2 พ.ค. 2022 เวลา 14:19
เราใช้เวลาอยู่กับความตั้งใจของเราได้นานแค่ไหน
ในบทความนี้ผมจะไม่บอกระยะเวลาที่คนส่วนใหญ่เป็นว่าระยะเวลาเท่าไหร่หรอกนะครับ ถ้าใครคาดหวังแบบนั้นก็เลื่อนผ่านไปได้เลย ผมจะใช้ระยะเวลาจากที่เป็นตัวผมเองเป็นผู้สังเกต
ผมเคยมีความตั้งใจที่จะสังเกตพฤติกรรมของตนเองมานานแล้ว น่าจะตั้งแต่เพิ่งจะเริ่มมี Blockdit ใหม่ ๆ เลยก็ได้
ถ้าคุณสังเกตในเพจนี้ ผมเคยลงบทความว่าจะลองสังเกตตัวเอง
แต่ผมก็ไม่ได้ลงบทความหลังจากนั้นเท่าไหร่
ความตั้งใจของผมมันช่างแสนสั้นนัก
ไม่ใช่ระยะเวลาหลักปี เดือน หรือวัน บางครั้งมันเกิดขึ้นแล้วก็หายไปแทบจะเสี้ยววินาที
อ้อ ผมไม่ได้เป็นอะไรนะครับ เผื่อมีคนเป็นห่วง
ผมรู้สึกว่าเรามีภารกิจ กิจวัตรต่าง ๆ มากมายในแต่ละวัน ก็แทบจะไม่มีเวลาทำอะไร เป็นหนึ่งในเหตุผล จะใช้คำว่าข้ออ้างชั้นประเสริฐที่ทำให้เราผลัดวันประกันพรุ่งที่จะไม่ทำตามความตั้งใจนั้นได้อย่าง่ายดายเลยทีเดียว
คำสัญญากลายเป็นตราบาปที่เกิดขึ้นหลังจากที่เราไม่สามารถทำตามสื่งที่เราพูดหรือบอกใครต่อใครไว้ได้
แน่นอนว่าผมเองก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจหรือโทษตัวเองขนาดนั้นนะครับ
มันเป็นเรื่องของธรรมชาติ ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนก็เป็น
ผมจะไม่สัญญาว่าจะทำอะไร กับใครอีก เพราะจะทำให้คนอื่นมองเป็นคนไม่ดี ไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้
บางครั้งการเงียบไว้ก็อาจจะดีกว่าในหลาย ๆ สถานการณ์
ไม่จำเป็นต้องบอกทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวเองหรอก
ไม่มีใครอยากรู้เรื่องราวของเราขนาดนั้น
เขาก็อยากรู้แค่เรื่องที่เขาอยากรู้เท่านั้น ไม่มีใครสนใจคุณขนาดนั้นหรอก
จากการสังเกตตัวเองในหลายครั้งก็มักจะพบว่า เมื่อมีความตั้งใจอะไรสักอย่าง แล้วลงมือทำทันที มักจะได้ผลมากกว่าการมัวแต่นั่งคิดวางแผนไปเรื่อย ๆ
พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้สิ่งที่อยากทำออกมาประสบความสำเร็จ 100%
โชคดีที่มันไม่ได้เป็นแบบนั้น
เดือนที่แล้วผมตั้งใจที่จะกลับมาลงทุนซื้อการ์ดจอมาเพื่อถอดรหัส Blockchain พูดง่าย ๆ ก็คือ ทำเหมือง cryptocurrency นั่นละ
ผมมีเงินไม่พอที่จะซื้อการ์ดจอรุ่นที่ต้องการมาขุด
แน่นอนว่าผมคำนวณตั้งแต่ราคาการ์ดจอปัจจุบัน ที่มีประสิทธิภาพต่อราคาสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (ความคุ้มค่าของแรงขุดต่อราคาการ์ดจอ) ค่าไฟ (ที่แพงขึ้นทุก ๆ เดือน) แผนการออกเมื่อมันไม่ได้ผลตามที่ต้องการ
จะทำอย่างไร แต่ถ้าไม่เริ่มก็ไม่ได้ทำกันพอดี
