5 พ.ค. 2022 เวลา 00:00 • ไลฟ์สไตล์
อย่าใช้ชีวิตอยู่บน 'ความอิจฉา'
เพราะมีแต่พังกับพัง!
เมื่อพูดถึงความรู้สึกอิจฉาหลายๆ คนอาจนึกถึงภาพนางร้ายในละครที่มีแต่ความโกรธเกลียดชังและริษยาคนอื่นไปทั่ว
แต่ความจริงแล้ว'ความอิจฉา'เป็นเรื่องปกติ
ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน
เพราะคนเราล้วนเป็นสีเทาๆ ไม่ได้ขาวหรือดำสนิท
ทุกคนย่อมมีทั้งด้านดีและไม่ดีกันทั้งนั้น
เช่นเดียวกับความรู้สึกอิจฉาที่อาจเกิดขึ้นได้จากความรู้สึกไม่เท่าเทียมอะไรบางอย่าง
แต่เราสามารถเลือกจัดการกับมันในวิธีที่เหมาะสมและไม่ทำร้ายคนอื่นได้นะ
ขอเกริ่นก่อนว่า ความอิจฉามันเป็นสัญชาติการเอาตัวรอดของมนุษย์
เมื่อรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่นและอาจถูกทอดทิ้งจากกลุ่มได้
คนเหล่านี้จะมีตัวเลือกอยู่ 2 วิธีคือ
📌 เพิ่มคุณค่าให้ตัวเอง
พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเพื่อจะได้ดำรงชีวิตร่วมกับคนอื่น ๆ ต่อไปได้
📌 ลดคุณค่าในคนอื่น กดคนอื่นให้ต่ำลง ไม่ว่าจะเป็นการนินทาใส่ร้ายป้ายสีหรือแม้กระทั่งทำร้ายร่างกาย เพื่อที่ตัวเองจะได้รู้สึกว่าอยู่เหนือกว่า
และน่าเศร้าที่คนส่วนใหญ่มักจะเลือกเส้นทางที่ 2
เพราะมันง่าย ไม่ต้องลงทุนลงแรงหรือทำอะไรให้เหนื่อยเลย แค่พ่นพิษคำพูดแย่ ๆ ใส่คนอื่น
ซึ่งการกระทำเหล่านี้ย่อมเป็นที่น่ารังเกียจต่อบุคคลรอบข้างเป็นอย่างมาก
ที่สำคัญคนที่มีแต่'ความอิจฉา'ครอบงำจิตใจนั่นแหละจะเป็นคนที่ทุกข์ที่สุด เพราะปล่อยวางไม่เป็น
แล้วควรจัดการ'ความรู้สึก'ยังไงดีถ้าเราเริ่มมีความรู้สึกอิจฉาเกิดขึ้นในใจ?
"HOW TO ลดความอิจฉา"
1. ยอมรับความรู้สึกของตัวเอง
ต้องเข้าใจก่อนว่าความอิจฉามันเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับคนเราได้
อย่าไปต่อต้านมัน ให้นั่งเงียบๆ ลองสังเกตุความคิดของตัวเองอย่าเพิ่งไปทำอะไร แล้วความรู้สึกอิจฉาที่เคยรุนแรงจะค่อยๆ ลดลงอย่างไม่น่าเชื่อ
เพราะถ้าเรายิ่งฝืนห้ามตัวเองไม่ให้รู้สึก
มันจะอึดอัดและเก็บไปคิดวนไปวนมาอยู่แบบนั้น
แล้วสุดท้ายเราเองก็จะมีแต่ความอิจฉาสุมอยู่เต็มอก
2. พัฒนาจุดด้อย
บางทีความอิจฉาก็เกิดจาก'ความรู้สึกไม่ปลอดภัย'
เมื่อเราเห็นว่าคนอื่นทำบางสิ่งบางอย่างได้ดีกว่า
เราจึงรู้สึกไม่มั่นคง กลัวตกอันดับ กลัวไม่ได้เป็นที่หนึ่งเหมือนเดิม ฯ
อยากให้เข้าใจว่าจริง ๆ แล้วความอิจษฉามันมี'เจตนาดี' เพราะมันสามารถเป็นแรงผลักดันให้เราอยากดีขึ้นได้
ให้เอาความอิจฉามาเป็น'ตัวกระตุ้น'แต่อย่าเอามาเป็นพื้นฐานของการใช้ชีวิต
3. โฟกัสสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ขาด
หาให้เจอว่าเรามีจุดแข็งอะไรแล้วพัฒนาสิ่งนั้น
ถ้าใครยังหาจุดแข็งของตัวเองไม่เจอก็เริ่มทำจากสิ่งที่ชื่นชอบก่อนก็ได้ค่ะ
เพราะถ้าเราโฟกัสกับการพัฒนาตัวเองมากเท่าไร
ก็จะไม่มีเวลาไปยุ่งเรื่องของคนอื่น
แล้วความอิจฉามันก็จะค่อย ๆ หายไปเอง
1
4. ยอมรับความจริงและปล่อยวาง
ในโลกนี้มันไม่มีอะไรเท่าเทียมกัน 100% อยู่แล้วค่ะ
บางอย่างเราก็ทำได้แค่ต้องยอมรับความจริงแล้วปล่อยวาง ไม่ได้บอกให้ยอมแพ้หรือไม่สู้นะแต่เราต้องรู้ลิมิตของตัวเองด้วย
การพยายามเป็นสิ่งที่ดีแต่ถ้าพยายามในวิธีที่ผิด ๆ มันก็ไม่ต่างอะไรกับการฝืนดันทุรัง
ทัศนคติต่อสิ่งต่างๆ จะมีผลอย่างมากต่อการใช้ชีวิตของคุณ
ดังนั้นอยากใช้ชีวิตแบบไหนต้องเลือกเองนะคะ
อย่าใช้ชีวิตอยู่บนความอิจฉา
เพราะคุณเองก็มีสิ่งดี ๆ ไม่แพ้คนอื่นเหมือนกัน
🌟 Don't live your life with jealousy 🌟
1
Writer : kanompang
Ref.
มัวแต่อิจฉา ชีวิตมีแต่พัง! 5 อันดับวิธีตัดความอิจฉาในใจ มีดีได้ในแบบของเรา
#เกลาความอิจฉา
#เกลาไปพร้อมกัน
#เกลานิสัยอันตราย

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา