Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หิวแสง-โหนกระแส
•
ติดตาม
7 พ.ค. 2022 เวลา 03:45 • ข่าว
คนมีปืน จะป้องกันตัวเองให้พ้นข้อกล่าวหา รอดคุก ได้ด้วยแนวทางใด ต้องอ่าน และจำติดตัวไว้
Ruger .380
หลายปีก่อน คงจำข่าว คนสูงวัย กับคนวัยไม่สูง ระหว่าง ลุงวิศวะ ภรรยา กับเด็กมัธยม ม.4 และกลุ่มวัยรุ่นที่ตลาดอ่างศิลา จังหวัดชลบุรี มีเรื่องกัน
ข่าวลุงวิศวะ - ศาลชั้นต้นจำคุก 10 ปี
มูลเหตุตั้งต้น คือ
รถตู้ของผู้ตาย จอดซ้อนคันปิดทางออกรถของลุงวิศวะกับภรรยา
ลุงกับภรรยา เดินไปบอกให้ช่วยเลื่อนขยับรถเปิดทางออก
ผู้ตายกับพวกหลายคน แสดงความเป็นนักเลงโต อาละอาดเสียงดัง แสดงอารมณ์เกรี้ยวกราด ข่มขู่ด้วยกริยาอาการ คำพูด แถมรุมทำร้ายลุงด้วยการใช้หมัดชกต่อยจากด้านหลัง
เรียกว่ารุมกันเอาเรื่องประมาณนั้น ผล คือ ลุงโดนต่อยจากด้านหลัง ทั้งเจ็บ ทั้งโกรธ ทั้งกลัว เพราะพวกวัยรุ่นมันมากันหลายคน
ลุงวิศวะกับบทเรียนการใช้อาวุธปืนป้องกันตัว
เหตุแห่งการแตกหัก มันเริ่มหลายจุด และจุดชนวนสำคัญ คือ
1.ผู้ตาย และกลุ่มเพื่อนๆ มายืนล้อมรถของลุงกับภรรยา
2.ผู้ตาย ยื่นหน้าเข้ามาท้าทาย ข่มขู่ลุงในตัวรถว่า “มึงจะรบป่าว” พูดเสียงดังหลายครั้ง
สถานการณ์แบบนี้ ใครจะแยกออกระหว่างความกลัว ความโกรธ ความหวาดหวั่น เป็นเวลาวิกฤตเป็นตายเท่ากัน เพราะหากใครสักคนที่ยืนล้อมรถมีอาวุธ นอกจากหมัดเท้าเข่าศอก มันก็คงเอามาลงที่รถ ที่คนแน่นอน
ห้วงเวลาเป็นตายแบบนี้ ระหว่างคิดว่าจะขอให้คนช่วย รอตำรวจ ขอความช่วยเหลือกับตำรวจ จะทันการณ์ จะผ่านพ้นเหตุการณ์แบบนี้ง่ายๆ คงไม่มี
การตัดสินใจครั้งสำคัญ คือ การป้องกันตนเองและภรรยา จะป้องกันภยันตรายที่อาจถึงแก่ชีวิตของตนเองและภรรยาอย่างไร นั่นคือคำถามที่ถามสังคม ถามถึงกระบวนการยุติธรรมไทย
เหตุการณ์นี้เริ่มจากกลุ่มวัยรุ่นจอดรถขวางรถของลุง จบลงด้วยลุงถูกรุมทำร้าย แล้วถูกดำเนินคดีอาญาด้วยอัตราโทษ 5 ปี ก่อนลดมาเหลือ 3 ปี 4 เดือน แล้วให้รอลงอาญา
เหตุผล คือ เป็นการลั่นไกปล่อยให้กระสุนไปถูกผู้ตายเพื่อป้องกันตัว
คำถามว่า
1.สามีภรรยาคนสูงวัยทั้งคู่ ถูกล้อมกรอบด้วยวัยรุ่น คุณคิดว่าระหว่างความกลัววิตกกังวล กับความโกรธอันไหนจะเกิดขึ้นมากกว่ากัน
2.ทั้งสองอยู่ในมุมอับพื้นที่จำกัด จะหนี หรือจะสู้พละกำลังและวัยจะไหวหรือเปล่า หรือจะยกมือกราบขอโทษ ขอให้กลุ่มวัยรุ่นสงบสติอารมณ์ หยุดคุกคามมันเป็นไปได้กี่มากน้อย
3.ทั้งสองจะเคลื่อนตัวเพื่อออกจากจุดเกิดเหตุไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจมันจะเป็นไปได้กี่มากน้อย มันจะทันการณ์แน่นะ หรือถ้าตำรวจมาแล้วกลุ่มวัยรุ่นไม่ยอม ไม่สนใจ ตำรวจใช้ปืนป้องกันตัว กับลุงใช้ปืนป้องกันตัวมันต่างกันตรงไหน
คำตอบคือ
1.เชื่อว่าตอนแรกมีความโกรธ สุดท้ายจบด้วยความกลัว วิตกกังวล เพราะเหตุการณ์มันไม่ใช่เกิดกันแค่ 1 ต่อ 1
2.ในเหตุการณ์แบบนั้น อย่าคิดรอตำรวจ อย่าคิดว่าตำรวจจะมาช่วยทัน ต้องคิดเอาตัวให้รอดแบบไม่ผิดกฏหมายก่อน แบบไหน อย่างไรโปรดอ่านต่อตอนท้าย
3.เมื่อเคลื่อนตัวไม่ได้ การติดต่อกับตำรวจทางโทรศัพท์อาจต้องทำแบบฉบับพลัน หรือตะโกนขอความช่วยเหลือจากคนแถวนั้นด้วยคำพูดบางคำพูด แล้วบันทึกคลิปเหตุการณ์ไว้ด้วย
ต่อไปนี้ คือ การถอดบทเรียนจากคำพิพากษาของศาลสูงที่ท่านเมตตาแก้คำพิพากษาศาลล่างให้ลดโทษน้อยลง คือ
1.จุดเริ่มต้น ก่อความโกรธให้ลุง แต่ลุงไม่มีสิทธิเอาปืนไปยิงใคร การสาดอารมณ์เข้าใส่จะกลายเป็นทะเลาะเบาะแว้งสมัครใจวิวาทกัน รูปคดีจะเปลี่ยนไปอีก ทะเลาะกับคนมือเปล่า เรามีปืน น้ำหนักการปะทะไม่เท่ากัน ความผิดเราเห็นๆ อีก
2.เมื่อผ่านช่วงเวลาแห่งความโกรธไปแล้ว มีเวลาคิดไตร่ตรอง จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร จะขอความช่วยเหลือจากตำรวจ หรือจะเอาอย่างไรดี ตรงนี้พึงระวังคำให้การ และการตอบคำซักค้าน เพราะหากปล่อยให้อุณหภูมิความโกรธ ความขัดแย้ง ลดน้อยถอยลง ความระงับยับยั้งชั่งใจเข้ามาแทนที่ การยิงในช่วงเวลานี้ เข้าข่ายไม่ใช่ป้องกันตัว ไม่ใช่บันดาลโทสะ แต่มันจะกลายเป็นเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
3.แต่เมื่อเหตุการณ์เข้าสู่ช่วงชุลมุน ฉับพลันทันที วิกฤติความเป็นความตาย การป้องกันตัวเองจากการทุบทำร้ายด้วยมือเปล่าของบุคคลอื่นหลายคน โดยที่เราหลังชนฝา เพราะอยู่ในรถพื้นที่จำกัด ไม่รู้จะหนีไปไหน กรณีนี้ ถ้ากลุ่มวัยรุ่นมีไม้ มีด อิฐ หิน หรือมีหลายบาทา หลายมือ หลายหมัดที่รุมกระหน่ำเรา อย่างนี้ ก็คงต้องใช้วาจาสั่งให้หยุดการกระทำ ถ้าไม่หยุดเราจำเป็นต้องป้องกันตัว เริ่มด้วยการเตือน แล้วตามด้วยป้องกันตัวกรณีนี้ ค่อนข้างเป็นไปได้สูงว่าเราขาดเจตนาในการทำร้ายเขาให้ถึงแก่ความตาย ศาลสูงมองว่า การยิงสวนไปนัดเดียว เพื่อหยุดการทำร้ายด้วยกลุ่มคนที่มามือเปล่า จะมองเป็นเจตนาฆ่าให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายก็ดูรุนแรงเกินไป จึงใช้คำว่าฆ่าเพื่อผู้อื่นป้องกันตัว จึงลดโทษจำคุก และให้รอการลงอาญา
