5 พ.ค. 2022 เวลา 14:44 • ความคิดเห็น
ความเห็นส่วนตัวของผม คือ “เทคโนโลยี” จะนำมาซึ่ง “คลื่น disruption” ที่จะทยอย “กระทบ” ชีวิตความเป็นอยู่และ “ทิศทาง” การไหลของ “เงิน” อีก ละลอกแล้วละลอกเล่า
โดยอาชีพหลักๆของคนรุ่นต่อไป ผมมองว่า.....
1) Tech Based: อันนี้หายห่วงครับ พวก disrupters ทั้งหลาย เช่น AI, Robotics, Quantum computing/programming, Metaverse designers/marketers/agents ฯลฯ, การเชื่อมต่อระหว่าง Humans and Machines (AI, Robotics) เข้าใจว่าเรียกว่า Singularity technology , Biotech ยุคใหม่, สารพัด Virtual สารพัด Reality ทั้ง softwares และ hardwares เป็นต้นครับ
2) Humans Based: คือถ้ามนุษย์อยู่ใน Virtual universe กันมากๆ จะมีกิจการที่สอนให้คนกลับไปเป็นคนอีกครั้ง เช่น พวก soft skills ต่างๆ ซึ่งผมเคยได้ยินมาว่าที่ญี่ปุ่นมีโรงเรียนสอนให้คนยิ้มมานานแล้วครับ และแน่นอนว่าสังคมผู้สูงอายุจะมีทั่วโลก เราต้องเรียนรู้ในการดูแลผู้สูงอายุและจะมีธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุเป็นจำนวนมากครับ
โดยเจ้า quantum computing จะเกื้อหนุนให้เทคโนโลยี AI ทรงพลังขึ้นไปอีกมาก และ เทคโนโลยี 6G หรือ 7G... จะทำให้ เทคโนโลยี metaverse มี”โอกาส”ทางเศรษฐกิจได้อีกมากมาย
ดังนั้น ทั้ง “time” และ “space” จะถูกเทคโนโลยีค่อยๆทำให้มันทั้งสองไม่สามารถขวางกั้น “กิจกรรมทางเศรษฐกิจ” ได้เหมือนในยุคก่อนๆ
ทั้งนี้ “โอกาส” ในการเป็น “entrepreneur” หรือ เจ้าของกิจการ ก็มีมากขึ้น ซึ่ง “ความสามารถ” ที่ผมมองว่ายังคงมีความสำคัญอยู่ คงเป็นเรื่องทักษะ “ภาษาอังกฤษ” และ “การใช้เทคโนโลยี”
ส่วนทักษะอื่นๆ ผมรวบรวมไว้ใน post นี้
ห้างใหญ่อย่าง Walmart เองก็เตรียมพร้อมให้คุณ shopping ใน metaverse ไว้แล้วครับ
“โอกาส” ในการเป็น “influencers” ผ่านช่องว่าง “social media platforms” ต่างๆ ก็มีให้เห็น โดยบุคคลหลากหลายอาชีพก็สามารถใช้ “พื้นที่” บนโลก social เป็นเครื่องมือในการเข้าถึงกลุ่ม potential customers หรือ กลุ่มเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างสะดวกและตรงเป้ามากขึ้น
Meta ซึ่งเป็นเจ้าของ Facebook ก็เริ่มเปิด “ร้าน” รองรับ metaverse
คลิปนี้จากทาง TNN สรุปแนวโน้มทางเศรษฐกิจโลกหลังสงครามรัสเซีย-ยูเครน ไว้ได้น่าสนใจครับ
สิ่งที่น่าจับตามองน่าจะเป็น “ความเหลื่อมล้ำของชนชั้น” ที่อาจจะมีมากขึ้นระหว่างคนรวยกับคนจน และอาจจะเป็นการล่มสลายของสังคมอย่างที่เรารู้จักกัน
โฆษณา