5 พ.ค. 2022 เวลา 07:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
📼ถอดเทป: BLACK SWAN วันมืดมิด ในชีวิตการลงทุน EP.4 สถาพร งามเรืองพงศ์📼
Published: 26 Mar 22
สวัสดีครับ วันนี้พบกันอีกครั้งกับ #ถอดเทปลงทุนลงดอย ซึ่งเป็นซีรีย์ที่แอดตั้งใจสรุปสาระสำคัญจาก Video หรือ Podcasts ต่างๆนะครับ ซึ่งการถอดเทปจะไม่ได้ถอดทุกคำพูด และลำดับจะไม่ได้ตรงตามต้นฉบับทั้งหมด โดยแอดจะรวบรวมไว้เป็นหัวข้อ
ครั้งนี้เป็นคิวของ “เซียนฮง ” สถาพร งามเรืองพงศ์ ซึ่งจะมาเล่าถึงบทเรียนการลงทุนที่ผ่านมาให้ฟังกันครับ
🚩 ปี 2004
▪️ เริ่มลงทุนเพราะเห็นเพื่อนลงทุนได้กำไร เนื่องจากปี 2003 เป็นตลาดขาขึ้น
▪️ ช่วงแรกคิดว่าการลงทุนเป็นเรื่องยากมาก เพราะไม่รู้หลักการที่ถูกต้องคืออะไรกันแน่
▪️ ความร้สึกตอนนั้นไปถามวิทยากรเรื่องหุ้นตามงานต่างๆ และวิทยากรไม่ค่อยอยากคุย
▪️ ได้มารู้จักกับ Webboard ThaiVI และได้เข้าถามคำถามเยอะมาก และโชคดีมีคนเข้ามาตอบเรื่อยๆ
🚩 ปี 2005
▪️ หลังจากลงทุนหุ้นมาปีนึง แล้วรู้สึกว่าไม่ใช่เลยไปเริ่มธุรกิจขายตรง
▪️ และคิดว่าการลงทุนจะไม่ใช่ทางของเรา
▪️ แต่ไปทำธุรกิจขายตรง แล้วไม่รุ่ง แล้วกลับมาลงทุนจริงจังอีกรอบ
▪️ เคยคิดว่าลงทุนยากจนคิดว่าไปทำอย่างอื่นดีกว่า
🚩 ปี 2006
▪️ เริ่มจับจุดได้ และสามารถแบ่งประเภทของหุ้นได้ (คล้ายๆ Peter Lync)
🚩 ปี 2008
▪️ จากวิกฤติ Supprime 2008 ขาดทุนแค่ 15%
🚩 ปี 2011
▪️ หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจให้ฉายา เซียนหุ้นอัจฉริยะ ในปี 2011
▪️ หลังจากปี 2009 และ 2010 พอร์ตโตประมาณ 20 เท่า ขึ้นไป 75 ลบ.
▪️ แต่ปีนี้พอร์ตลงเยอะมาก เช่น ขาดทุนหุ้นหลักทรัพย์ ธุรกิจCommodity หุ้นโรงไฟฟ้า
▪️ ความมั่นใจในการลงทุนหายไปเยอะ พอร์ตลงมาจุดต่ำสุดเหลือ 32 ลบ.
▪️ ตลาด 2011 แตกต่างกับปี 2009 - 2010 จากหน้ามือมาเป็นหลังมือ
▪️ เนื่องจากปี 2009 กราฟเป็นขาขึ้นชัดเจน ไม่หลุดแนวรับ แต่ปี 2011 หลุดแนวรับแล้วกลับมาทะลุแนวต้าน และลงไปหลุดแนวรับใหม่ทำให้ขาดทุนซ้ำๆ
▪️ ถือหุ้น Warrant ของอสังหา และ Warrant โดนน้ำท่วม โดยยอมขายขาดทุนไป
▪️ หลังจากนั้น Warrant นั้นขึ้นมาจากราคาที่ขายขาดทุนไป 16 เท่า
▪️ สาเหตุที่ขายเลยตอนนั้นไม่ได้ปีจิตใจมั่นคงมาก และมีวิกฤติหนี้เสียกรีซมาประกอบ
▪️ บทเรียนจากปีนี้คือ ถ้ามั่นใจในพื้นฐานของหุ้นและให้น้ำหนักกับข่าวภายนอกให้น้อยลง และสุดท้ายหุ้นที่มีความสามารถในการแข่งขันและมูลค่ายังไม่แพงเกินไปก็จะมีราคาหุ้นขึ้นไปได้
🚩 ปี 2013
▪️ การลงทุน Swing มาก
▪️ เริ่มจาก 70 ลบ. และใช้เวลาไม่เท่าไหร่พอร์ตไปทำจุดสูงสุดที่ 200 ลบ. และจากนั้นลงมาเหลือ 100 ลบ.
