บทเรียนล้ำค่าที่ได้จากการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี Berkshire Hathaway (Brk) 2022
เป็นประจำทุกปีที่ผมจะมาสรุปบทเรียนจากการประชุมผู้ถือหุ้นของ Brk ที่มีทั้งคุณปู่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ และชาร์ลี มังเกอร์มาให้ความรู้กับนักลงทุนทั่วโลก
ในปีนี้เป็นครั้งแรกที่กลับมาประชุมแบบเจอหน้าเจอตากันอีกครั้งหลังจากหยุดไปสองปีในช่วงโควิด ผมขอสรุปให้ทุกคนได้อ่านและติดตามเพื่อการเรียนรู้กันดังนี้
✅ เปิดด้วยรายงานผลประกอบการของ Brk ในไตรมาสหนึ่งปี 2022 ปรากฏว่ากำไรสุทธิลดลงถึง 53% อยู่ที่ $5,460 ล้าน ลดลงจากปีที่แล้วที่ $11,710 ล้าน แต่ถ้าดูรายละเอียดงบการเงินแล้วพบว่ากำไรจากการดำเนินงานแทบจะเท่าเดิมเลยที่ $7,040 ล้าน
ในทางบัญชีบริษัทได้รับผลกระทบทางลบจากการลงทุนในบริษัทในตลาดหุ้นติดลบถึง $1,580 ล้าน และได้รับผลกระทบจากธุรกิจประกันที่กำไรลดลงถึง 94% เหลือเพียง $47 ล้าน จาก $764 ล้านเมื่อปีที่แล้ว ส่วนการซื้อหุ้นคืนก็ลดลงจาก $6,900 ล้านในไตรมาสที่สี่ปีที่แล้วเหลือ $3,200 ล้านในไตรมาสที่หนึ่งปีนี้
✅ Brk ซื้อหุ้นไปกว่า $51,000 ล้านในไตรมาสที่หนี่งปี 2022 โดยหุ้นที่ซื้อได้แก่ Chevron(ซื้อเพิ่ม), HP, Occidental Petroleum, Alleghany, Activision Blizzard(ซื้อเพิ่ม) นอกจากนี้คุณปู่วอร์เรนอย่างเปิดเผยว่าได้ซื้อหุ้นแอปเปิ้ลเพิ่มในไตรมาสที่หนึ่งด้วย แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นเงินจำนวนเท่าไหร่
✅ คุณปู่บอกว่า Brk ใช้หลักการถือเงินสดไว้ตลอดเวลาเพราะมันจำเป็นมาก ในช่วงที่เกิดวิกฤต ตอนปี 2008-2009 บริษัทใหญ่ๆต้องการเงินก็จะวิ่งเข้ามาหา Brk ตอนนี้บริษัทมีเงินสดสภาพคล่องดีกว่าแบงค์อีก ก็เลยแซวว่าทำไมต้องมีแบงค์อยู่อีก คุณปู่เน้นย้ำว่าการมีเงินสดเหมือนการมีออกซิเจนที่อยู่กับเราตลอดเวลา แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราไม่มีเงินสด เหมือนขาดออกซิเจนไป เมื่อนั้นทุกอย่างก็จะจบลง เราอาจจะจะเสียโอกาสเข้าซื้อหุ้นในช่วงวิกฤต
✅ คุณปู่ยังคงไม่เชื่อในการลงทุนในบิทคอยน์ คุณปู่ยกตัวอย่างให้เห็นภาพว่าถ้าวันนี้พวกเรานำเสนอคุณปู่ให้จ่ายเงินประมาณ $25,000 ล้าน เพื่อเป็นเจ้าของ 1% ของพื้นที่ดินฟาร์มในอเมริกาหรือเป็นเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ทั้งหมดในอเมริกา คุณปู่จะเซ็นเช็คแล้วจ่ายเราตอนบ่ายทันทีเลย
แต่ถ้าวันนี้พวกเรามาหาคุณปู่แล้วบอกว่าเป็นเจ้าของบิทคอยน์ทั้งหมดในตลาด แล้วต้องการให้คุณปู่จ่ายเงินเพียงแค่เศษเสี้ยวของก้อนแรกก็คือ $25 แม้ว่าเงินจะน้อยมาก คุณปู่บอกว่าจะไม่ซื้อเพราะว่าไม่รู้จะซื้อไปทำไม
การลงทุนในบิทคอยน์คือการคาดหวังว่าเราซื้อในราคาที่สามารถขายต่อคนอื่นได้ราคาที่สูงกว่าได้เท่านั้นเอง แต่ตัวมันเองไม่ได้ผลิตกระแสเงินสดหรือสร้างผลิตผลอะไรให้กับเจ้าของเลย
คุณปู่กล่าวทิ้งท้ายว่าต่อให้ Brk มีสกุลเงินของตัวเองเขาก็เชื่อว่ารัฐบาลอเมริกาคงไม่ปล่อยให้เงิน Brk มาทดแทนเงินตราของรัฐบาลได้อย่างแน่นอน
✅ คุณปู่บอกว่าหาธุรกิจที่ลงทุนในขนาดใหญ่ได้ยากมากๆเลยตอนนี้ เขาค่อนข้างเปิดที่จะลงทุนในต่างประเทศด้วย โดยก่อนหน้านี้ทางทีมงานก็ได้มีการลงทุนในสองบริษัทที่ยอดเยี่ยมในเยอรมันและอีกหนึ่งบริษัทในประเทศญี่ปุ่น
คุณปู่บอกว่าสไตล์การซื้อธุรกิจของเขาคือการพูดคุยเพียงแค่ 10 นาทีไม่ต้องการมีขั้นตอนอะไรมากมาย ก็สามารถปิดดีลได้ เพราะคุณปู่ติดตามธุรกิจมานานมากอยู่แล้ว
✅ คุณปู่ชาร์ลีกล่าวว่าตอนนี้ตลาดเต็มไปด้วยการเก็งกำไรมากมาย มันมีทั้งการใช้คอมพิวเตอร์ระบบที่เรียกว่า High Frequency Algorithmic Trading ที่มาแข่งซื้อขายระหว่างกัน สิ่งที่แย่ไปกว่านั้นก็คือนักลงทุนที่เข้ามาเก็งกำไรส่วนมากแล้วไม่รู้เรื่องหุ้นเลย และที่แย่ที่สุดคือพวกโบรกเกอร์ยิ่งรู้น้อยกว่านักลงทุนอีก คุณปู่วอร์เรนเลยพูดแทรกขึ้นมาว่าพวกโบรกเกอร์รู้เรื่องค่าคอมมิชั่นดีน่ะ
✅ คุณปู่ชาร์ลีโวยว่าการที่ CalPERS กองทุนบำนาญที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาจะโหวตให้ถอดถอนตำแหน่ง Chairman จากคุณปู่วอร์เรน โดยจะให้คุณปู่ดำรงแค่ตำแหน่ง CEO เท่านั้นโดยให้เหตุผลเรื่องความโปร่งใส ผู้บริหารไม่ควรที่จะดำรงสองตำแหน่งในเวลาเดียวกัน
ชาร์ลีเลยโวยว่าการกระทำครั้งนี้เป็นสิ่งที่น่าตลกและน่าวิจารณ์มากที่สุดที่เขาเคยได้ยินมา มันเหมือนกับการที่นักรบไปออกศึกแล้วกลับมาด้วยชัยชนะ แต่คุณบอกเขาว่าคุณไม่ชอบดาบที่เขาเพิ่งใช้เอาชนะข้าศึกมา มันดูตลกมาก
✅ Ajit มือขวาของคุณปู่ที่ตอนนี้บริหารธุรกิจประกันให้กับทาง Brk อยู่ ได้ออกมายอมรับว่าตอนนี้ธุรกิจประกันรถยนต์ของทางบริษัทตามหลังคู่แข่งอย่าง Progressive อยู่เพราะว่าทางคู่แข่งมีการใช้งาน Telematics ในรถยนต์ของผู้ใช้ ซึ่งมันช่วยให้สามารถรู้ข้อมูลพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ทำประกันได้ ใครขับดีก็จะได้ราคาประกันที่ลดลง เขายอมรับว่าทาง Brk ยังไม่มีการใช้ Telematics ในขณะที่คู่แข่งมีการใช้งานมามากกว่า 10 ปีแล้ว เขากล่าวว่าตอนนี้ได้มีการปรับตัวแล้วและคิดว่าภายในปีหน้าหรืออีกสองปี Brk จะอยู่ในตำแหน่งที่แข่งขันได้ดียิ่งขึ้น
✅ คุณปู่บอกว่าไม่เคยทำได้ดีเลยในการคาดการณ์ตลาดหุ้นว่ามันจะขึ้นหรือลงเมื่อไหร่ มันทำให้เขาพลาดโอกาสการลงทุนไปในหลายครั้ง ยกตัวอย่างตอนล่าสุดในช่วงเกิดโควิดแรกๆในปี 2020 ในช่วงนั้นเขาไม่ได้ซื้อหุ้นอะไรเลยทั้งที่ดัชนีดาวโจนส์ลงมาถึง 12.9% ในหนึ่งวัน มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1987
คุณปู่ก็ไม่เดือดร้อนอะไร เขาคิดว่าการลงทุนแบบวีไอต้องเลือกหุ้นด้วยมูลค่าที่น่าสนใจแทนที่จะมาโฟกัสคาดการณ์ว่าตลาดจะขึ้นหรือลงเมื่อไหร่ อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาไม่รู้ว่าตลาดมันจะขึ้นหรือจะลงเมื่อไหร่แต่ในช่วงที่ตลาดหุ้นลงเยอะๆ เขาก็ดีใจเพราะว่าจะได้มีโอกาสซื้อหุ้นเพิ่มขึ้น
✅ ชาร์ลีแนะนำว่าไม่ควรเอาบิทคอยน์มาอยู่ในพอร์ตการลงทุนเพื่อการเกษียณโดยเด็ดขาด คำถามนี้มาจากข่าวที่ Fidelity จะให้พนักงานสามารถเลือกลงทุนในบิทคอยน์ได้ในกองทุนเพื่อการเกษียณ คำตอบของชาร์ลีคงไม่ได้แปลกใจทุกท่านเพราะจริงๆแล้วคุณปู่ก็คัดค้านการลงทุนในบิทคอยน์อย่างเต็มตัวมาตั้งแต่แรกแล้ว
✅ ชาร์ลีโจมตีแอปชื่อดังในการเทรดอย่าง Robinhood ที่ตอนนี้ราคาหุ้นเหลือเพียงแค่ $10 หลังจากที่ไอพีโอไปเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วที่ราคา $38 เขาบอกว่าถ้าดูจากราคาหุ้นแล้วมันก็ชัดเจนว่ามันน่าจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่ตอนไอพีโอ เพราะว่าในช่วงที่ตลาดบูม มันมีการเก็งกำไรเข้ามาเทรดมากเกินไป
ส่วนตัวโมเดลธุรกิจเองก็น่ารังเกียจเพราะมีการซ่อนเร้นการได้ค่านายหน้าอยู่ ทั้งที่จริงบอกทุกคนว่าไม่คิดว่าใช้จ่ายกับผู้ใช้ แต่จริงๆแล้วบริษัทแอบแฝง Payment for order flow อยู่ (อ่านรายละเอียดที่ผมเคยเขียนได้ที่ https://www.facebook.com/863579063732794/posts/4155668231190511/)
✅ คุณปู่บอกว่าเริ่มลงทุนเมื่อตอนอายุแค่ 11 ขวบหลังจากที่เขาไปเยี่ยมชมตลาดหุ้น NYSE เมื่อตอน 9 ขวบแล้วได้แรงบันดาลใจชื่นชอบการลงทุน ในช่วงแรกๆคุณปู่ยอมรับว่าเน้นลงทุนในแง่เทคนิเคิล การอ่านชาร์ทราคาหุ้นและการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น เขาลองมาหมดแล้วทุกอย่าง แต่สุดท้ายแล้วเขาเปลี่ยนการลงทุนจากหน้ามือเป็นหลังมือจากการอ่านหนังสือ “The Intelligent Investor” ที่เน้นให้ลงทุนแบบเป็นเจ้าของธุรกิจมากกว่าการลงทุนในหุ้น
✅ คุณปู่เน้นย้ำกับทุกคนเพื่อให้ชัดเจนว่าเขาไม่ใช่เป็นคนเดียวใน Brk ที่มีอำนาจในการตัดสินใจซื้อหุ้น จริงๆแล้วมันมีอีกหลายคนที่สามารถซื้อหุ้นได้โดยที่บางครั้งเขาไม่รู้รายละเอียดเลยด้วยซ้ำ
เขาไม่อยากให้ทุกคนคิดว่าเขาเป็นคนซื้อเพราะมันจะดึงให้คนอื่นมาซื้อตาม เขาอยากให้มองว่าเป็นบริษัท Brk ซื้อ การพาดหัวข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ว่าเขาเป็นคนซื้อเป็นแค่การพาดหัวข่าวเพื่อดึงดูดความสนใจของนักลงทุนให้เข้ามาซื้อตามเท่านั้นเอง โดยสรุปก็อย่าไปซื้อตามเพียงเพราะข่าวบอกว่าคุณปู่ซื้อหุ้น
✅ คุณปู่บอกว่าเงินเฟ้อได้โกงเงินของนักลงทุนในบอนด์ คนถือเงินสด และคนอื่นๆ ให้มีเงินน้อยลง แม้กระทั่งบริษัทที่ต้องการเงินทุน ก็ต้องมีการเพิ่มการกู้เงินให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อ เช่นแทนที่จะกู้เงิน $1 ล้าน ถ้าเงินเฟ้อที่ 8% บริษัทต้องกู้ที่ $1.08 ล้าน เพื่อให้มีอำนาจในการซื้อเท่าเดิม
คุณปู่ยังทิ้งท้ายด้วยว่าไม่มีใครรู้หรอกว่าเงินเฟ้อมันจะขึ้นไปถึงขนาดไหน แม้กระทั่งกูรูที่พยายามออกมาคาดการณ์ คุณปู่บอกว่าสิ่งที่สามารถช่วยป้องกันปกป้องตัวเราต่อภาวะเงินเฟ้อก็คือการลงทุนเพื่อพัฒนาทักษะของตัวเราเองให้ดียิ่งขึ้น
✅ คุณปู่บอกว่าตอนนี้ Brk ถือหุ้น Activision Blizzard 9.5% แล้ว เขาบอกว่าทาง Brk ซื้อหุ้นตัวนี้ครั้งแรกในไตรมาสที่สี่ของปี 2021 ด้วยเงินจำนวน $1,000 ล้าน เพราะมองเห็นว่าหุ้นมีราคาต่ำกว่ามูลค่าความเป็นจริงมาก ในตอนนั้นคุณปู่ไม่รู้มาก่อนเลยว่าไมโครซอฟท์จะเข้ามาซื้อกิจการในช่วงเดือนมกราคมที่ราคา $95 ต่อหุ้น ตอนนี้ราคาปิดเมื่อวันศุกร์ที่ $75.6 ต่อหุ้น
เขายอมรับว่ายังคงซื้อหุ้นตัวนี้อย่างต่อเนื่องหลังจากที่ไมโครซอฟท์ประกาศ เนื่องจากยังมีส่วนต่างระหว่างราคาที่ซื้อกิจการกับราคาตลาดในตอนนี้ เขาคิดว่าน่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีเลยทีเดียวเพราะซื้อจนตอนนี้มีสัดส่วนถึง 9.5% แล้ว
ถ้าดีลนี้เกิดขึ้นจริงคงสร้างกำไรให้กับบริษัทได้ดีเลยทีเดียว แต่ถ้ามันไม่เกิดขึ้น ซึ่งอาจจะโดนขัดขวางจากทางการรัฐบาล ไม่มีใครรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น
✅ คุณปู่ชาร์ลีบอกว่าเหตุผลสำคัญที่ลงทุนในหุ้นจีนโดยเฉพาะหุ้นเทคจีนก็คือเขาค้นพบหุ้นที่ดีกว่าที่มีราคาถูกมากๆในประเทศจีน หลายคนอาจจะคิดต่างกับเขา เพราะมีความกังวลเกี่ยวกับทางการจีน เขาได้กล่าวเสริมว่าคงไม่มีใครโต้เถียงว่ามันเป็นการยากกว่าที่จะเข้าใจการปกครองในจีนเมื่อเทียบกับทางอเมริกา จริงๆแล้วมันต่างกัน ทางจีนก็มีทางของตัวเองที่ยังต้องเดินไปอีกยาวไกล
Happy Investing ครับ
- 16
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