4.สรุปว่า พกปืนไว้ป้องกันหมาหมู่รุมทำร้าย หากหมาตัวใดตัวหนึ่งตายด้วยปืนที่พกไป คนพกปืน ก็ยังมีความผิดฐานฆ่าหมาแต่เพื่อป้องกันตัวเอง ยังไงก็โดนลงโทษจำคุก แต่อาจโชคดีได้รอลงอาญา
มาถึงตรงนี้ เราอาจต้องเขียนบท เตรียมการรองรับกรณีเกิดคดีใหม่ ดังนี้
1.เมื่อเกิดเหตุ จอดรถขวาง บัง ปิดกั้นไม่ให้เราออก โดยคนที่เข้าข่ายหมาบ้า หมาหมู่ ทางที่ดีที่สุด คือ โทรแจ้ง 191 หรือ ตำรวจท้องที่ ขอความช่วยเหลือ และหากตำรวจช่วยเหลืออะไรไม่ได้ ไม่มาช่วยเหลือ จึงเจรจากับหมาหมู่ให้เปิดทาง อย่าลืมถ่ายคลิป หรือไลฟ์สดเก็บบันทึกเหตุการณ์ไว้ด้วย
2.เมื่อเจรจากับหมาหมู่ แล้วเกิดวิวาทะ อย่าลืมบันทึกเหตุการณ์ด้วยคลิป ใช้วาจาสุภาพในการเจรจา และหากคู่กรณี แสดงความเป็นอันธพาลอย่าลืมโทรแจ้งตำรวจอีกรอบ พร้อมบันทึกเหตุการณ์ด้วยมือถือ ถ้าตำรวจยังช่วยไม่ได้ ก็เตรียมรับมือกับหมาหมู่ในรถ
3.การรับมือกับหมาหมู่ จงบันทึกเหตุการณ์ไว้ในมือถือ และตั้งสติมั่นในรถ เตรียมพร้อมขึ้นลำ พร้อมลั่นกระสุนเพื่อข่มขู่ หรือหยุดเหตุการณ์ ก่อนลั่นกระสุนแจ้งหมาหมู่ให้ถอยห่างจากรถ จากตัวบุคคล หากเข้ามาเราจำเป็นต้องป้องกันตัว โดยระหว่างนั้นบันทึกเหตุการณ์ และค้างสาย 191 ให้ตำรวจได้ยินด้วย
4.เมื่อต้องลั่นกระสุน ต้องแจ้งคู่กรณีว่าถ้าทำร้ายเราแบบนี้ เราจำเป็นจะต้องป้องกันตัว คุณกรุณาถอยออกไป เตือนด้วยคำพูดดังๆ 2-3 ครั้ง หากหมาหมู่ยังรุมเข้ามาอีก ทำท่าถอยรถ และเดินหน้า พร้อมกับดำเนินการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ไม่เลือกจุด เอาตรงไหนก็ได้กลางๆ ตัวแบบไม่เล็ง ไม่ตั้งใจให้ตาย แต่ตั้งใจให้กลัว หรือหยุดการกระทำ
5.หลังลั่นไกไปแล้ว ให้รีบออกจากที่เกิดเหตุ ไปสถานีตำรวจทันที เพราะการที่อยู่ในที่เกิดเหตุอันตรายมากอาจโดนหมาหมู่ที่เหลือทำร้ายถึงชีวิต และรีบไปแจ้งเหตุการณ์ลงบันทึกประจำวันกับตำรวจทันที ไม่ต้องรอให้ตำรวจมาที่เกิดเหตุ
อุทาหรณ์เรื่องนี้ มีบทสรุปว่า การเรียงลำดับเหตุการณ์ วางแนวทางการระงับยับยั้ง และเตรียมพร้อมในการรุก รบ รับ เมื่อมีเหตุการณ์ฉับพลันทันที มีความสำคัญต่อรูปคดี ทุกวินาที ทุกรายละเอียด ทุกคำพูด ทุกอารมณ์ ต้องแวดล้อมด้วยปัจจัยเอื้อ จึงจะได้ประโยชน์มากกว่าเสียประโยชน์ จงจำไว้
อย่าเชื่อหลักกฏหมาย อย่าเชื่อว่าใครจะช่วยเราได้ โดยเฉพาะภาวะคับขัน ตำรวจไม่มา มาไม่ทัน ติดต่อตำรวจไม่ได้ เรามีแต่เสี่ยง กับเสียหาย
การพาเอาตัวออกจากเหตุการณ์ ดีกว่าให้เหตุการณ์พาเราไปสู่คดี
หิวแสง โหนกระแส ขอให้ข้อคิดไว้ดั่งนี้
1 บันทึก
2
1
1
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย