาท) อัตราการขยายตัวเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 8.7 ต่อปี แต่ในปี 2563 ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ทำให้มีรายได้เพียง 77,600 ล้านหยวน (ประมาณ 395,760 ล้านบาท) หดตัวลงจากปีก่อนหน้าจำนวนมาก อย่างไรก็ดี ในอนาคตธุรกิจโรงแรมในจีนจะมีแนวโน้มโตขึ้นอย่างต่อเนื่องตามเศรษฐกิจจีนและรายได้ประชากรจีนที่จะโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าปี 2568 รายได้ของธุรกิจโรงแรมในจีนจะมีมูลค่าสูงถึง 183,900 ล้านหยวน (ประมาณ 937,890 ล้านบาท) อัตราการขยายตัวเฉลี่ยจะอยู่ที่ร้อยละ 18.8 ต่อปี
เมื่อพิจารณาธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มจะพบว่า ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มของจีนในต้นปี 2565 ฟื้นตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยระหว่างเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม มีรายได้จำนวน 771,800 ล้านหยวน (ประมาณ 3.93 ล้านบาท) ขยายตัวขึ้นร้อยละ 8.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และขยายตัวขึ้นร้อยละ 6.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 นอกจากนี้ เมื่อพิจารณารายได้ของธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มขนาดใหญ่ของจีนจะพบว่า มีมูลค่า 172,000 ล้านหยวน (ประมาณ 877,200 ล้านบาท) ขยายตัวขึ้นร้อยละ 10.1 และ 13.4 เมื่อเทียบกับปี 2564 และปี 2562
อย่างไรก็ดี การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจร้านอาหารอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้ธุรกิจอาหารดิลิเวอรีเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและมูลค่าการบริโภคเฉลี่ยต่อครั้งของผู้บริโภคมีมูลค่าสูงขึ้น เนื่องจากโครงสร้างของธุรกิจอาหารดิลิเวอรีที่เปลี่ยนไปจากเดิมและการบริโภคในครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตัวเลขสถิติชี้ว่า ปี 2564 ธุรกิจอาหารดิลิเวอรีของจีนมีมูลค่าสูงถึง 811,700 ล้านหยวน (ประมาณ 4.13 ล้านบาท) และมีอัตราการแทรกซึมอยู่ที่ร้อยละ 17.3 แต่เมื่อพิจารณาอัตราการแทรกซึมของธุรกิจอาหารดิลิเวอรีของญี่ปุ่นจะพบว่าเกือบถึงร้อยละ 25 ดังนั้น อัตราการแทรกซึมในจีนยังมีช่องว่างการเติบโตมากพอสมควร และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่าธุรกิจที่พักอาศัยหรือโรงแรมได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 เป็นอย่างมากทั้งขนาดและรายได้ของธุรกิจล้วนหดตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคฯ ในขณะที่ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มยังคงโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากผู้บริโภคจีนยังคงต้องการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่จำหน่ายในร้านอาหาร และยังมีธุรกิจดิลิเวอรีที่จัดส่งอาหาร อย่างไรก็ตาม จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีความรุนแรงมากขึ้นในหลายพื้นที่ของจีนในปัจจุบันโดยเฉพาะในเมืองใหญ่และเมืองรอง อาจทำให้ธุรกิจบริการที่อยู่ในพื้นที่ต้องเผชิญกับปัญหาและความไม่แน่นอนมากขึ้น เช่น จำนวนลูกค้าลดลง การปิดกิจการชั่วคราว การขาดแคลนทรัพยากรมนุษย์และวัตถุดิบ เป็นต้น ดังนั้น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องควรเตรียมรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าเพื่อให้ผ่านวิกฤตไปได้ สำหรับผู้ที่จะลงทุนในธุรกิจบริการในตลาดจีนไม่ควรรีบตัดสินใจ เพราะสถานการณ์ในปัจจุบันยังไม่นิ่งและยังไม่แน่นอน
โฆษณา