6 พ.ค. 2022 เวลา 07:14 • บันเทิง
Doctor Strange in the Multiverse of Madness (2022)
ดีใจมากที่ได้เห็นไรมี่หวนคืนหนังซุปเปอร์ฮีโร่จอเงินอีกครั้ง แถมมากับสไตล์สยองขวัญ ตลกร้ายเป็นเอกลักษณ์อย่างที่แกถนัด พ่วงมากับสกอร์ของแดนนี่อีฟแมนอีก ล้วนคือส่วนผสมที่สุดแสนคิดถึง
หนังใช้ประสิทธิภาพความนูนต่ำของระบบสามมิติสะใจมาก ออกจากโรงแอบมึนเหมือนกัน อะดรีนาลีนพุ่งพล่าน ผ่านมุมกล้องที่ฉะหวัดฉะเหวียน ทรานซิชั่นแบบยุคก่อนมิลลิเนี่ยมชนิดหาตัวจับยาก เช่นเดียวกับความบ้าคลั่งของเรื่องราวที่อัดคนดูก้นติดเบาะตลอดเวลา บางจังหวะนี่ถึงอุทาน แม่เ** มีฉากโหดที่ไม่เตรียมใจเพียบ
ภายใต้ความว้าวเว่อร์ถึงสิ่งที่สลับกันผุบโผล่ มอบอีสเตอร์เอ๊กปูถึงเหตุการณ์ใหญ่ในอนาคต พอถอยออกเพื่อมองจากมุมมองคนนอก ถ้าตัดการกำกับของไรมี่ออก มันแลดูเป็นพล็อตหนังธรรมดาเรื่องหนึ่งเท่านั้นเลยแฮะ มันว้าวจริง และไม่ก็ว้าวเวลาเดียวกัน คงเป็นข้อเสียหลักสำหรับคนที่ตกขบวนกลางทางไปตั้งแต่ Endgame หรือก่อนหน้า แถมหนังก็ไม่ได้แคร์คนดูที่ตามไม่ทันด้วย มันเดินเรื่องตาม/สลับไทม์ไลน์แบบไม่รีรอ (เห็นชัดขึ้นจากภาคนี้)​ จึงพรากความตื่นเต้นจากกลุ่มผู้ชมทั่วไปซะหมด กลายเป็น Live Action และขาดความเป็น Pure Cinematic ฉบับ “หนังซุปเปอร์ฮีโร่”​อยู่เหมือนกัน
ส่วนตัว ผูกมัดกับจักรวาลมาร์เวลลึกถึงแก่นแล้ว ต่อให้หนังออกมาไม่สนุก ก็จะมีจุดที่ชอบแล้วนำมากลบความไม่ชอบนั้นอยู่ดี ฉะนั้นไม่ต้องฟังความเห็นอะไรของเรามากก็ได้ ทุกวันนี้ตั้งหมายหมุดแค่ว่า ดูหนังมาร์เวลเพราะมันสนุก แล้วบางเรื่องดันตอบสนองอย่างนั้นจริงๆ ซะด้วย ไม่ได้ตกตะกอนถึงหลักการหรือตรรกะใดๆ สักเท่าไหร่ ไหลไปตามเส้นไทม์ไลน์​ พอถึงจุดเปลี่ยนอาจสะดุ้ง ตื่นตระหนกทีสองที และไปต่อ ไปเหมือนไม่มีจุดสิ้นสุด อนาคตอาจเบื่อ ทว่าปัจจุบันยังสนุกอยู่
บ้าคลั่งด้วยความบันเทิง ตื่นเต้นไปกับการผจญภัยทะลุมิติ
มีจุดที่แย่และดีสลับกัน เวล คั่ม ทู มัลติเวิร์ส .
โฆษณา