8 พ.ค. 2022 เวลา 16:40 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ข้อมูล maximum drawdown ในอดีตอาจกำลังบอกว่า downside ตลาดเริ่มจำกัดแล้ว
อีกข้อมุลที่อาจจะกำลังบอกว่า การปรับฐานไกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว และมี downside ของตลาดไม่น่าเกิน -10%
โดยการศึกษาข้อมูล Maximum drawdown ในอดีตโดยใช้ข้อมูลจาก yahoo finance เพื่อศึกษาการเกิด maximum drawdown ของบริษัทจดทะเบียนในตลาด S&P 500 ของสหรัฐอเมริกา ผมได้คำนวณหา Maximum drawdown แต่ละปีแล้วนำมาเปรียบเทียบโดยเฉพาะปีที่ Fed ทำ Tapering ในปี 2018
ถ้าดูจากจำนวนหุ้น 100 ตัวแรกที่ใหญ่ที่สุดของ S&P 500 ซึ่งคิดเป็นเกือบ 80% ของมูลค่าตลาด เราพบว่า ในปี 2018 นั้น บริษัทมีการปรับฐานโดยเฉลี่ยอยู่ช่วง -10% ถึง -30% ตามแท่งสีฟ้า ส่วนปัจจุบันคือแท่งสีส้ม หุ้นส่วนใหญ่มีการปรับตัวลงมาแล้ว -20% หุ้นที่ยัง outperform ในปีนี้ ส่วนใหญ่คือกลุ่มพลังงานที่ได้ windfall จากสงครามในรัสเซีย
Maximum drawdown ของหุ้น 100 ตัวแรกที่ใหญ่ที่สุดในตลาด S&P 500
ถ้าลองแบ่งหุ้นตาม market cap เป็นสี่กลุ่ม Quartile กลุ่มละ 25% จะพบว่า ถ้าเทียบกับตอนปี 2018 แล้ว อาจจะมี downside อีกประมาณโดยเฉลี่ยไม่เกิน -10%
ถ้าพิจารณาเฉพาะหุ้นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด 25% แรกของตลาด ถ้าเทียบปี 2018 หรือมูลในอดีตย้อนหลังไปถึงปี 2008 ที่เกิดวิกฤต Hamburger จะเห็นว่า ถ้าไม่ใช่ crisis ที่เกิดการ liquidate รุนแรงแบบตอน 2008 จะเห็นว่า maximum drawdown ของกลุ่มนี้ จะไม่ค่อยเกิน -30% จากปัจจุบันที่ลงมาแล้วประมาณ -20%
พอไปดูกลุ่ม Quartile ถัดไปคือ มี market cap ในช่วง 25%-50% แรก ก็จะเห็นว่ากลุ่มนี้ มี drawdown ในปี 2018 ที่อีกไม่เกิน -10% เช่นกัน เว้นแต่ตอนช่วง Covid ที่ลงไปแรงกว่ากลุ่มแรก
ประกอบกับการวิเคราะห์ข้อมูลอื่นๆก่อนหน้า ชี้ไปในทางเดียวกันว่า downside ของตลาดเริ่ม limit และหากลงไปอีก -10% ซึ่งอาจจะเป็นวันที่เกิด panic sale จะมีแรงซื้อกลับและเป็นการสิ้นสุดขาลงของตลาดก็เป็นได้ครับ
โฆษณา