▪️ ตอนนั้นพอร์ตลงมาจากการใช้ Margin ที่เยอะ
▪️ หลักๆมาจากการซื้อหุ้นสื่อสาร กับแนวคิดที่การเสียค่าสัมปทานลดลงจาก 25% ของรายได้เหลือ 6% ของรายได้ เลยมองว่าปิดประตูแพ้ไปแล้ว
▪️ จากเงินทุน 100 ก็ใช้ margin อีก 100 ทำให้พอร์ตโตเร็วมาก
▪️ แต่สุดท้ายมองพื้นฐานผิด เพราะมีค่าการตลาดที่ทำให้คนต้องย้ายไปสัมปทานใหม่เยอะมาก จากการลดแลกแจกแถมทำให้ SG&A พุ่งมาก และรายได้ไม่โต สุดท้ายกำไรผิดคาด
▪️ และ SET ลงจาก 1650 จุดเหลือ 1200 จุด
▪️ ทำให้ราคาหุ้นลงมาเยอะมาก
▪️ สุดท้ายหนีไปวัดเพื่อเป็นที่พักใจ
▪️ และเปลี่ยนหุ้นไปเลยโดยยอมขาย INTUCH และมาซื้อ KTC แทน
▪️ บทเรียนครั้งนี้ คือ เวลาประเมินธุรกิจ อย่าใส่สมมุติฐานที่ดีเกินจริง
🚩 “ศรัทธา”
▪️ ชอบเรื่อง Prison Break มาจากคำพูด “นายก็แค่ศรัทธา” ที่จะรักษาตัวและลุกเดินต่อไป และมีตัวช่วยคือคนรอบข้างที่มีพลังบวก
▪️ ไปถวายเพลพระ โดยเจอเซียนฮงครั้งแรกและทักเซียนฮงว่า “รวยจนไม่มีที่เก็บเงิน” จนศรัทธาในความเชื่อนั้นและต้องทำให้ได้
▪️ อ่านหนังสือและอยู่ในสภาพแวดล้อมของคนที่คิดบวกไว้เยอะๆ
▪️ อย่าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีความฝัน และทำลายความฝันชาวบ้าน
▪️ อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อในศรัทธาตัวเอง
🚩 การลงทุนในยุค 2022
▪️ Cryptocurrency เป็นสินทรัพย์ที่มีโอกาสมากกว่าตลาดหุ้นและก็มีความเสี่ยงมากกว่าเช่นกัน
▪️ แต่คนที่ศึกษาจริงจังก็ได้กำไรจากเหรียญที่ได้จากความสามารถ
▪️ มองว่าส่วนน้อยเป็นเหรียญที่เป็นโอกาส
🚩 บทเรียนจากการลงทุน
▪️ ต้องมีจิตใจที่หนักแน่น เช่น เหตุการณ์ตอนขาย Warrant อสังหา ที่จริงไม่จำเป็นต้องขายแล้วถือเงินสดก็ได้ อาจจะไปถือหุ้นแม่แทนก็ได้ (ถ้ากังวลเรื่อง Warrant หมดอายุ)
▪️ อย่าทำ Financial Projection ที่ดีเกินไป
▪️ ก่อนที่จะใช้เครื่องมือทางเงิน ให้คิดถึง Worst Case Scenario ไว้ก่อน
▪️ การอ่อนน้อม ไม่มีอีโก้ จะทำให้อยู่ในตลาดหุ้นได้นาน
▪️ ทบทวนเหตุผลที่เรากำไรและขาดทุนอยู่เสมอ
▪️ โดยเฉพาะเวลาที่เรากำไรเยอะๆ มาจากวิธีปกติหรือมาจากกำไรที่เรารับความเสี่ยงมากเกินไปรึเปล่า?
💡Key Takeaways & Ideas
▪️ สิ่งที่เราทำให้สำเร็จ คือ อดทนกับมันยาวนานพอ และอยู่บนเครื่องมือที่ถูกต้อง
▪️ ต้องเริ่มด้วยเครื่องมือที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ เครื่องมือที่ถูกต้อง คิดว่า ควรตามหลักการ Warren Buffet และ Peter Lync
▪️ ถ้ารู้อะไร ต้องเข้าใจถึงราก
▪️ อย่าลงทุนด้วนการมองกระจกหลัง
▪️ ทบทวนตัวเองว่าครั้งนี้ทำไมเราขาดทุน และบางครั้งทำไมเรากำไร
▪️ หาสิ่งที่เหมาะกับตัวเอง และจำนวนหุ้นในพอร์ต
▪️ การขาดทุนครั้งใหญ่มักจะเกิดมาจากการกำไรครั้งใหญ่ (หนังสือ Market Wizard)
▪️ ต้องมีแผนการ และศรัทธามันจะไม่ใช่ความงมงาย
▪️ เข้าใจวัฎจักรธุรกิจให้มาก และธุรกิจนี้ถูกบริหารจากผู้บริหารที่เก่ง ปานกลาง หรือต่ำกว่ามาตรฐานยังไง
▪️ หาผู้บริหารที่มีไฟมี Passion เยอะๆ
▪️ เข้าใจธรรมชาติของธุรกิจด้วยการ Back Test ข้อมูลย้อนหลังไปหลายๆปี ว่าอะไรเป็น Key Factor ที่ให้ธุรกิจเปลี่ยน
ขอให้สนุกกับการลงทุนครับ 😄
ถ้าชอบ Content ของแอดก็ขอกด Like กด Share เป็นกำลังใจให้แอดหน่อยนะครับ 😽
#ลงทุนลงดอย #ถอดเทปเทบลงทุนลงดอย #blackswan
โฆษณา