*หมายเหตุ ต่อจากนี้ไม่ใช่วิธีการลงทุน และผมไม่ได้ให้คำแนะนำนี้เพื่อให้คุณไปทำตาม ไม่ใช่การวางแผนการเงิน และผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ จากสถาบันทางการเงินและไม่ได้ผลประโยชน์ใด ๆ จากบริษัทใด ๆ ทั้งสิ้น
หลังจากนั้นผมก็เริ่มหาแหล่งเงินทุน (สินเชื่อส่วนบุคคล) โดยรวมกับเงินเก็บบางส่วน
การ์ดจอที่ผมเล็งไว้ราคาประมาณไม่เกิน 24000 บาท
ในประเทศไทยไม่มีการ์ดจอที่ผมตามหา หรือถึงแม้ราคาจะเป็นไปตามที่คาดไว้แต่ก็ยังไม่ใช่รุ่นที่ต้องการอยู่ดี (รุ่นและราคาปัจจุบันนั้นสัมพันธ์กัน)
ผมจึงตัดสินใจสั่งซื้อนำเข้ามาจากต่างประเทศ
ซึ่งทำให้ราคาสูงกว่าที่คาดไว้ แต่ยังอยู่ระดับที่รับได้ จึงสั่งมา 1 ตัว
อ่า ใช่แล้วครับ แค่ 1 ตัว คุณอ่านไม่ผิดหรอก
อย่าลืมส่วนประกอบคอมพิวเตอร์มีหลายอย่าง ผมก็แค่ "เริ่มต้นจากสิ่งที่ผมมี" มันก็เท่านั้น
ข้อจำกัดอีกอย่างของการ์ดจอที่จะมาใช้คือช่องต่อไฟเลี้ยงการ์ดจอ จะต้องมีแค่ 8 pin Pcie แค่ช่องเดียว ถ้ามีมากกว่านั้นจะต้องแปลงสาย ซึ่งผมไม่อยากเสี่ยงที่จะทำให้บ้านไฟไหม้หรอกครับ
เมื่อการ์ดจอเดินทางมาถึงประเทศไทย ก็จะต้องผ่านศุลากร แน่นอนว่านี่เป็นการสั่งของจากต่างประเทศครั้งแรกของผมเช่นกัน โชคดีที่บริษัทขนส่งดีทำให้ดำเนินเรื่องได้อย่างราบลื่น (ใครอยากทราบรายละเอียดก็กดติดตามไว้ เผื่อจะลงบทความ แต่ผมไม่สัญญาว่าจะลงหรือไม่นะ)
**ดูเป็นคนที่เอาแต่ใจ-ิบหาย
คำนวณคร่าว ๆ ผมจะได้เงินจากการทำเหมืองตรงนี้ เพียงพอที่จะจ่ายค่าไฟให้ตัวมันเอง และสามารถจ่ายหนี้ที่ไปกู้มาได้ และยังเหลือส่วนต่างเอาไว้ซื้อขนมกินเล่นอีกนิดหน่อย
ประมาณ 1-2 เดือนที่ผ่านมาผมก็มีความคิดที่อยากจะทำ E-book สักเล่ม
แน่นอนว่าตอนนี้มีชื่อหนังสือแล้ว กำลังเริ่มบทที่ 1 และก็หยุดแค่นั้น ไม่ได้ทำต่อ
ความตั้งใจของฉันนั้นสั้นนัก ผมคงบอกวิธีที่จะทำให้ทุกคนมีความตั้งใจขึ้นมาได้หรือจะรักษาความตั้งใจไว้ให้ได้นานที่สุดยังไง
ที่ผมสังเกตและเห็นจากตัวเองมากที่สุด คือ ถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจ มีความท้าทาย Challenge ใช่ ๆ คำนี้เลย มันจะทำให้รู้สึกอยากไปต่อ
แต่เมื่อความน่าสนใจหรือความท้าทาย อย่างหนึ่งอย่างใดหายไป ความตั้งใจในเรื่องนั้นก็มักจะหายไปด้วยเสมอ ราวกับทุกช่วงเวลากิจวัตรประจำวันกลืนกินไป
อ้อ อีกอย่าง ที่ผมอยากจะบอกคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้
ขอบคุณมาก ๆ ที่ทนอ่านเรื่องอะไรก็ไม่รู้ ไม่รู้ว่าจะมีประโยชน์กับตัวเองหรือไม่
มีหนึ่งสิ่งที่ผมอยากให้กับคนที่อ่านถึงตรงนี้ หากคุณยังอยากมีความตั้งใจที่จะทำอะไรสักอย่างไปเรื่อย ๆ ให้สำเร็จ
เปลี่ยนความตั้งใจเรื่องนั้นของคุณให้เป็นกิจวัตรประจำวัน
TheObserver
โฆษณา