3 พ.ค. 2022 เวลา 06:31 • การตลาด
ระวัง! หลุดจาก YouTube Partner Program (YPP) เพราะช่องไม่ Active!
เมื่อสร้างช่อง YouTube ให้เติบโตแล้วการรักษาช่องให้เติบโตอย่างมีคุณภาพเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญค่ะ โดยเฉพาะ "ความสม่ำเสมอ" เป็นสิ่งที่ครีเอเตอร์หลายคนมองข้ามไป ในขณะที่อยู่ในโปรแกรมพาร์ทเนอร์ YouTube การทำให้ช่องมีความเคลื่อนไหวอยู่เสมอเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะถ้าเกิดว่าช่องไม่มีการเคลื่อนไหว YouTube อาจปิดการสร้างรายได้ในช่องที่ไม่ได้อัปโหลดวิดีโอ หรือโพสต์ไปยังแท็บชุมชนเป็นเวลาตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ซึ่งจะทำให้ช่องจะสูญเสียสิทธิ์ในการสร้างรายได้ หากละเมิดนโยบายการสร้างรายได้ของช่อง แม้ว่าเวลาในการรับชม และจำนวนผู้ติดตามจะถึงเกณฑ์ที่กำหนดการเข้าร่วมพาร์ทเนอร์ก็ตาม ทั้งนี้ก็เพื่อกระตุ้นให้ครีเอเตอร์ที่มีการใช้งานแพลต์ฟอร์ม และมีส่วนร่วมกับชุมชนอย่างสม่ำเสมอนั่นเองค่ะ
ดังนั้นมา Checklist สิ่งที่ควรทำเพื่อไม่ให้ช่องหลุดจาก YPP กันดีกว่าค่ะ
1. ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของชุมชน ครีเอเตอร์ที่กำลังสร้างรายได้ควรรู้ว่าหลักเกณฑ์ไม่ได้มีผลกับวิดีโอแต่ละรายการ แต่จะมีผลกับช่องโดยรวม ที่ต้องการสร้างรายได้ หรือสร้างรายได้อยู่แล้ว ดังนั้นควรทำตามหลักเกณฑ์ชุมชน (Community Guidelines) อย่างเคร่งครัดที่สุด ซึ่งสิ่งที่ห้ามทำในวิดีโอ ประเด็นหลักๆ ประกอบไปด้วย
-สแปม พฤติกรรมหลอกลวง และกลโกง
-เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศและภาพเปลือย
-ความปลอดภัยของเด็ก
-เนื้อหาที่อันตรายหรือเป็นภัย
-วาจาสร้างความเกลียดชัง
-การล่วงละเมิดและการกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์
2. ช่องต้องไม่มีประกาศเตือนการละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชนที่มีผลอยู่ ซึ่งการโดน Copyright Strike ซ้ำๆ อาจจะทำให้ช่องถูกระงับการสร้างรายได้ได้ และอาจร้ายแรงถึงขั้นโดนปิดช่องไปเลยก็ได้ค่ะ
3. อัปโหลดวิดีโอ หรือโพสต์ไปยังแท็บชุมชน (Community Tab) อย่างสม่ำเสมอ หลายคนอาจจะสงสัยว่าเท่าไหร่? เรียกว่า สม่ำเสมอ ในส่วนนี้เราแนะนำว่าควรอัปโหลดวิดีโออย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วิดีโอขึ้นไป ทั้งนี้ทั้งนั้นจำนวนการอัปโหลดขึ้นอยู่กับแผน หรือแนวทางของช่องของครีเอเตอร์เอง แต่ควรมีการอัปโหลด หรือโพสต์ไปยังแท็บชุมชนอยู่เสมอเป็นเวลาไม่ต่ำ 6 เดือนขึ้นไป
4. มีเวลาในการรับชมวิดีโอสาธารณะที่เข้าเกณฑ์มากกว่า 4,000 ชั่วโมงในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งข้อนี้สำคัญมาก! ครีเอเตอร์ส่วนใหญ่หลุดจาก YPP เพราะข้อหานี้แหละค่ะ เพราะนานๆ ทีกว่าจะกลับมาอัปโหลดวิดีโอ ปล่อยให้ช่องร้างนานๆ ไม่ดีนะคะ มีผลทำให้ช่องมียอดวิวที่น้อยลง และทำให้ผู้ติดตามน้อยลงตามไปด้วย
5. มีผู้ติดตามมากกว่า 1,000 คน ถึงแม้ว่าข้อนี้อาจจะเป็นไปได้ยากในกรณีที่ผู้ติดตามลดลงหลังจากผ่านเกณฑ์การเข้าร่วมไปแล้ว แต่ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ค่ะ หากเห็นว่าจำนวนผู้ติดตามลดลง นี่อาจคือสาเหตุบางอย่างที่อาจเกิดขึ้นได้
- ผู้ใช้ยกเลิกการติดตาม อาจเป็นไปได้ว่าพวกเขาไม่รู้สึกว่าเชื่อมต่อกับช่องเหมือนกับที่เคยเป็นมาก่อน เนื่องจากครีเอเตอร์ได้เปลี่ยนประเภทเนื้อหาคอนเทนต์ หรือขาดการอัปโหลดอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงคุณภาพขอคอนเทนต์ลดลง
- ผู้ติดตามที่ไม่ได้ใช้งาน หากมีผู้ติดตามที่ไม่ได้ดูเนื้อหาของคุณจริงๆ อาจเป็นไปได้ว่าจะถูกนำออกจากจำนวนผู้ติดตามในบางช่วงเวลา
- ผู้ติดตามมาจากบัญชีที่ถูกระงับ
- บัญชีสแปม หมายถึง บัญชีที่ระบุว่าเป็นจดหมายขยะจะถูกนำออกจากรายชื่อผู้ติดตามนั่นเอง
- ซับแลกซับ หมายถึง การสมัครรับข้อมูลช่องอื่นเพื่อรับสมาชิกกลับเป็นการแลกเปลี่ยนไม่ได้รับอนุญาตจาก YouTube และอาจส่งผลให้มีการประท้วงเกี่ยวกับเงื่อนไขการใช้งานช่อง
6. มีบัญชี AdSense ที่ลิงก์ไว้
หากใครที่ไม่ได้ทำตาม Checklist ที่ได้พูดถึงไป ก็อย่าลืม! รีบกลับมาทำด่วนๆ จะได้ไม่หลุดจาก YouTube Partner Program กันนะคะ
โฆษณา