Hunger Marketing เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้หลักจิตวิทยา “กระตุ้นความอยาก ด้วยข้อจำกัด”
เป็นวิธีสร้างความเร้าใจให้ผู้บริโภคเกิดความต้องการสิ่งนั้นอย่างที่สุดจนถึงขั้นแย่งกันซื้อสินค้าหรือบริการ และบ่อยครั้งที่วิธีการนี้จะกระตุ้นผู้บริโภคให้ซื้อด้วย “อารมณ์” ไม่ใช่ “เหตุผล” กลยุทธ์นี้จึงมักถูกนำมาใช้เพื่อสร้างความฮือฮาเวลาเปิดตัวสินค้าใหม่ โดยเฉพาะสินค้าที่ผลิตออกมาในปริมาณจำกัด ทำให้ผู้บริโภคเกิดความรู้สึกว่าสินค้านั้นเป็นของหายาก
โดยเทคนิคการตลาดดังต่อไปนี้
1. จำกัดจำนวนสินค้า (Limited stock) มีหลายแบรนด์ตั้งใจผลิตจำนวนจำกัด ทั้งที่มีศักยภาพพอที่จะผลิตได้ในระดับ mass เพื่อทำให้การเข้าถึงสินค้าเป็นเรื่องยาก ด้วยจำนวนสินค้าที่มีจำกัด หรือความพิเศษของคำว่า “Limited” ส่งผลให้ผู้บริโภคหลายคนพร้อมที่จะซื้อ แม้ว่าราคาจะสูงแค่ไหนก็ตาม วิธีนี้จึงเป็นการเล่นกับความรู้สึกของผู้บริโภค ที่จะรู้สึกพิเศษเมื่อได้ครอบครองสิ่งที่คนทั่วไปไม่อาจหามาได้ นี่จึงเป็นเทคนิคนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะสามารถกระตุ้นความอยากซื้อสินค้าของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
2. จำกัดช่วงเวลาการขาย (Time limit) เป็นเทคนิคที่เร่งรัดการให้ตัดสินใจ ด้วยข้อจำกัดของ “ช่วงการขาย” อย่างเช่น รายการโฮมช้อปปิ้งที่มักตบท้ายรายการว่า หากโทรมาในเวลาเท่านั้นเท่านี้จะได้ราคาพิเศษ หรือร้านต่างๆ ที่บางช่วงเวลาพากันขึ้นป้าย “ลดวันสุดท้าย” “ลดล้างสต็อก” และสายการบินที่ประกาศจำหน่ายตั๋วโปรโมชันราคาถูกโดยจำกัดเวลาในการจอง จะเห็นได้ว่า
3. ลดราคาเป็นพิเศษ (Special discounts) เป็นเทคนิคที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคอย่างมาก ลูกค้าจะรู้สึกว่าการซื้อของลดราคานั้นคุ้มค่า หากไม่ซื้อจะพลาดโอกาส ทั้งที่บางทีเป็นสินค้าและบริการที่ลูกค้าไม่ได้ต้องการเลยสักนิด กลยุทธ์นี้ใช้ได้ผลดีเสมอเนื่องจากผู้บริโภคอ่อนไหวกับเรื่องราคา เพราะทุกคนต่างก็ชอบของถูก
กลยุทธ์ Hunger Marketing นี้สามารถใช้ได้กับทั้งธุรกิจขนาดเล็ก อย่างร้านอาหาร Home Cooking ที่มีข้อจำกัดด้านสถานที่ จำนวนคน และจำนวนวัตถุดิบ แต่มีรสชาติที่อร่อย สะอาด ก็ทำให้เหล่านักกินและนักชิม ยอมจองคิวกันแบบข้ามเดือนข้ามปีกันเลยก็มี
และธุรกิจขนาดใหญ่ อย่างแบรนด์รองเท้า Adidas YEEZY BOOST, กระเป๋า Hermes และ Apple ก็ใช้กลยุทธ์นี้เช่นเดียวกัน โดยทุกครั้งที่มีเปิดตัวสินค้าใหม่ นอกจาก Apple จะจัดอีเวนท์อย่างยิ่งใหญ่แล้ว สิ่งที่ทำให้เหล่าสาวกรู้สึกพิเศษสุดๆ นั่นก็คือการ “จำกัดจำนวนผู้เข้างาน” เพื่อความเอ็กซ์คลูซีฟที่ได้เข้าร่วมงาน ได้สัมผัสเครื่องก่อนใคร และได้ครอบครองก่อนนั่นเอง
อย่างไรก็ตามการใช้กลยุทธ์การตลาดแบบนี้ก็เป็นดาบสองคมได้เช่นกัน เพราะแม้ว่าผลลัพธ์อาจสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าหรือแบรนด์ และนำไปสู่การปรับราคาสินค้าให้สูงขึ้นได้ แต่ในทางกลับกันหากเดินเกมพลาด แบรนด์อาจได้รับความเสียหาย หมดคุณค่า และหมดความน่าสนใจ ดังนั้นผู้ประกอบการต้องมั่นใจว่าสินค้าหรือบริการมีคุณภาพที่ดีจริง จึงจะทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในแบรนด์
#BrandAgeOnline #BrandAge_AtoZ #HungerMarketing
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
